โพล์เผย 10 เรื่องเอสเอ็มอีต้องทำก่อนอาเซียน แนะให้เลือกประเทศเป้าหมายก่อน อย่าเพิ่งหว่านแหทุกประเทศ พร้อมลงพื้นที่ศึกษาให้จริงจัง
โพล์เผย 10 เรื่องเอสเอ็มอีต้องทำก่อนอาเซียน แนะให้เลือกประเทศเป้าหมายก่อน อย่าเพิ่งหว่านแหทุกประเทศ พร้อมลงพื้นที่ศึกษาให้จริงจัง
ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPURC) ร่วมกับนิตยสาร SME Thailand ทำการสำรวจความเห็นของนักธุรกิจญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทย จำนวน 128 ราย ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2555 เกี่ยวกับแนวทางการเตรียมตัวของ SME ไทย เพื่อให้พร้อมสำหรับการที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในปี 2558
ในการสำรวจ ผู้ให้ข้อมูลจะเป็นผู้ประเมินระดับความสำคัญของแนวทางการเตรียมตัวในแต่ละเรื่อง โดยมีคะแนนอยู่ระหว่าง 1-5 คะแนน คะแนนที่ต่ำ หมายความว่าแนวทางนั้น มีความสำคัญน้อย คะแนนที่สูง หมายความว่าแนวทางนั้น มีความสำคัญมาก โดยหัวข้อมีให้เลือกมีทั้งสิ้น 20 หัวข้อ แล้วนำผลที่ได้มาเรียงลำดับตามระดับคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด แล้วเลือกเอาแนวทางการเตรียมตัวที่ได้คะแนนสูงที่สุด 10 อันดับแรก เพื่อนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่างจำนวน 35 ราย
คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์คือ “หากท่านเป็นผู้ประกอบการ SME ไทย นอกจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคุณภาพสินค้า และการสร้างนวัตกรรม ท่านมีแนวทางการเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้พร้อมสำหรับการที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน”
แผนภูมิที่นำเสนอ เป็นผลการจัดอันดับของแนวทางการปรับตัว 10 อันดับ โดยมีรายละเอียด คือ อันดับที่ 1 เลือกประเทศในอาเซียนที่จะทำตลาด, อันดับที่ 2 ซื้อสินค้าจากประเทศเป้าหมายมาทดลองใช้, อันดับที่ 3 ทำความเข้าใจกับกฎระเบียบของประเทศเป้าหมาย
อันดับที่ 4 หัดใช้ภาษาอังกฤษในองค์กร, อันดับที่ 5 สร้าง/หาบุคลากรที่สามารถใช้ภาษาของประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายได้, อันดับที่ 6 ดูโทรทัศน์/ภาพยนตร์ของประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมาย, อันดับที่ 7 เดินทางไปประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมาย
อันดับที่ 8 ทำความคุ้นเคยกับสื่อในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมาย, อันดับที่ 9 หัดใช้ cyber marketing และอันดับ 10 ทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมในการทำธุรกิจของประเทศเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม ผลการจัดอันดับของแนวทางการปรับตัว 10 อันดับชี้ให้เห็นว่า SME ของเรายังมีการบ้านชุดใหญ่ที่ต้องทำ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการทำธุรกิจในอาเซียน ลำพังแค่การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้า มีนวัตกรรม ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า เราจะประสบความสำเร็จได้ เพราะโดยสาระสำคัญแล้ว ธุรกิจจะไปรอดหรือไม่รอด อยู่ที่ว่าเราจะขายของได้หรือไม่ มีของดี ถ้าขายไม่เป็น สุดท้ายก็เจ๊งอยู่ดี
ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ "webboard" ในกระทู้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น