นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้ขยายวงเงินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% ต่อปี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี อีก 50,000 ล้านบาท หลังจากการดำเนินโครงการในช่วงแรกที่ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 100,000 ล..
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้ขยายวงเงินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% ต่อปี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี อีก 50,000 ล้านบาท หลังจากการดำเนินโครงการในช่วงแรกที่ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 100,000 ล้านบาท ได้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสนใจเข้ามาขอสินเชื่อหมดภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ดังนั้นจึงได้ขยายวงเงินเพิ่มอีก แต่ลดวงเงินกู้ลงจากเดิมที่ให้รายละ 50 ล้านบาท เหลือเพียงรายละ 10 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบให้ตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยออกเป็นร่างพระราชบัญญัติมารองรับ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไปแล้ว 10 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยรัฐจะจัดสรรวงเงินงบประมาณประเดิมลงไปก่อน 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดกว้างให้ ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน ,ค่าใช้จ่ายทำวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม ,ค่าใช้จ่ายพัฒนาบุคลากร ,ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ได้ด้วย
ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนกองทุนฯ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทำหน้าที่อนุมัติวงเงินให้กับแต่ละอุตสาหกรรมที่เสนอเข้ามา โดยผ่านคณะอนุกรรมการสรรหาและเจรจา และคณะอนุกรรมการอื่น ๆ ที่ไปดึงดูดผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่าง ขณะที่วงเงินตั้งต้น 10,000 ล้าน บาทนั้น ทุกสิ้นปีงบประมาณหากกองทุนมีเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพันคงเหลือในกองทุน เกินกว่าวงเงินตั้งต้นที่มีอยู่ ก็ให้นำส่วนที่เกินหนึ่งส่งคลัง เป็นรายได้แผ่นดิน แต่ในกรณีกองทุนมีจำนวนเงินไม่ถึงเงินตั้งต้น ก็ให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุน จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ครบตามจำนวนต่อไป
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 ประเภท คือ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ,อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ,อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ,การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ ,อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารม ,อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ,อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ,อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ,อุตสาหกรรมดิจิตอล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/368667