กสอ. ผนึก 7 ภาคีเครือข่าย ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมฟู้ดทรัค

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ผนึก 7 ภาคีเครือข่าย แถลงความร่วมมือยกระดับมาตรฐานพัฒนาอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคให้เป็นที่ยอมรับของตลาด รองรับการขยายตัวของผู้ประกอบการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมชูแนวคิดพัฒนาอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคแบบคู่ขนาน ผ่าน 5 มาตรการสำคัญเร่งบ่มเพาะผู้ประกอบการให้เข้มแข็..




     กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ผนึก 7 ภาคีเครือข่าย แถลงความร่วมมือยกระดับมาตรฐานพัฒนาอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคให้เป็นที่ยอมรับของตลาด รองรับการขยายตัวของผู้ประกอบการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมชูแนวคิดพัฒนาอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคแบบคู่ขนาน ผ่าน 5 มาตรการสำคัญ เร่งบ่มเพาะผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง ขยายคลัสเตอร์ เชื่อมโยงตลาดสากลหนุนเงินลงทุน ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการสุ่ธุรกิจฟู้ดทรัค 3,500 ราย คาดว่าก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,260 ล้านบาท


     นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่าอุตสาหกรรมร้านจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ หรือฟู้ดทรัคมีการเติบโตที่อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีรถฟู้ดทรัคกว่า 1,500 คันทั่วประเทศ แบ่งเป็นอาหารคาวร้อยละ 57 อาหารหวานร้อยละ 14 และเครื่องดื่มร้อยละ 29 โดยส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯกว่าร้อยละ 70 ที่เหลือ ร้อยละ 30 อยู่ในส่วนภูมิภาค


     จากการเติบโตที่รวดเร็วนี้ทำให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มฟู้ดทรัคให้มีศัยกภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงได้ดำเนินการนำร่องรวมกลุ่มผู้ประกอบการเป็นฟู้ดทรัคคลัสเตอร์ ผ่านการจัดกิจกรรมบ่มเพาะ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าผู้ประกอบการฟู้ดทรัคมีคุณภาพและมาตรฐาน โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 136 ราย


     และในปีพ.ศ. 2562 นี้ กสอ. ยังมุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฟู้ดทรัค โดยชูแนวคิดพัฒนาอุตสาหกรรมแบบคู่ขนาน เร่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการฟู้ดทรัคคลัสเตอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ผ่าน 5 มาตรการ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดฟู้ดทรัคที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่ง กสอ. ได้ร่วมมือกับ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กรมการขนส่งทางบก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันอาหาร สถาบันยานยนต์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จัดทำขอบเขตมาตรฐาน โดยอ้างอิงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ ด้านมาตรฐานความปลอดภัยและชีวอนามัย ทั้ง คน ครัว รถ และตลาด (Smart 4 Food Truck) ให้ผู้ประกอบการนำไปปรับใช้ในธุรกิจฟู้ดทรัคได้อย่างเหมาะสม


     นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการพัฒนาบ่มเพาะผู้ประกอบการฟู้ดทรัคให้เข้มแข็งผ่านการอบรม ‘บันได 5 ขั้น สู่ความสำเร็จในธุรกิจฟู้ดทรัค’ โดย กสอ. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสัมมนาสร้างความตระหนักในธุรกิจฟู้ดทรัคในจังหวัดต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพฯ พิษณุโลก เชียงใหม่ และนครราชสีมา รวมทั้งได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัคให้ได้มาตรฐาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวน 104 ราย และมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 2 รุ่น รวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ราย
รวมถึงมาตรการการพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคในระดับประเทศ ด้วยการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการฟู้ดทรัคและผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฟู้ดทรัคเกิดเป็นเครือข่ายฟู้ดทรัคคลัสเตอร์ประเทศไทย ซึ่ง กสอ. มีแผนขยายคลัสเตอร์ฟู้ดทรัคไปสู่จังหวัดสำคัญเช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี ภูเก็ต และเชียงราย มาตรการการเชื่อมโยงสู่ตลาดฟู้ดทรัค ซึ่ง กสอ. จะเชื่อมโยงโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในคลัสเตอร์นี้ ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง Big Brothers เครือข่ายภาครัฐและเอกชน


     โดยตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กสอ. ได้นำผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ไปทดสอบตลาดทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 25 ล้านบาท และมาตรการสุดท้าย ความพร้อมทางด้านเงินทุน โดย กสอ. ได้ปรับเกณฑ์การพิจารณาและประเภทของธุรกิจในการขอสินเชื่อจากโครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยให้รองรับกลุ่มธุรกิจฟู้ดทรัค โดยมีอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 4 และมีวงเงินในการขอสินเชื่อถึง 1 ล้านบาท


     “กสอ. มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม เกิดความเข้มแข็ง และมีความยั่งยืน โดยคาดว่าปีนี้ จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัคได้มากกว่า 3,500 ราย และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,260 ล้านบาท” นายกอบชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

NEWS & TRENDS