​ทีเส็บสนองนโยบายประชารัฐผ่าน 4 โครงการไมซ์

ทีเส็บสนองโจทย์นโยบายประชารัฐผ่าน 4 โครงการ หวังส่งเสริมและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนให้ธุรกิจไมซ์ในประเทศ พร้อมจับมือ 21 องค์กรตั้งเป้านักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ 24 ล้านคน/ครั้ง และสร้างรายได้ถึง 47,000 ล้านบาท



    ทีเส็บสนองโจทย์นโยบายประชารัฐผ่าน 4 โครงการ หวังส่งเสริมและกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนให้ธุรกิจไมซ์ในประเทศ พร้อมจับมือ 21 องค์กรตั้งเป้านักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ 24 ล้านคน/ครั้ง และสร้างรายได้ถึง 47,000 ล้านบาท 

    นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการทีเส็บและคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ กล่าวว่า  มุ่งส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในประเทศและสนองต่อนโยบายประชารัฐด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ จึงกำหนดแผนการส่งเสริมธุรกิจไมซ์ในประเทศปี  2559 พร้อมกำหนดเป้าหมายนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ 24 ล้านคน/ครั้ง สร้างและกระจายรายได้ออกไปยังภูมิภาค 47,000 ล้านบาท ผ่าน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ ซึ่งเป็นแคมเปญที่คณะทำงานสานพลังประชารัฐฯ นำไปเป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ในประเทศอย่างเร่งด่วน โดยมี 21 องค์กร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้าร่วม เพื่อสนับสนุนให้บริษัทเอกชนในเครือข่ายจัดประชุม สัมมนา และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทยอย่างน้อย 1 ประชุมหรือ 1 ทริป ต่อ 1 บริษัท ในต่างจังหวัดภายในปี 2559

    โครงการที่ 2 ส่งเสริมการจัดกิจกรรมไมซ์ในพื้นที่พิเศษ โดยชูโครงการพระราชดำริภายใต้กิจกรรม 3 ปีติ หรือ 3 วาระมงคลของชาวไทยปีนี้ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ 88 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา โครงการนี้มุ่งกลุ่มองค์กรสามารถเข้าไปทำกิจกรรมในพื้นที่โครงการพระราชดำริ  โดยทีเส็บจะร่วมสนับสนุนค่าพาหนะสำหรับองค์กรจัดกิจกรรมไมซ์ในพื้นที่โครงการพระราชดำริกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ สามารถจองแพ็คเกจประชุมผ่าน  44 บริษัททัวร์ หรือเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนำกลับมาต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาองค์กรและบุคลากรต่อไป

    โครงการที่ 3 ส่งเสริมตลาด Destination Promotion สร้างการรับรู้ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถรองรับธุรกิจไมซ์ มีเป้าหมายจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน 10 พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษในปีงบประมาณ 2559 ประกอบด้วย หนองคาย นราธิวาส เชียงราย นครพนม กาญจนบุรี ตาก มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา และตราด นับเป็นการช่วยกระตุ้นธุรกิจไมซ์ทั้งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษต่อเนื่องไปยังกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม สร้างองค์ความรู้ด้านไมซ์ ขยายการเติบโตของเศรษฐกิจหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  (เออีซี) ทำให้ไทยก้าวไปสู่ศูนย์กลางไมซ์ระดับอาเซียน  รวมทั้งส่งเสริมการจัดงานไมซ์ 300 กิโลฯ รอบกรุง โดยจะจัดทำฐานข้อมูลในแบบออนไลน์และออฟไลน์ความพร้อมของ 14 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะเสร็จปลายปีนี้  และโครงการที่ 4 ส่งเสริมการจัดกิจกรรมไมซ์ เน้นให้การสนับสนุนกับหน่วยงานภาคีที่มีศักยภาพในการจัดประชุมสัมมนา อาทิ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย

    นายกลินท์  สารสิน รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน Thailand Domestic MICE  Mart 2016  จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ถือเป็นโปรเจ็คท์นำร่องภายใต้แคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” นับเป็น 1 ใน 10 โครงการระยะเร่งด่วนของคณะทำงานสานพลังประชารัฐ  การส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์  โดยมีเป้าหมายเพื่อผนึกกำลัง ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม โดยภาคเอกชนสนับสนุนให้องค์กรภายในเครือข่ายร่วมกันดำเนินการส่งเสริมการจัดประชุม สัมมนา และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างจังหวัดอย่างน้อย 1 ประชุม หรือ 1 ทริป ต่อ 1 บริษัท เพื่อช่วยกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่นและชุมชน เพิ่มการใช้จ่ายในต่างจังหวัดมากขึ้น  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย โดยคณะทำงานสานพลังประชารัฐฯ ให้การสนับสนุน โดยร่วมเชิญกลุ่มผู้ซื้อซึ่งเป็นสมาชิกจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (ส.อ.ท.) และ 21 องค์กรเครือข่ายที่เซ็นเอ็มโอยูร่วมกัน

    สำหรับงาน Thailand Domestic MICE Mart 2016 นับเป็นงานเจรจาธุรกิจอุตสาหกรรมไมซ์ใหญ่ที่สุดในประเทศ คาดการณ์ว่าจะเกิดการเจรจาซื้อขายที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายประชารัฐที่เน้นการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน  โดยคณะผู้จัดงานมุ่งหวังจะพัฒนาให้เป็นงานแสดงสินค้าหรือ Trade Show ชั้นนำระดับประเทศ ภายใน 5 ปี.

ที่มา-สำนักข่าวไทย

NEWS & TRENDS