นายประเดิมชัย จันทน์เสนะ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยใช้นวัตกรรมในกระบวนการผลิต ในส่วนของธ.ก.ส.ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเช่นกัน
นายประเดิมชัย จันทน์เสนะ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยใช้นวัตกรรมในกระบวนการผลิต ในส่วนของธ.ก.ส.ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเช่นกัน
โดยล่าสุด ในปี 2559 ธ.ก.ส.จะปล่อยสินเชื่อตาม “โครงการ 1 ตำบล 1 SMEs เกษตร” วงเงินสินเชื่อรวม 72,000 ล้านบาท มีเป้าหมายให้การสนับสนุนเงินทุนให้แก่เอสเอ็มอี และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้นำเงินสินเชื่อที่จะได้รับการไปสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทานและยังช่วยสร้างความยั่งยืนแก่ภาคเกษตรไทยอีกด้วย โดยสินเชื่อนี้ มีระยะเวลาผ่อนชำระนาน 10 ปี แบ่งเป็น 7 ปี แรกคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนร้อยละ 4 ต่อปี ส่วน 3 ปีหลังคิดอัตราดอกเบี้ย MRR
ธ.ก.ส.ประเมินว่า วงเงินสินเชื่อที่จะเริ่มปล่อยได้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งมียอดรวม 72,000 ล้านบาท จะช่วยให้เกิดมูลค่าเพิ่มและกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมหลายรอบ อย่างน้อยในปี 59 ประมาณจะหนุนเวียนได้ถึง 300,000 ล้านบาท
สำหรับสินค้าทางการเกษตรที่ได้รับการยกระดับจากการนำนวัตกรรมไปใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร จะได้รับการช่วยเหลือนำออกไปวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส ท็อปซูเปอร์มาร็เก็ต สถานีบริการน้ำมันของบมจ.ปตท.และบมจ.บางจากปิโตรเลียม และอื่นๆ รวม 30 บริษัทต่อไป
ที่มา-สำนักข่าวไทย