พาณิชย์ปลื้มเอกชนจับมือสร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาประเทศในเชิงพื้นที่ในลักษณะภูมิภาค


นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาประเทศในเชิงพื้นที่ในลักษณะภูมิภาค

โดยแบ่งเป็น 6 ภาค คือภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้      (อันดามันและอ่าวไทย) และ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแต่ละภาคก็มีเอกลักษณ์และความโดดเด่น  แตกต่างกัน ดังนั้นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาค จึงต้องเน้นความต้องการของชุมชุนเป็นหลัก ซึ่งได้มอบหมายให้พาณิชย์ภาค (Mini MOC) ทั้ง 6 ภาคเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเน้นสร้าง    ความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) ดูแลราคาสินค้าเกษตร ค่าครองชีพ และผลักดันการค้าชายแดน

         
 ด้านนายอิทธิพงษ์ คุณากรบดินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะพาณิชย์ภาค 3        (ภาคกลาง) กล่าวว่า จังหวัดภาคกลางส่วนใหญ่ประชากรประกอบอาชีพทำนา ทำสวนผลไม้ ปศุสัตว์ ทำการประมงน้ำจืด เป็นเมืองแห่งนวัตกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป ตลอดจนเป็นศูนย์กระจายสินค้า OTOP  ของภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดสระบุรี ได้มีภาคเอกชนมอบที่ดิน ให้กับทางราชการเพื่อสร้างศูนย์แสดงสินค้าเกษตรชุมชน และสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนทั้งการผลิตสินค้าเกษตร การแปรรูปและการกระจายสินค้า โดย นางนารีรัตน์ อุทัยแสงสกุล ผู้บริหาร Farm Outlet พุแค และพุแคคอมเพล็กซ์ จ.สระบุรี เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ที่เป็นสถานที่ตั้ง  Farm Outlet พุแค และพุแคคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ เป็นของตนเอง และได้ยกกรรมสิทธิ์ ในที่ดินดังกล่าวให้ทางราชการ เพื่อสร้างศูนย์แสดงสินค้าเกษตรชุมชน และ OTOP ต่อมาได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางราชการ เพื่อสร้างอาคารแสดงสินค้า อาคารผลิตอาหารฮาลาล ศูนย์ประชุมผู้ประกอบการ ศูนย์ฝึกอบรมองเย็นพักสินค้าเกษตร 2 ห้อง รวมทั้งตู้เย็นแช่สินค้า ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินงาน Farm Outlet และพุแคคอมเพล็กซ์ ได้ดำเนินการเชื่อมโยงการผลิต การแปรรูปสินค้าเกษตร ตลอดจนพัฒนายกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ Modern Trade และ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในพื้นที่ โดยสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรเป้าหมายได้มีการเพาะปลูกและผลิตสินค้าเกษตรตามความต้องการของตลาด เพิ่มช่องทางการจำหน่ายกรณีสินค้าเกษตรบางชนิดล้นตลาด “ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวมีปัญหาไม่สามารถหาผู้รับซื้อผลผลิตได้ Farm Outlet พุแค จึงได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายโดยรับซื้อข้าวโพดสดจากเกษตรกร และทำการต้มสุกเพื่อจำหน่าย เป็นข้าวโพดพร้อมรับประทานส่งจำหน่ายยังห้าง Modern Trade ตลาดชุมชน และหน่วยราชการ ซึ่งสามารถจำหน่ายสินค้าได้หมดไม่ก่อให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ” นางนารีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนั้นแล้ว ศูนย์พุแคคอมเพล็กซ์แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดสระบุรี ซึ่งทำหน้ารวบรวมสินค้าจากเกษตรกร การแปรรูป และเชื่อมโยงกับซุปเปอร์มาเก็ตที่มีสาขาทั่วประเทศอีกด้วย โดยในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัดสระบุรีได้ประสานสั่งซื้อกระเช้าสินค้าจากเกษตรกร  เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าใช้เป็นของฝาก ของขวัญ และเป็นการอุดหนุนเกษตรกรอีกทางหนึ่ง มียอดสั่งซื้อ  เป็นเงิน 2 ล้านบาท นอกจากนี้แล้วศูนย์ดังกล่าวจะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเกษตรชุมชนในภาคกลาง          เพื่อเชื่อมโยงไปยังตลาดนอกพื้นที่ รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ในอนาคต
          
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวในตอนท้ายว่า “การสร้างแนวทางการเชื่อมโยงสินค้าจาก Farm Outlet พุแค และพุแคคอมเพล็กซ์ จ.สระบุรี ซึ่งประกอบด้วยสินค้าเกษตรปลอดภัย และสินค้า GI   ของกลุ่มจังหวัด พร้อมทั้งการพัฒนายกระดับมาตรฐานสินค้าที่สูงขึ้น โดยอาศัยกลไกห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในท้องถิ่นร่วมสนับสนุน และมีบริษัทประชารัฐ รักสามัคคี จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีทั้งภาครัฐ เกษตรกร เอกชนเข้าร่วมดำเนินการ จะสามารถกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีตลาดรองรับที่กว้างขวางยิ่งขึ้น นับเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพื้นที่อื่นๆ ต่อไป”

NEWS & TRENDS