นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการปรับแผนจัดทัพบุกเจาะตลาดอาเซียน ภายใต้กลยุทธ์ Deepening ASEAN หรือการเจาะลึกรายประเทศ ลงสู่เมืองรองของแต่ละประเทศในปี 2559 อาทิ เสียมราฐ พระสีหนุ เกาะกง หลวงพระบาง จำปาสัก สะหวันนะเขต มัณฑะเลย์ เมีย..
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการปรับแผนจัดทัพบุกเจาะตลาดอาเซียน ภายใต้กลยุทธ์ Deepening ASEAN หรือการเจาะลึกรายประเทศ ลงสู่เมืองรองของแต่ละประเทศในปี 2559 อาทิ เสียมราฐ พระสีหนุ เกาะกง หลวงพระบาง จำปาสัก สะหวันนะเขต มัณฑะเลย์ เมียวดี มะริด ไฮฟอง ดาเวา เซบู เป็นต้น รวมถึงเน้นสร้างความเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในอาเซียน ตลอดจนมุ่งให้การส่งเสริมนักธุรกิจเดิมที่ลงทุนทำการค้าในอาเซียนอยู่แล้ว และนักธุรกิจใหม่กลุ่มที่เป็น SME ที่เป็นอนาคตของประเทศ
ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน จัดตั้งขึ้นที่กระทรวงพาณิชย์ และในอาเซียน 9 แห่ง ในสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ภูมิภาคอาเซียนใน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า /กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย /กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ /กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม /นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม /กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา /นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว และประเทศสิงคโปร์
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากผู้ประกอบการขอรับบริการข้อมูลจากศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน หรือ AEC Business Support Center ในไทยและในอาเซียนอีก 9 แห่งมีจำนวนมากถึง 18,958 ราย และในจำนวนนี้ สามารถเปิดกิจการในตลาดอาเซียน จนเห็นผลสำเร็จจริงอย่างเป็นรูปธรรมแล้วกว่า 50 ราย
ปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดอาเซียน มีประมาณร้อยละ 25 หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของตลาดส่งออกของไทย ดังนั้นการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจไทยทั้งในด้านการค้าและการลงทุน อาเซียนจะกลายเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกันที่มีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน และแรงงานฝีมือจะเปิดกว้างมากขึ้น
ที่มา สำนักข่าวไทย