นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย กล่าวในงานเสวนา “อี-คอมเมิร์ซ โอกาสทองของโชห่วยยุคใหม่” ว่า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีส่วนส่วนสำคัญช่วยผลักดันธุรกิจค้าปลีกของไทยให้ขยายตัว เนื่องจากทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นเฉลี่ย 14.87..
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย กล่าวในงานเสวนา “อี-คอมเมิร์ซ โอกาสทองของโชห่วยยุคใหม่” ว่า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีส่วนส่วนสำคัญช่วยผลักดันธุรกิจค้าปลีกของไทยให้ขยายตัว เนื่องจากทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นเฉลี่ย 14.87 ล้านคน มูลค่าตลาดกว่า 220,000 ล้านบาทในปีนี้ ทำให้มองว่าการให้ความรู้ผู้ประกอบการค้าปลีกโดยเฉพาะโชห่วยพัฒนาตัวเองในการใช้อี-คอมเมิร์ซทำธุรกิจจะเป็นการช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับ โชห่วยไทย และธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น
ทั้งนี้ การประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ต ในการให้บริการ 4 จี ของผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะยิ่งช่วยผลักดันให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ผู้ประกอบการต้องพัฒนาหน้าร้าน รวมถึงปรับตัวเพื่อเข้าสู่ระบการจำหน่ายสินค้าและบริการที่หลากหลาย ขณะเดียวกันทางภาครัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ต้องปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซด้วย ปัจจุบันกฎหมายยังไม่ครอบคลุมการเอาผิดกับผู้ละเมิดการทำการค้า สินค้าและบริการผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าธุรกิจค้าปลีกของไทยปีนี้มีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท โดยเป็นอี-คอมเมิร์ซถึง 40,000 ล้านบาท และคาดว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้าจากการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อย่างเต็มรูปแบบปลายปีนี้ ทำให้ตลาดกว้างขึ้น ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์เร่งส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจอี-คอมเมิร์ซให้เกิดขึ้น เพราะการค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซจะช่วยลดต้นทุน และทำให้การค้าขยายตัวได้อย่างยั่งยืน
ที่มา – สำนักข่าวไทย
