สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานความร่วมมือกับการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ออกแบบงานทดลอง “การหุงข้าวด้วยน้ำประปา” โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการทดสอบเพื่อตรวจวิเคราะห์สารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปา
สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ประสานความร่วมมือกับการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ออกแบบงานทดลอง “การหุงข้าวด้วยน้ำประปา” โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการทดสอบเพื่อตรวจวิเคราะห์สารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปา ในน้ำซาวข้าว ในน้ำหุงข้าว ในข้าวสาร และในข้าวหุงสุก เผยทำการทดลองซ้ำ 2 ครั้ง วิเคราะห์จากข้าว 4 ชนิด 8 ตัวอย่าง 8 ยี่ห้อ พบสารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปา 70 - 73 ไมโครกรัมต่อลิตร ในน้ำซาวข้าวอยู่ในช่วง 32 - 42 ไมโครกรัมต่อลิตร ในน้ำหุงข้าวอยู่ในช่วง 49 - 59 ไมโครกรัมต่อลิตร ในข้าวสารพบว่าอยู่ในช่วง 0.60 - 1.20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ส่วนข้าวหุงสุกอยู่ในช่วง 1.00 - 1.70 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม ย้ำผู้บริโภคสบายใจได้ ผลการทดสอบทุกตัวอย่างมีปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนในระดับต่ำ ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อการบริโภค ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งจากสารไตรฮาโลมีเทนอย่างแน่นอน
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ด้วยบทบาทและภารกิจของสถาบันอาหารนั้น นอกจากจะมุ่งส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำหรือภาคการผลิตจนถึงปลายน้ำคือผู้บริโภคแล้ว ภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่สถาบันอาหารได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก็คือการส่งเสริมด้านความปลอดภัยอาหาร โดยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีการเตือนภัยจากการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวันให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภครับทราบผ่านสื่อต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้จากการค้นคว้าวิจัย และการทดสอบวิเคราะห์ทางกระบวนการวิทยาศาสตร์
สำหรับ “ผลการทดสอบความปลอดภัยจากการใช้น้ำประปาหุงข้าว ไม่มีสารก่อมะเร็งจริงหรือ?” เกิดขึ้นจากการเป็นประเด็นข้อกังวลของผู้บริโภคอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งมักจะพบการแชร์ข้อมูลทางโซเชียล มีเดีย ว่าการนำน้ำประปามาหุงข้าวนั้นจะมีความปลอดภัยจากสารไตรฮาโลมีเทนซึ่งเป็นสารชนิดหนึ่งที่ก่อมะเร็งหรือไม่ ด้วยภารกิจของสถาบันอาหารดังที่กล่าวไว้ข้างต้น และเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ประชาชนหรือผู้บริโภคควรได้รับทราบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้องผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเชื่อถือได้
สถาบันอาหาร จึงได้ประสานงานกับการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ในการออกแบบงานทดลอง “การหุงข้าวด้วยน้ำประปา” โดยผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการทดสอบเพื่อ “ตรวจวิเคราะห์สารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปา ในน้ำซาวข้าว ในน้ำหุงข้าว ในข้าวสาร และใน ข้าวหุงสุก” โดยสถาบันอาหารเป็นผู้ดำเนินการทดลอง และดำเนินการเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผลการศึกษาปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการด้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร และประชาชนผู้บริโภคในวงกว้าง
นายยงวุฒิ กล่าวต่อว่า จากการทดลองระหว่างวันที่ 20 - 28 กันยายน 2559 โดยเก็บตัวอย่างน้ำประปา ที่ปลายท่อก๊อกน้ำ ณ สถาบันอาหาร เขตบางพลัด และนำตัวอย่างน้ำประปามาหุงข้าว 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวเสาไห้ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ชนิดละ 2 ตัวอย่าง จำนวนรวม 8 ตัวอย่าง จาก 8 ยี่ห้อ เพื่อศึกษาปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนรวม โดยมุ่งเน้นในตัวอย่างน้ำประปา และข้าวหุงสุก รวมทั้งติดตามปริมาณไตรฮาโลมีเทนในน้ำซาวข้าว ในน้ำหุงข้าว และในข้าวสาร เพื่อเป็นข้อมูลที่ใช้พิจารณาปัจจัยควบคุม
ทำการทดลองซ้ำ 2 ครั้ง แต่ละครั้งทำการเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปวิเคราะห์หาปริมาณสาร ไตรฮาโลมีเทนประกอบด้วย 1) น้ำประปา 1 ตัวอย่าง 2) ข้าวสาร น้ำซาวข้าว น้ำหุงข้าว และข้าวหุงสุก อย่างละ 4 ตัวอย่าง ผลการทดลองทั้ง 2 ครั้ง พบว่าปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนรวมในตัวอย่างน้ำประปา มีค่า 70 และ 73 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มของประเทศสหรัฐอเมริกาที่กำหนดให้น้ำดื่มมีปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนรวมได้ไม่เกิน 80 ไมโครกรัมต่อลิตร และประเทศญี่ปุ่น กำหนดให้มีได้ ไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลิตร
สำหรับน้ำประปาเมื่อนำมาใช้ซาวข้าว และใช้เป็นน้ำหุงข้าว พบว่า มีปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนที่ต่ำกว่าน้ำประปาเริ่มต้น โดยน้ำซาวข้าวมีปริมาณอยู่ในช่วง 32 - 42 ไมโครกรัมต่อลิตร และน้ำหุงข้าวมีปริมาณอยู่ในช่วง 49 - 59 ไมโครกรัมต่อลิตร ทั้งนี้เนื่องจากคลอรีนมีจุดเดือดต่ำจึงระเหยในช่วงที่ซาวข้าวและ หุงข้าว ทำให้มีปริมาณคลอรีนอิสระลดลง ทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ในข้าวได้ลดลง จึงมีผลต่อการเกิดสารไตรโลมีเทนที่ลดลง ส่วนการวิเคราะห์หาปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนในข้าวสาร พบว่ามีค่า 0.60 - 1.20 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม
“สำหรับผลการวิเคราะห์หาปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนในข้าวหุงสุกที่ใช้น้ำประปาในการหุง ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดของการทดลองครั้งนี้ พบว่าข้าวหุงสุกมีสารไตรฮาโลมีเทนในปริมาณที่ต่ำกว่าน้ำประปา กล่าวคือ มีค่า 1.00 - 1.70 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม จากการทดลองนี้ได้ปรากฏข้อเท็จจริงทางวิชาการ ซึ่งกล่าวได้ว่าการใช้น้ำประปาหุงข้าวไม่ทำให้มีปริมาณของสารไตรฮาโลมีเทนรวมเพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคสบายใจได้ว่าสามารถนำน้ำประปามาหุงข้าวได้ มีความปลอดภัยต่อการบริโภค ไม่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งจากสารไตรฮาโลมีเทนอย่างแน่นอน” นายยงวุฒิ กล่าว
อนึ่ง การประปานครหลวง (กปน.) มีการตรวจสอบเฝ้าระวังคุณภาพน้ำแบบบูรณาการ ตั้งแต่แหล่งต้นน้ำจนผ่านกระบวนการผลิตเป็นน้ำประปา และสูบจ่ายไปยังผู้ใช้น้ำในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมทั้งตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC
