มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ผุดเมกะโปรเจกต์ บนอาคารเคเอกซ์ หรือ KX (Knowledge Exchange) อาคารมีชีวิตแห่งใหม่ย่านใจกลางเมือง ผนึกกำลังนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมยักษ์ใหญ่ภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอี กลุ่มอาหาร กลุ่มยานยนต์ กลุ่มไฟ..
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ผุดเมกะโปรเจกต์ บนอาคารเคเอกซ์ หรือ KX (Knowledge Exchange) อาคารมีชีวิตแห่งใหม่ย่านใจกลางเมือง ผนึกกำลังนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมยักษ์ใหญ่ภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอี กลุ่มอาหาร กลุ่มยานยนต์ กลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มการแพทย์ แก้วิกฤตปัญหากับดักประเทศรายได้ปานกลาง
ประเทศจะพัฒนาไปข้างหน้ามีความจำเป็นจะต้องใช้ "ความรู้" เป็นเครื่องมือสำคัญในทุกๆ ด้าน ท่ามกลางความกดดันของสถาบันอุดมศึกษาที่ต้องเร่งผลิตบัณฑิตคุณภาพ สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการมีสถาบันอุดมศึกษาคิดนอกกรอบยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่ม SMEs
รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เปิดเผยว่า ได้เปิดโครงการอาคารเคเอกซ์ หรือ KX (Knowledge Exchange) ซึ่งเป็น Open Collaboration Platform ทางความรู้ โดยที่อาคารแห่งนี้จะถูกบริหารจัดการให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดึงดูดให้ภาคเอกชนเข้ามาพูดคุยกันรวมถึงเป็นพื้นที่ให้มหาวิทยาลัยได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ลงสู่การแก้ไขปัญหาให้กับภาคธุรกิจเอสเอ็มอีได้อย่างเต็มความสามารถและครบวงจร
การจะทำแบบนี้สำเร็จได้ แน่นอนว่าความสำคัญอยู่ที่การได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน เราต้องการยกสมรรถนะของเอสเอ็มอี กลไกของเราคือต้องทำงานร่วมกับคนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการเห็นเอสเอ็มอีดีขึ้น นั่นก็คือภาครัฐ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบริษัทใหญ่ๆ ก็ต้องการพัฒนาซัพพลายเชนของเขา คือ กลุ่มเอสเอ็มอีให้ป้อนสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาถูกลงให้กับบริษัทก็จะทำให้เอสเอ็มอีมีกำไรมากขึ้นด้วย ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์และเกิดการพัฒนา
ดังนั้น มจธ.จะต้องร่วมมือกับบริษัทใหญ่ๆ ให้มาก และเข้าใจว่านี่คือประโยชน์ของประเทศชาติ ความร่วมมืออีกส่วนหนึ่งก็คือภาครัฐ ซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนเอสเอ็มอีให้แข็งแรง กลไกที่เราทำขึ้นนี้รัฐต้องช่วยเหลือเราในเรื่องกิจกรรม เช่น ถ้าเอสเอ็มอีมีความต้องการที่จะพัฒนาตัวเอง บางครั้งเขาก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญ แต่ไม่มีทุน ภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยอาจจะสัดส่วน 50:50 หรือ 70:30 ซึ่งปัจจุบันนี้มีทั้งสมาคมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งประเทศไทย และ สสว.เข้ามาร่วมด้วย
ส่วนภาคการศึกษาอย่าง มจธ. มีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่าง ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรีย อิหร่าน เป็นต้น เข้ามาร่วมกันที่จะวิจัยพัฒนานำความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน สิ่งเหล่านี้เป็น Knowledge Exchange ที่เราเน้นย้ำเรื่องนี้มากและนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม มจธ. จึงต้องสร้างตึกเคเอกซ์ขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ตั้งใจออกแบบให้อาคารนี้มีบรรยากาศที่เอื้อให้เราทุกภาคส่วนสามารถทำภารกิจเพื่อชาติบ้านเมืองให้ได้เต็มความสามารถที่สุด
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)