SACICT นำศิลปหัตถรรมไทยลุยตลาดญี่ปุ่น

SACICT หรือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) นำงานคราฟท์ไทยที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน อาทิ สิ่งทอ เครื่องจักสาน เสื่อผ้า เครื่องแต่งกาย เซรามิก พร้อมโชว์ศักยภาพงานหัตถศิลป์ของไทยในงาน Interior Lifestyle, TOKYO ประเทศญี่ปุ่น 17-19 กรกฏาคม 2562 เพื่..




     SACICT หรือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) นำงานคราฟท์ไทยที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน อาทิ สิ่งทอ เครื่องจักสาน เสื่อผ้า เครื่องแต่งกาย เซรามิก พร้อมโชว์ศักยภาพงานหัตถศิลป์ของไทยในงาน Interior Lifestyle, TOKYO ประเทศญี่ปุ่น  17-19 กรกฏาคม 2562 เพื่อเชื่อมโยงงานหัตถศิลป์ เข้าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน


     อัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่าด้วยบทบาทและหน้าที่ของ SACICT ที่มีหน้าที่ในการต่อยอดภูมิปัญญาและส่งเสริมด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการผลักดัน พัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน โดยใช้ภูมิปัญญา และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เข้าไปสู่ชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบันรอบตัว จึงได้นำงานหัตกรรมไทยของสมาชิกครูศิลป์ ครูช่าง ทายาท และสมาชิกกลุ่มงานหัตถกรรมเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่สร้างการรับรู้และขยายตลาดในต่างประเทศ


     ตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดที่นิยมงานหัตถกรรม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เป็นตลาดที่ให้คุณค่ากับงานฝีมือ รู้จักและคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมของไทยดี SACICT จึงคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์จักสาน เซรามิก ของใช้ในชีวิตประจำวันที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ถาดทำจากกาบกล้วย เพื่อทดสอบตลาด รับคำสั่งซื้อ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นและเสียงตอบรับของตลาดที่มีต่อผลิตภัณฑ์ของสมาชิก โดย SACICT จะเป็นพี่เลี้ยงให้แก่สมาชิกในขั้นตอนเจรจาธุรกิจเพื่อสร้างการเรียนรู้ และประสบการณ์ เตรียมความพร้อมของผู้ผลิตรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน การเข้าร่วมงานนี้ยังเป็นการศึกษาวิจัยตลาดควบคู่กันไป ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะนำไปประมวลเป็นข้อแนะนำ เช่น การปรับปรุงรูปแบบ หรือการกำหนดราคาให้เหมาะสมยิ่งขึ้น


     งาน Interior Lifestyle, Tokyo ครั้งนี้พบว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจและตอบรับอย่างดี คือ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตประจำวันทั้งเครื่องจักสาน  กระเป๋า ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย อาทิ ผ้าพันคอ หมวก เป็นต้น


     นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว SACICT ยังมีความร่วมมือ (MOU) กับ สาธารณรัฐเกาหลี  ไต้หวัน และ ฝรั่งเศส เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และขยายตลาดงานศิลปะหัตกรรมระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้นำศิลปะทั้งที่เป็นของดั้งเดิม และศิลปะที่มีการพัฒนาให้มีความร่วมสมัย มีการเผยแพร่ข้อมูลสร้างการรับรู้ ส่งเสริมงานงานศิลปหัตถกรรม ไปสู่ตลาดอีกระดับหนึ่ง โดยกลุ่มของแกเลอรี่ต่างๆ เพื่อให้งานศิลปหัตกรรม ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศในทุกระดับ โดยเฉพาะกลุ่มที่รับรู้ในคุณค่าของงานศิลปะ ที่มีความสากลมากขึ้น ส่วนในแง่ของการตลาดต่างประเทศกลุ่มที่ซื้อสินค้าจากเรามากที่สุดคือ กลุ่มจีน รองลงมาคือกลุ่มอเมริกา  กลุ่มยุโรป  ฝรั่งเศส  อิตาลี เกาหลี ญี่ปุ่น
 

     ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานศิลปหัตถกรรม เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ไม่ว่าจะผลิตที่ประเทศไหน ซึ่งประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน คือ การทำงานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้วัตถุดิบ ในท้องถิ่น และมีความเกี่ยวเนื่องกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และปัจจุบัน การผลิตของผู้ประกอบการไทย มีความเป็นสากลมากขึ้น ได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ทั้งในด้าน วัตถุดิบ ทักษะ แนวคิดจากภูมิปัญญา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เป็นคุณค่าของศิลปะทำให้ต่างชาติได้รับรู้ได้เห็นและสื่อถึงเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ดังนั้นจึงการต่อยอดภูมิปัญญาไทย และเชื่อว่าเราสามารถตอบโจทย์ ตลาด ในเรื่องการนำงานศิลปะหัตกรรมเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันในประเทศต่างๆได้เป็นอย่างดี”



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

NEWS & TRENDS