ย้อนไปเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว อาชีพ “คนทำอาหาร” อาจจะไม่ใช่อาชีพที่ถูกพูดถึงมากนัก แต่เมื่อเปลี่ยนยุค รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมที่ให้เกียรติอาชีพนี้มากขึ้น “เชฟ” กลายเป็นอาชีพในฝันอันดับต้น ๆ ของเด็กรุ่นใหม่ทุกวันนี้
ย้อนไปเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว อาชีพ “คนทำอาหาร” อาจจะไม่ใช่อาชีพที่ถูกพูดถึง หรือได้รับความสนใจจากเยาวชนในสมัยนั้นมากนัก แต่เมื่อเปลี่ยนยุค เปลี่ยนสมัย รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมที่ให้เกียรติอาชีพนี้มากขึ้น การเติบโตของธุรกิจอาหารทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก หรือแม้แต่บรรดารายการโทรทัศน์ที่เราจะเห็นเชฟรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ มาแสดงความสามารถกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เรียกน้ำย่อยเราได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจที่ “เชฟ” กลายเป็นอาชีพในฝันอันดับต้น ๆ ของเด็กรุ่นใหม่ทุกวันนี้
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีใจรักในการทำอาหารได้มาประลองฝีมือ ฝึกฝน สู่การเป็นเชฟมืออาชีพ และสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (โฮเรก้า) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดการแข่งขันทำอาหารประจำปี แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ 2019 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเชฟจากทุกภูมิภาคสู่การแข่งขันระดับประเทศ และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีระดับสากล ถือเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่รายการหนึ่ง เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลจากสมาคมเชฟโลก หรือ World Association of Chef Societies (WACS) ทำให้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมมากมายจากทั่วทั้งประเทศ ทั้งในระดับเยาวชน และระดับมืออาชีพ
นางสาวชนิดา คณาพิทักษ์พงศ์ หรือ ฟ้า อายุ 22 ปี เป็นเด็กรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งที่มีความฝันอยากเป็นเชฟมืออาชีพที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เธอจึงเลือกเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในคณะวิทยาศาสตร์ สาขาคหกรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนี้ เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และนอกจากการเรียนในชั้นเรียนแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับอาชีพนี้ก็คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากสนามจริง ฟ้าจึงได้เข้าร่วมการแข่งขัน จนชนะผ่านเข้ามาเป็นตัวแทนรุ่นเยาวชนจากภาคกลาง ด้วยเมนูสุดสร้างสรรค์อย่าง ข้าวหุงน้ำมะพร้าวใบเตย เนื้อตุ๋นมัสมั่น เนื้อบอลซอสเปรี้ยวหวาน หอยเชลล์ผัดฉ่า ผัดผักน้ำมันหอย
เมื่อถามถึงสิ่งที่ทำให้เธอสามารถเอาชนะคู่แข่งจนมาเป็นตัวแทนรุ่นเยาวชนจากภาคกลาง ฟ้าให้คำตอบว่า “การฝึกซ้อมค่ะ ทุกคนที่มาแข่งขันเก่งพอ ๆ กัน เราต้องฝึกซ้อมให้หนักขึ้น ต้องฝึกฝนฝีมือให้ดีขึ้น ที่ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ หลัก ๆ คือ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเอาชนะใจตัวเอง เพราะแม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ เป็นการแข่งขันรายการใหญ่ที่มีคนเก่ง ๆ เข้าร่วมมากมาย และยิ่งมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการแข่งขันแบบ Mystery Box เราจะไม่รู้ล่วงหน้าว่าวัตถุดิบหลักคืออะไร ต้องมาคิดเมนูกันหน้างานทีเดียว ก่อนแข่งก็ทั้งเครียด ทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล พอชนะก็รู้สึกดีใจที่ชนะใจตัวเองได้”
นอกจากผู้แข่งขันรุ่นเยาวชน ยังมีการแข่งขันรุ่นใหญ่ของเหล่ามืออาชีพ ซึ่งแข่งกันแบบทีม ทีมละ 2 คน โดยผู้ชนะระดับมืออาชีพของภาคกลาง คือ นายวัชรพงษ์ เจริญวิมลรักษ หรือ เต้ย และ นางสาววิสาขา ระวิจันทร์ หรือ เกด ทีมเชฟอิสระที่ทำงานในวงการอาหารมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งการถ่ายรายการอาหาร ครีเอทเมนูอาหาร รับงานจัดเลี้ยง และงานจัดเชฟเทเบิ้ล โดยชนะการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเมนู แกะโรลกะเพราซอสกะเพรา กะเพราคุ๊กกี้ แกงคั่วแกะใบชะพลู แซลมอนสโมคซอสต้มข่า บวบผัดไข่ บล็อกโคลีผัดน้ำมันงา มะเขือเทศ ข้าวหุงแป๊ะก๊วย / แซลมอนโพชเนยซอสพริกเผาโหระพา ขนมผักกาดทรงเครื่อง หัวไช้เท้าดอง สตูว์แกะซอสสะเต๊ะ แกะเซ้ยซอสขิงตะไคร้ พูเรฟักทองกะหรี่ ผัดผักซอสน้ำปลา ที่น่าสนใจคือ ทั้งสองเคยแข่ง แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ มาแล้วในปี 2017 แต่เป็นการแข่งในระดับเยาวชน ซึ่งในตอนนั้นเต้ยยังได้รับรางวัลชนะเลิศอีกด้วย
เต้ยและเกด กล่าวถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า “การแข่งขันรายการนี้มีทั้งความท้าทาย ทั้งความสนุก เราเลยรวมทีมกันมาแข่งอีก ถือเป็นการหาประสบการณ์ด้วย โดยเฉพาะการแข่งเป็นคู่ การทำงานเป็นทีมต้องมีความเข้าใจและเรียนรู้ไปด้วยกัน เพราะเวลามันบีบมาก เวลาในการคิดออกแบบเมนูมีน้อย ต้องรู้จักพลิกแพลงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา การแข่งขันถือว่าสนุกและท้าทายมาก ๆ แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดเยอะ รู้เลยว่าความจริงเรายังไม่ได้พร้อม ยังอ่อนประสบการณ์เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ ถือเป็นการวัดความสามารถของเราเลย เราจะนำเอาข้อผิดพลาดที่ได้เรียนรู้นี้ไปปรับปรุง และพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นในการแข่งขันรอบต่อไป”
การแข่งขัน แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ ในปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ที่พิเศษแตกต่างไปจากทุกปี คือ “Makro Asian Culinary Challenge” การแข่งขันปรุงเมนูอาหารเอเชียจากวัตถุดิบปริศนา ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันรุ่นมืออาชีพอันดับ 1-3จากแต่ละภูมิภาคจะได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ และปะทะฝีมือกับเชฟนานาชาติจาก 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา พม่า เวียดนาม อินเดีย จีน และสิงคโปร์ เพื่อชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และเงินสดรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทย ทั้งในรุ่นเยาวชน และรุ่นมืออาชีพ เข้าร่วมแข่งขันในงาน Food and Hotel Asia (FHA) 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ต่อไป
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี