5 แบงก์ยักษ์จับมือตั้งกลุ่ม TAPS พลิกโฉมปฏิวัติรูปแบบการชำระ เงินครั้งแรกในไทย บุกขยายฐานติดตั้งเครื่องรับบัต รรูปแบบใหม่-ร้านค้าและปชช.ไม่ต้องถือเงินสด ง่ายกว่า และสะดวกกว่าเดิม
5 แบงก์ยักษ์จับมือตั้งกลุ่ม TAPS พลิกโฉมปฏิวัติรูปแบบการชำระ เงินครั้งแรกในไทย บุกขยายฐานติดตั้งเครื่องรับบัต รรูปแบบใหม่-ร้านค้าและปชช.ไม่ต้องถือเงินสด ง่ายกว่า และสะดวกกว่าเดิม
5 ธนาคารยักษ์ใหญ่ ได้แก่ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ทหารไทย ไทยพาณิชย์ และธนชาต จับมือพลิกโฉมปฏิวัติรูปแบบการชำระเงินครั้งแรกในไทย ภายใต้ชื่อกลุ่ม TAPS บุกขยายฐา นติดตั้งเครื่องรับบัตร EDC รูป แบบใหม่รวมฟังก์ชั่น 5 ธนาคารใน เครื่องเดียว ขานรับนโยบายรัฐ National e-Payment อำนวยความสะดวกร้านค้าและประชาชนไม่ต้องถือเงินสด พร้อมลดค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตเหลือ 0.55% อ้าแขนรับร้านค้าและบริษัทภาครัฐ-เอกชนทั่วประเทศ
5 ธนาคารพันธมิตรกลุ่ม TAPS ระบุว่ า นับเป็นครั้งแรกและเป็นปรากฏการ ณ์สำคัญในวงการธนาคารไทยที่ 5 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จับมือเพื่อสร้างความแตกต่างในน ามกลุ่ม Thai Alliance Payment System หรือกลุ่ม TAPS เพื่อให้ บริการติดตั้งเครื่องรับชำระเงิ นทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) แก่หน่วยงานภาครัฐ ร้านค้าและบริษัทภาคเอกชนทั้งให ญ่-เล็ก ตอบรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโคร งสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินแบบอิ เล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) โดยเฉพาะโครงการขยายการใช้บัตร (Card Expansion) เพื่ออำนวยความสะดวก กับประชาชน ไม่ต้องพกเงินสด

การจัดตั้งกลุ่ม TAPS มีเป้าหมา ยเพื่อเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการ ชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ของปร ะเทศ และสร้างเครือข่ายการให้บริการที่ แข็งแกร่ง จากการจับมือของ 5 ธนาคารสมาชิก ได้ร่วมกันพัฒนาฟังก์ชั่นในการใ ช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ร้านค้าเ พิ่มขึ้นในทุกๆด้าน เพราะเป็นกา รระดมสมองจาก 5 แบงก์ใหญ่ เครื่องรับบัตรกลุ่ม TAPS จึงเป็ นเครื่องรับบัตรรูปแบบใหม่ แตกต่างจากเครื่องรับบัตรแบบเดิ มๆ สามารถเพิ่มช่องทางการจัดโปรโม ชั่นระหว่างร้านค้ากับลูกค้าได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเข้าถึงลูกค้าได้เป็นจำนวนมา ก เพราะในตัวเครื่องจะรวมฟังก์ชั่ นพิเศษของทั้ง 5 ธนาคารสมาชิกไว้ ในเครื่องเดียว เช่น ฟังก์ชั่นการผ่อนชำระ และฟังก์ชั่นการสะสมแต้ม ทำให้ร้านค้าไม่จำเป็นต้องมีหลา ยเครื่องเพื่อรองรับบัตรของแต่ล ะธนาคารอีกต่อไป จะช่วยลดความซ้ำซ้อนด้านการลงทุ นและการใช้งานแก่ร้านค้าได้เป็น อย่างมาก อีกทั้ง ด้วยจำนวนผู้ถือบัตรเดบิตและบัต รเครดิตของทั้ง 5 ธนาคารซึ่งมีอ ยู่จำนวนมาก ทำให้ร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรั บบัตรของกลุ่ม TAPS มั่นใจได้ว่ าลูกค้าจะมาซื้อสินค้า/บริ การและชำระเงินด้วยบัตรอย่างแน่ นอน
การจับมือกันของพันธมิตร 5 แบงก์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญขอ งความร่วมมือระหว่างธนาคารที่จะ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้บริ โภคขึ้นใน 2 ระดับ ระดับแรกคือ จากการร่วมกันลงทุนด้านโครงสร้า ง และพัฒนานวัตกรรม ซึ่งมีผลให้ต้นทุนในการให้บริกา รลูกค้าต่ำลง ซึ่งผลที่ได้จะตกอยู่กับลูกค้าใ นที่สุด และระดับที่สอง คือ ทั้ง 5 ธนาคารจะมีการพัฒนาและมีการออกแ คมเปญโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อจูงใจให้กับร้านค้า ดังนั้น ร้านค้าจึงสามารถเลือกแบงก์ที่ใ ห้ผลประโยชน์ดีที่สุด เพิ่มทางเลือกให้กับร้านค้าที่จ ะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นได้อีก
ขณะนี้ กลุ่ม TAPS ได้รับการคัดเลือกจา กกระทรวงการคลังให้เป็นผู้ให้ บริการติดตั้งเครื่องรับบัตรแก่ ร้านค้าแล้ว ในช่วงแรกตั้งเป้าติดตั้งเครื่องรับบัตรให้ครอบคลุมร้านค้าทั้ง ภาครัฐและเอกชนกว่า 500,000 ร้าน ภายในเดือนมีนาคม 2561 โดยกลุ่ม TAPS มีความพร้อมในการให้บริกา รได้ทันที เนื่องจากธนาคารสมาชิกทั้ง 5 ต่างก็มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านค้ ารับบัตร อีกทั้งมีความแข็งแกร่งทั้งด้าน เงินทุน บุคลากร เทคโนโลยี และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสำ หรับการชำระเงินเนื่องจากการดำเ นินงานภายในมีการตั้งคณะทำงานด้ านต่างๆ ขึ้นมา เช่น ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาทาง IT และเทคโนโลยี และด้านการตลาดซึ่งธนาคารสมาชิก ทั้ง 5 ได้ส่งตัวแทนผู้เชี่ยวชา ญเข้าร่วมในคณะทำงานด้วยกันอย่า งใกล้ชิดตลอดมา
นอกจากนี้ กลุ่ม TAPS ได้ปรับลด ค่าธรรมเนียมการรับบัตรสำหรับบั ตรเดบิตจากปกติ 1,5 - 1.8% เหลือเพียง 0.55% และโปรโม ชั่นพิเศษอื่นๆ ที่จะตามมา เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้จ่ ายผ่านบัตร เดบิต โดยกลุ่ม TAPS พร้อมแล้วที่ จะให้บริการเครื่องรับบัตรรู ปแบบใหม่ที่จะมอบความสะดวกให้ร้ านค้าทำธุรกิจได้อย่างสมาร์ท เติบโต และแตกต่าง เพื่อผลกำไรสูงสุด โดยลูกค้าสามารถสมัครขอใช้บริกา รได้แล้ววันนี้ที่สาขาธนาคารสมา ชิกทั้ง 5 ธนาคารกว่า 4,100 สาข าทั่วประเทศ หรือติดต่อผ่าน Call Center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 0-2111-1111, ธนาคารกรุ งศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 0-2296-5885, ธนาคารทห ารไทย จำกัด (มหาชน) 0-2643-7000, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 0-2795-2777 และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 1770