สสว.เล็งพัฒนารูปแบบสินค้า-แพคเกจจิ้งใหม่เทียบชั้นญี่ปุ่นขายร้านประชารัฐสุขใจ ด้านปั๊มน้ำมัน – ห้างภูมิภาคแห่ขอร้านประชารัฐตั้งพื้นที่ ช่วยเอสเอ็มอี
สสว.เล็งพัฒนารูปแบบสินค้า-แพคเกจจิ้งใหม่เทียบชั้นญี่ปุ่นขายร้านประชารัฐสุขใจ ด้านปั๊มน้ำมัน – ห้างภูมิภาคแห่ขอร้านประชารัฐตั้งพื้นที่ ช่วยเอสเอ็มอี
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ทีซีดีซี) พัฒนารูปแบบสินค้า เช่น แพคเกจจิ้งของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนสินค้าโอท็อปและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่จะเข้ามาร่วมจำหน่ายสินค้าในโครงการร้านประชารัฐสุขใจ ที่ตั้งในสถานีบริการน้ำมันปตท. ซึ่งมีลักษณะจุดจำหน่ายสินค้าชื่อดังเหมือนประเทศญี่ปุ่น คาดว่า จะเปิดให้บริการภายในเดือนเม.ย. นี้ จำนวน 148แห่งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศ
“ได้ร่วมกับทีซีดีซี มาพัฒนารูปแบบสินค้า (โปรดักส์รีโนเวชั่น) ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่จะนำไปขายในร้านค้าดังกล่าวลักษณะเดียวกับโฆษณาเปลี่ยนแล้วรวย ของทีซีดีซี เช่น ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดใจลูกค้าให้มากขึ้นโดยสสว.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดเลือกสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและส่งต่อให้ทีซีดีซี พัฒนาต่อไป ซึ่งทีซีดีซี ระบุว่า หากให้ปรึกษากับเอสเอ็มอีที่เข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ต้องการต่อยอดผ่านระบบออนไลน์แต่ละปีจะได้เป็นหลักหมื่นราย แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกคาดว่า จะได้ประมาณ 500 ราย หากประสบความสำเร็จ ต่อไปสสว.จะร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีศูนย์ออกแบบ คาดว่า ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี”
นอกจากนี้มีบริษัทน้ำมันและห้างสรรพสินค้าตามภูมิภาคหลายแห่งติดต่อขอนำร้านค้าประชารัฐสุขใจซึ่งโดยสสว.แจ้งว่าขอพิจารณาการเปิดร้านดังกล่าวในสถานีบริการน้ำมันบมจ.ปตท.ที่จะเปิดตัว 148 แห่งทั่วประเทศในเดือนเม.ย. นี้ก่อนว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างไร จึงจะตัดสินใจขยายพื้นที่ไปจำหน่ายที่อื่นๆต่อไปโดยร้านค้าประชารัฐ เป็นการร่วมมือกันระหว่างสสว. กรมพัฒนาชุมชนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารเอสเอ็มอี ซึ่งจะคัดเลือกสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาจำหน่ายในร้านค้า ที่อยู่ในปั๊มปตท.ที่ให้ใช้พื้นที่ฟรี ขนาดประมาณ 3 คูณ 5 เมตรเป็นร้านค้าถาวร มีสินค้าประมาณ 100 – 200 รายการ
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/375901