ส.อ.ท.ชี้ค่าแรง 300 ทำ SME เจ๊งรัฐต้องรับผิดชอบ

ส.อ.ท.เผยได้รับร้องเรียนจากเอสเอ็มอีว่าไม่พร้อมปรับค่าแรงขั้นต่ำ อาจต้องปิดกิจการ ย้ำหากมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบรัฐต้องรับผิดชอบเอง

 


ส.อ.ท.เผยได้รับร้องเรียนจากเอสเอ็มอีว่าไม่พร้อมปรับค่าแรงขั้นต่ำ อาจต้องปิดกิจการ ย้ำหากมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบรัฐต้องรับผิดชอบเอง

นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.2556 นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดย ส.อ.ท.ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกว่ายังไม่พร้อมและอาจต้องปิดกิจการเพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 80% ทำให้แบกรับต้นทุนไม่ไหว โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีอัตราจ้างค่าแรงขั้นต่ำจาก 160 บาทต่อวัน หากต้องปรับขึ้น 300 บาทต่อวันเท่ากับต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นถึง 80% หรือคิดเป็นต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้นถึง 16% อีกทั้งกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาโดยการปรับขึ้นราคาจำหน่ายได้ เนื่องจากได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามาแล้ว และเป็นสัญญาระยะยาวต่อเนื่องเป็นปีด้วย  
  
อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.ได้ทำเรื่องเสนอขอให้รัฐบาลขยายระยะเวลาการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำให้กับกลุ่มเอสเอ็มอีไปแล้ว  แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากรัฐบาล โดยหากวันที่ 1 ม.ค.2556 ต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ทางผู้ประกอบการก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากเกิดผลกระทบอะไรตามมาจากมาตรการดังกล่าว ทางรัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อไป 

สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ได้เริ่มปรับมาแล้วใน 7 จังหวัดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2555 ส่วนที่เหลืออีกกว่า 70 จังหวัดจะต้องเริ่มดำเนินการใน
วันที่ 1 ม.ค.2556 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้หาเสียงเอาไว้.

NEWS & TRENDS