นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า เห็นด้วยบางส่วนกับข้อเสนอของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่จะให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำประมาณ 5-7% ในปี 2559 นี้ แต่ไม่ขึ้นทั่วประเทศ โดยให้มีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพียง 7 จังห..
นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า เห็นด้วยบางส่วนกับข้อเสนอของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่จะให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำประมาณ 5-7% ในปี 2559 นี้ แต่ไม่ขึ้นทั่วประเทศ โดยให้มีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพียง 7 จังหวัด ที่เคยขึ้นไปเมื่อกลางปี 2555 ก่อน เช่น 15 บาท
ทั้งนี้ อาศัยข้อมูลของการสำรวจของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน (คณะกรรมการค่าจ้าง) พิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในจังหวัดที่มีค่าครองชีพสูง เช่น จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของต่างชาติมากๆ นอกจากภูเก็ต เช่น พัทยา จ.ชลบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามค่าครองชีพได้ แต่ต้องปรึกษาคณะกรรมการค่าจ้างจังหวัดด้วย
สำหรับปี 2560 คณะกรรมการค่าจ้างก็พิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไปเลยโดยอัตโนมัติ จากฐานค่าจ้างเดิมของปี 2559 เช่น จ.มุกดาหาร มีดัชนีค่าครองชีพ 3% จากฐาน 300 บาท ค่าจ้างขั้นต่ำปี 2560 ก็คือ 309 บาท
ขณะเดียวกันรัฐบาลออกกฎหมายบังคับ ต้องให้สถานประกอบการตั้งแต่ขนาดกลางและขนาดใหญ่ทุกแห่ง มีโครงสร้างค่าจ้างตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป เพื่อมิให้สถานประกอบการเอาเปรียบลูกจ้างโดยอาศัยค่าจ้างขั้นต่ำเป็นบรรทัดฐานในการขึ้นค่าจ้างประจำปี
นายยงยุทธ กล่าวว่า การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจะส่งผลดี แรงงานมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น กระตุ้นการบริโภคลูกจ้างเอกชน อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำจนถึงติดลบ การขึ้นค่าจ้างจึงไม่กระทบเงินเฟ้อ และชดเชยค่าครองชีพ ซึ่งน่าจะเพิ่มขึ้นทุกปี ถึงแม้ว่าค่าจ้างขั้นต่ำถูกแช่แข็งอยู่ถึง 3 ปี อย่างไรก็ตามการขึ้นค่าแรงจะส่งผลกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ ทำให้ราคาสินค้าที่อยู่นอกเหนือการควบคุม มีราคาเพิ่มขึ้น
ที่มา www.posttoday.com