สศอ. ประกาศความพร้อม Robotics Cluster Pavilion ผลักดันธุรกิจใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสร้างมูลค่าเพิ่ม

สศอ. ผนึกกำลังทุกภาคส่วนประกาศความพร้อม Robotics Cluster Pavilion ผลักดันต่อเนื่องผู้ประกอบการเล็ก-ใหญ่ ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสร้างมูลค่าเพิ่มทางภาคธุรกิจ และยกระดับผลิตภาพของอุตสาหกรรมไทย



     
     สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมผนึกกำลังทุกภาคส่วน แถลงขยายผลมาตรการขับเคลื่อนการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ  เพื่อยกระดับผลิตภาพของเศรษฐกิจไทย และความพร้อมของ Robotics Cluster Pavilion ในงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 มิถุนายน 2562 ณ ไบเทค บางนา พร้อมเปิดตัว  Industrial Transformation Platform (ITP)  แพลตฟอร์มดิจิทัล เชื่อมโยงผู้ประกอบการ ธนาคาร และผู้ให้บริการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) พร้อมรวบรวมมาตรการส่งเสริมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ในจุดเดียว ( One Stop Service) 
 
     
     ดร.ณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยมาตรการสนับสนุนการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotics & Automation) โดยร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนจัดโครงการ Robotic Cluster Pavilion จุดประสงค์หลัก เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ที่มีอย่างครบวงจรในจุดเดียว เริ่มต้นจากการขอรับการส่งเสริมการลงทุน การขอรับคำปรึกษา การประเมินความพร้อมและความคุ้มค่าในการลงทุน การจัดหาแหล่งเงินทุนและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงการจับคู่ธุรกิจกับ System Integrator (SI) ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สอง โดยในปีที่ผ่านมามีผลตอบรับจากนักลงทุนและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นอย่างดี
 
     
     ในปีนี้ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในงานจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการทุกขนาดสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น ระบบ I-industry และระบบ Single Form ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขออนุมัติ/อนุญาตกับกระทรวงอุตสาหกรรม การขอรับบริการจากศูนย์ Industrial Transformation Center (ITC) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมถึงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และสมัครเข้าโปรแกรมสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) นอกจากนี้ ยังมีธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เข้าร่วมนำเสนอโปรแกรมสินเชื่อ ได้แก่ SME Bank ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
 
     
     ปี 2562 สศอ. ตั้งเป้าที่จะขยายผลการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไปสู่ SMEs ในอุตสาหกรรม    ต่าง ๆ ทั่วประเทศมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเกษตร โดยมุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือสำหรับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนเพื่อดำเนินการ Smart farming โดยสถาบันไทย-เยอรมันได้เริ่มนำร่องในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี ศรีษะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ) เพื่อสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร เช่น การสนับสนุน Smart module เช่น ระบบเซ็นเซอร์ในการวัดตัวแปรหรือพารามิเตอร์ต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการประเมินปัจจัยการผลิตอย่างคุ้มค่า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรในระยะยาว รวมถึง มุ่งเป้าในการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
 
     
     รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เผยความคืบหน้าแผนพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เป้าหมายระยะกลาง 5 ปี (ภายในปี 2564) ยกระดับเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการลงทุนขยายตัว 2 แสนล้านบาท และการใช้หุ่นยนต์ในโรงงานมากกว่า 50 %  / ระยะยาว 10 ปี (ภายในปี 2569) ไทยเป็นผู้นำในการผลิตและการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอาเซียน โดยมีเทคโนโลยีเป็นของตนเองและส่งออกหุ่นยนต์
 
     
     สมหวัง บุญรักษ์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน และประธานคณะกรรมการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (CoRE) แถลงผลการดำเนินงานหน่วยงาน CoRE ในปี 2561-2562   โรงงานจำนวน 229 โรงงาน ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต / ผู้ประกอบการจำนวน 65 บริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ารวม 9,641 ล้านบาท และมีผู้ขอสินเชื่อ SME เพื่อปรับระบบรวม 20 ราย มูลค่ารวม 123.5 ล้านบาท  /  SI (System Integrator) ได้รับการอบรมและพัฒนาจำนวน 100 คน /  ต้นแบบหุ่นยนต์ ได้รับการพัฒนามากถึง 5 ต้นแบบ สมาชิกหน่วยงานเครือข่าย จำนวน 15 แห่ง รวมถึงบุคลากรหรือผู้ใช้ จำนวนทั้งสิ้น 610 คน ก็ได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาตามโปรแกรม
 
     
     ชัยพล มหามงคลสวัสดิ์ กรรมการบริหารฝ่ายจัดงานของสมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) เผยจำนวนผู้ให้บริการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) ที่มีศักยภาพ ณ ปัจจุบัน มีจำนวน 110 ราย โดย TARA ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 200 ราย ภายในสิ้นปีนี้  กิจกรรมพิเศษใน Robotics Cluster pavilion  แสดงไลน์การผลิต 4.0 สำหรับ SME ด้วยการเชื่อมโยงการทำงานของเครื่องจักรเข้าด้วยกัน พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของสมาคมแก่ผู้ประกอบการที่มีความสนใจ หรือความต้องการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเทคโนโลยี 
 
     
     อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Robotics Cluster Pavilion ภายในงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป พร้อมเปิดตัว “Industrial Transformation Platform” ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรสำคัญ คือ หน่วยงานโรโบติกส์ เอไอ แอนด์ อินเทลลิเจนท์ โซลูชั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (CoRE) เพื่อสร้าง Ecosystem ใหม่ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ โดยเชื่อมโยงการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร และปรับปรุงกระบวนการทำงานจากเดิมที่แต่ละหน่วยงานทำงานแบบแยกส่วน เปลี่ยนผ่านเข้าสู่การทำงานร่วมกันบน Cyber Platform ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและแก้ไขกระบวนการที่เป็นปัญหา (Pain point) ของผู้ประกอบการได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ การขอสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องจักรจากธนาคาร การเลือกหา SI ที่มีศักยภาพการประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยหุ่นยนต์ หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยมีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล I-industry และ single form ของกระทรวงอุตสาหกรรม / ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองสิทธิขอรับบริการ Cyber Industrial Platform ผ่านทางเวปไซต์ของงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 
 
     
     ดร.พิชัยรัตน์ จิรานันรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการ โรโบติกส์ เอไอ แอนด์ อินเทลลิเจนท์ โซลูชั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการมุ่งเน้นความสำคัญกับการพัฒนากลไกและสร้างสภาพแวดล้อมโดยใช้เทคโนโลยีทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ในการบูรณาการและสนับสนุนในการขับเคลื่อน Industrial Transformation ไปสู่ Industry 4.0 ของประเทศไทย โดยกลไกลนี้มีรูปแบบการให้บริการแบบ One-Stop Service และเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทุกภาคส่วน ผ่านการเชื่อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลากหลายหน่วยงานด้วยกัน เช่น System Integrator ธนาคารในการจัดหาเงินทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศไทย (CoRE) เป็นต้น 
 

     สุทธิศักดิ์ วิลานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เผยถึงการจัดงานแมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2019  (เอ็มอี) ว่า งานแสดงสินค้าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันเทคโนโลยีสู่กลุ่มอุตสาหกรรม เพราะนอกจากผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัสถึงสมรรถนะของเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้ว ผู้จัดแสดงก็มีการจัดรายการส่งเสริมการขายทั้งราคาและการบริการที่มากกว่าปกติ ซึ่งผู้เข้าชมงานสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละสินค้าได้     ทั้งยังเป็นเวทีที่สำคัญในการให้องค์ความรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
 
     
     กิจกรรมสัมมนา เจาะลึกขั้นตอนการขอรับสิทธิการลงทุน แนะนำการใช้งาน Industrial Transformation Platform เพื่อหาโซลูชั่นส์ที่เหมาะสมกับความพร้อมและงบประมาณ พร้อมจับคู่ SI พบตัวอย่าง Startup และรับฟังประสบการณ์ความสำเร็จ ที่จะมาแชร์วิธีคิดและวิเคราะห์ประกอบการการตัดสินใจจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการตัวจริง
     
     
     การจัดงานแมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป มหกรรมเทคโนโลยีและโซลูชั่น เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมและการผลิต ระหว่างวันที่ 19-22 มิถุนายน 2562  ณ ไบเทค บางนา มีบริษัท เข้าร่วมจัดแสดงกว่า 500 บริษัท 2,400 แบรนด์ จาก 46 ประเทศ ครอบคลุม 7 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติก แม่พิมพ์และการขึ้นรูป เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและการประกอบ  การเคลือบและเตรียมพื้นผิว การรับช่วงการผลิต
 
     
     โดยมีกลุ่มเทคโนโลยีด้านระบบอัตโนมัติและการประกอบ เข้าร่วมแสดงกว่า 95 บริษัท มีแบรนด์หุ่นยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกว่า 27 แบรนด์ ซึ่งนับว่ามากที่สุดในภูมิภาค โดยใช้พื้นที่การจัดงานกว่า 46,000 ตารางเมตร คาดว่าตลอดทั้ง 4 วันจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 95,000 คน


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

NEWS & TRENDS