แนะ SME เครื่องหนังอัพเกรดแบรนด์หนีตาย

เครื่องหนังไทยเจอมรสุมรอบด้าน นายกเครื่องหนังฯแนะ SME เร่งสร้างแบรนด์อัพเกรดเจาะพรีเมี่ยมชดเชยต้นทุนพุ่ง เผยแม้ยุโรปเจอวิกฤตแต่ยังมีช่องทาง



เครื่องหนังไทยเจอมรสุมรอบด้าน นายกเครื่องหนังฯแนะ SME เร่งสร้างแบรนด์อัพเกรดเจาะพรีเมี่ยมชดเชยต้นทุนพุ่ง เผยแม้ยุโรปเจอวิกฤตแต่ยังมีช่องทาง

ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นายกสมาคมเครื่องหนังไทย กล่าวว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดการส่งออกเครื่องหนังไทยไปตลาดสหรัฐฯ และยุโรปตกลงไปกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ โดยตลาดสหรัฐฯ จะเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าเดินทาง ส่วนยุโรปจะเป็นกระเป๋าถือ ขณะเดียวกัน การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ยังส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

สำหรับปัญหาที่เจอตอนนี้ คือ พอเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าขาจรบางส่วนหายไป นอกจากนี้ ลูกค้ายังขอเครดิตเทอมนานขึ้นด้วยเพราะมีปัญหาสภาพคล่องในยุโรป ตอนนี้ทางเลือกการผลิตเราก็น้อยลง แถมมาเจอค่าแรงเพิ่มขึ้นอีก

ปัจจุบันตลาดหลักของผู้ประกอบการส่งออกเครื่องหนังไทยคือประเทศอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก ประเทศที่มีปัญหาโดยตรงคือสเปนพอมีอยู่แต่ไม่มาก ถ้าให้ประเมินผลกระทบที่มีต่อธุรกิจเครื่องหนัง คาดว่าน่าจะซึมไปตามเศรษฐกิจยุโรปซึ่งอาจจะเป็นไปตามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่บอกไว้คือ 5 ปีขึ้นไป

สิ่งที่สมาคมฯ กำลังเร่งให้สมาชิกต้องปรับตัวคือ การเน้น “สร้างแบรนด์” ให้สินค้ามี Value Added มากขึ้นสามารถขายได้ด้วยตัวเอง เพื่อมาชดเชยกับการเป็นผู้รับจ้างผลิตซึ่งต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงมาก ปัจจุบันสมาชิกของสมาคมมีรูปแบบการทำธุรกิจทั้งรับจ้างผลิตและสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ควรจะมีโครงสร้างธุรกิจที่สมดุลทั้งสองแบบ จากการที่ได้สำรวจสถานะของสมาชิก 180 รายยังพอที่จะประคองตัวเองไปได้

“คนยุโรปที่มีกำลังซื้อยังพอมีอยู่ รายได้เขายังไม่สะเทือนมากนัก ที่จะกระทบคือชนชั้นกลาง ผู้ประกอบการจึงควรเน้นสร้างแบรนด์ให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปจับกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น เพราะคนยุโรปเป็นคนที่ติดแบรนด์อยู่แล้วถ้าสามารถผลิตสินค้าที่ตรงความต้องการเขาได้”

นอกจากนี้ ยังควรมองหาโอกาสที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นโดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งผู้คนมีอำนาจในการจับจ่ายมากขึ้น ที่สำคัญคือมีจำนวนคนรวยและชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและคนจีนมักไม่อยากใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ ที่สำคัญฝีมือการผลิตของคนไทยไม่เป็นรองใคร แม้แต่แบรนด์ชั้นนำอย่าง COACH ยังย้ายฐานผลิตจากจีนมายังไทยเลย แต่ตอนนี้ที่ประเทศจีนยังติดปัญหาเรื่องกำแพงภาษีอยู่คงเป็นปัญหาที่ต้องตามแก้ต่อไป

ในส่วนโอกาสของ SME ไทยที่ประกอบธุรกิจเครื่องหนังหรือแม้แต่ธุรกิจอื่นในการบุกตลาดยุโรปยังพอมีอยู่ แต่ภาครัฐต้องเข้ามาให้การสนับสนุนทางด้านโลจิสติกส์เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถขยายช่องการขายอีคอมเมิร์ซได้มากขึ้น จะสามารถลดต้นทุนการขนส่งลงไปได้มากจากตอนนี้จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทโลจิสติกส์จากต่างชาติเป็นหลัก ถ้าหากไม่สามารถลดต้นทุนการขนส่งและระบบจัดจำหน่ายลงได้จะแข่งขันลำบาก

“รูปแบบการขายแบบ Door to Door น่าจะเป็นโอกาสของ SME ในการทำตลาดใหม่ในต่างประเทศแม้กระทั่งในยุโรป รวมถึงเป็นการเปิดช่องให้นำเสนอสินค้ามีแบรนด์ซึ่งมี Value Added ได้ ผู้ประกอบการควรจะต้องเร่งปรับตัวเข้าหาเชื่อว่าจะสามารถไปได้ไกลกว่านี้มาก” นายกสมาคมเครื่องหนังไทย กล่าว

NEWS & TRENDS