เปิดตัวโครงการ "สปาร์ค"ปั้นสตาร์ทอัพไทยยกระดับสู่ตลาดสากล

สนช. จับมืออิสราเอลเปิดตัวโครงการ “สปาร์ค” เตรียมบ่มเพาะและเร่งสร้างสตาร์ทอัพ ตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพไทยยกระดับสู่ตลาดสากล

สนช. จับมืออิสราเอลเปิดตัวโครงการ “สปาร์ค” เตรียมบ่มเพาะและเร่งสร้างสตาร์ทอัพ ตั้งเป้าปั้นสตาร์ทอัพไทยยกระดับสู่ตลาดสากล


สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์มหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับเอจีดับเบิลยู กรุ๊ป (AGW Group) ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศอิสราเอล เปิดตัวโครงการบ่มเพาะและเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น "Global Accelerator Program" ขึ้น ภายใต้ชื่อ "สปาร์ค (SPARK)" เพื่อเร่งสร้างและพัฒนาสตาร์ทอัพให้มีความพร้อมและมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ รวมถึงเพิ่มความโอกาสการแข่งขันในตลาดระดับสากลมากขึ้น โดยหวังว่า "SPARK" จะเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมและเติมเต็มระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสามารถขับเคลื่อนไปตามความคาดหมายของรัฐบาล
          
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า "สนช. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศและพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ เพื่อให้เป็น "นักรบเศรษฐกิจยุคใหม่" ของประเทศ โดยในปี 2559 สนช. จึงได้ลงนามความร่วมมือกับเอจีดับเบิลยู กรุ๊ป (AGW Group) ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศอิสราเอลที่มีประสบการณ์ในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ และได้ริเริ่มโครงการบ่มเพาะและเร่งสร้างวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ "Global Accelerator Program" ขึ้นภายใต้ชื่อ "SPARK" ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในหลายสาขา เช่น นักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงด้านไซเบอร์ นักลงทุนในบริษัทกองทุนร่วมทุน การจัดการ Big Data, IoT เทคโนโลยีด้านการเงิน การพัฒนาธุรกิจและการตลาด ไปจนถึงการพัฒนาองค์กร โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะร่วมเป็นวิทยากรและเป็นที่ปรึกษาแบบตัวต่อตัวให้แก่สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมการฝึกอบรมเข้มข้น 8 สัปดาห์ ที่จะจัดขึ้น ณ อาคารอุทยานนวัตกรรม สนช. โดยสตาร์ทอัพที่ผ่านการคัดเลือกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ สำหรับจุดเด่นของ "SPARK" คือการสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยก้าวสู่ตลาดและเติบโตในระดับสากล โดยบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกและชนะการประกวดแผนธุรกิจในรอบสุดท้ายจะมีโอกาสได้เดินทางไปพบกับนักลงทุนหรือบริษัทกองทุนร่วมทุน และศึกษาดูงานในศูนย์บ่มเพาะชั้นนำของโลก เช่น Google, Barclays ในประเทศอิสราเอล รวมถึงช่วงแนะนำธุรกิจของบริษัทในงาน Startup Thailand 2017 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"
 

         
"นอกจากนี้ คณะทำงานของเอจีดับเบิลยูยังมีบริการให้คำปรึกษาแก่สตาร์ทอัพที่ร่วมโครงการเป็นเวลา 24 เดือน (2 ชั่วโมงต่อเดือน) หลังการฝึกอบรม 8 สัปดาห์ที่ "SPARK" สิ้นสุดลงเพื่อให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องอีกด้วย สตาร์ทอัพที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องมีทักษะการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษในระดับดี มีตัวอย่างผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยกลุ่มสาขาที่สนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ FinTech, Cyber Security, E-commerce, IoTs, Big Data & Analytics และ Healthcare ผู้สนใจสามารถศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ spark.nia.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม โดยจะประกาศผลการคัดเลือกในวันที่ 21 มีนาคม และเริ่มการฝึกอบรมในวันที่ 27 มีนาคมนี้" ดร. พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติม
          
นายอีธาน เลวี ประธานบริษัท เอจีดับเบิลยู กรุ๊ป (AGW Group) กล่าวว่า "เอจีดับเบิลยู กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะผลักดันสตาร์ทอัพของไทยให้ขยายตัวไปในทิศทางใหม่ๆ และก้าวไปสู่ตลาดในระดับสากลผ่านกิจกรรมต่างๆ โดย เอจีดับเบิลยู กรุ๊ป จะใช้ประสบการณ์ของทีมงานทุกคนและเครือข่ายของเราที่มีอยู่ทั่วโลกให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับ สนช. ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มระบบนิเวศของประเทศไทย ทำให้เกิดความร่วมมือกันในการสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางการตลาดและการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย"

NEWS & TRENDS