กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดจัดงาน Thailand e-Commerce Day ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 9 – 11 มิถุนายน 2559 เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ ห้องเพลนารี่ ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดจัดงาน Thailand e-Commerce Day ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 9 – 11 มิถุนายน 2559 เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ ห้องเพลนารี่ ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการที่จะเริ่มต้นค้าขายออนไลน์ รวมถึงผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยที่มีร้านค้าออนไลน์แล้วเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักช้อปออนไลน์
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Commerce เป็นที่นิยมของนักช้อปจากทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความง่าย สะดวก และรวดเร็ว อยากได้สินค้าชิ้นไหนแค่เปิดโทรศัพท์มือถือก็สามารถเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการจากร้านค้าออนไลน์ทั่วโลก วิธีการชำระเงินก็มีให้เลือกหลากหลายช่องทาง เมื่อชำระแล้วสามารถรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปถึงร้านให้เปลืองเงิน ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมากขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของไทยคาดว่าจะมีมูลค่าการตลาดสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาทต่อปี

ภายในงานยังมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการค้าออนไลน์ อาทิ มุมมองและทิศทางอีคอมเมิร์ซไทย เปิดตลาดโลกกับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เทคนิค การมัดใจลูกค้า กลเม็ดเคล็ดลับการตลาดดิจิทัล การสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านค้าออนไลน์ รวมถึงการแสดงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ e- Commerce ได้แก่ การบริการจัดทำเว็บไซต์สำเร็จรูป การให้บริการจดโดเมนเนม การจัดส่งสินค้า การชำระเงิน (e-Payment) การให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ โดยผู้ประกอบการหรือผู้สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาแนะนำด้าน e-Commerce จากนักธุรกิจมืออาชีพได้ตลอดงาน นอกจากนี้ กรมฯ ยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์สามารถยื่นคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ได้ในงานดังกล่าวอีกด้วย”
งาน Thailand e-Commerce Day ครั้งที่ 5 เป็นงานมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่จะจุดประกายทางความคิดและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยได้มองเห็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากตลาด e- Commerce มาเป็นอาวุธสำคัญในการบุกตลาดในประเทศและต่างประเทศ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้าและบริการได้อย่างดี ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการไทยพร้อมรุกและรับมือกับการแข่งขันในตลาดระดับโลกต่อไป