สเปซเซส แบรนด์โคเวิร์คกิ้งระดับโลก จากอัมสเตอร์ดัม รุกตลาดพื้นที่ใหม่ในไทย เปิดศูนย์ที่สี่แห่งแรกในพื้นที่พหลโยธิน พร้อมนำเสนอโมเดลพันธมิตรรูปแบบใหม่กับอาคารพหลโยธิน 19
สเปซเซส (Spaces) ผู้บุกเบิกออฟฟิศพร้อมใช้งานแบบครบวงจรสุดสร้างสรรรค์ ภายใต้แบนด์ IWG ประกาศเปิดสาขาที่สี่ในประเทศไทย ณ อาคารพหลโยธิน 19 ด้วยทำเลแสนสะดวกบนพื้นที่กว่า 2,900 ตารางเมตร ที่พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้
โดยสาขาใหม่นี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สเปซเซส และเจ้าของอาคารพหลโยธิน 19 เพื่อเปิดโอกาศให้เจ้าของอาคารสามารถลงทุนในธุรกิจคเวิร์คกิ้งสเปซได้ โดยจะได้รับความสนับสนุนในการบริหารจัดการภายใต้ความเชี่ยวชาญของแบรนด์ระดับโลกอย่างสเปซเซส ขณะที่สเปซเซส พหลโยธิน 19 ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธิน โดยเน้นการจับตลาดกลุ่มใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งครอบคลุมทั้งแหล่งชุมชน อย่าง ลาดพร้าว จตุจักร บางเขน รัชโยธิน ตลอดจนตึกรามบ้านช่อง ออฟฟิศ และห้างสรรพสินค้าอย่าง เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
ลาร์ส วิททิก ผู้จัดการประจำประเทศ ของสเปซเซส ในประเทศเกาหลีใต้ ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลก ด้วยศูนย์กลางธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องที่ผลักดันโดยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการที่ไม่เคยหยุดนิ่ง การตัดสินใจของเราในการขยายสู่พื้นที่ใหม่ในบริเวณพหลโยธินนี้ สืบเนื่องจากความต้องการของ สเปซเซส ที่จะมอบพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นให้ผู้คนในตอนเหนือของกรุงเทพฯ โดยการนำเสนอพื้นที่ทำงานร่วมกันที่เปิดโอกาศให้สมาชิกได้ทำงาน และพบปะกับมืออาชีพที่มีใจรักในอิสระ และเชื่อมั่นในพลังของความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า การวางตำแหน่งแบรนด์ที่ไม่ซ้ำใครของเรา รวมถึงจิตวิญญาณของเราที่ต้องการให้ทุกคนสามารถมีอิสระในการทำงาน และการออกแบบร่วมสมัย รวมกับการต้อนรับที่อบอุ่นและจริงใจจะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน การรักษาพนักงาน และความพึงพอใจในที่ทำงานของผู้คนในยุคปัจจุบัน”
นอกจากนี้ การร่วมมือของ สเปซเซส กับอาคารพหลโยธิน 19 ในครั้งนี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความต้องการและความสนใจที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่น ประเทศไทยเล็งเห็นความต้องการอย่างสูงสำหรับพื้นที่ทำงานที่มีคุณภาพ จากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติ สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการ ในฐานะศูนย์กลางธุรกิจ การขนส่ง และอุตสาหกรรมของอาเซียน การเปิดโอกาศให้เจ้าของอาคารได้มีส่วนร่วมในการลงทุนในธุรกิจของเรา ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการ ผ่านการพัฒนาชุมชนของมืออาชีพที่มีพลังการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ความเชี่ยวชาญของเราในธุรกิจโคเวิร์คกิ้ง ยังช่วยนำเสนอความคล่องตัวให้แก่เจ้าของอาคาร ให้เขาได้มีส่วนร่วมในตลาดโคเวิร์คกิ้งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากความเสี่ยงในการดำเนินงานบริหารด้วยตนเอง” ลาร์สกล่าวเสริม
ศูนย์แห่งใหม่ ณ พหลโยธินนี้ จะประกอบไปด้วยที่นั่งทำงานแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซ 84 ที่นั่ง โต๊ะส่วนตัว 6 ที่นั่ง ออฟฟิศแบบส่วนตัว และ ห้องประชุมสำหรับการเสนองาน หรือจัดสัมมนาฝึกอบรบต่าง ๆ 4 ห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องครัว และพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Business Club ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมไอเดีย และทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยต่อการเชื่อมต่อและแบ่งปันแนวคิด ทั้งนี้ สมาชิกที่เหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน ยังสามารถออกมาผ่อนคลาย รับประทานอาหารได้ที่สวนรถไฟใกล้เคียง หรือรับแรงบันดาลใจจากพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทยอีกด้วย
ตามแนวคิดของแบรนด์ สเปซเซส พหลโยธิน 19 จะนำเสนอกิจกรรมส่วนรวมอย่างสม่ำเสมอ ในฐานะศูนย์กลางการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ โดยสมาชิกจะมีโอกาสเข้าร่วม เพื่อสร้างเครือข่ายคอนเนคชั่นใหม่ ๆ เสาะหาไอเดียเพื่อการต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถเข้าถึงพื้นที่การทำงานร่วมกันของ สเปซเซส ในกรุงเทพฯ ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ ซัมเมอร์ฮิลล์ (สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง) จัสตุรัสจามจุรี (รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่าน) หรือเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ (สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี) และยังรวมไปถึงกว่า 250 สาขาทั่วโลกอีกด้วย
ทั้งนี้สเปซเซส ก่อตั้งขึ้นใน ปี พ.ศ.2549 และได้เปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ ในปีพ.ศ.2560 โดยมีเป้าหมายที่จะรังสรรสภาพแวดล้อมที่สร้างแรงบันดาลใจ จากจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ เป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ วิวัฒนาการของบริษัท และการเริ่มต้นความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจใหม่ๆ โดยสิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ สเปซเซส มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการเป็นคอมมิวนิตี้ขององค์กรที่ทำงานเพื่อการพัฒนาอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สเปซเซส ยังมีบทบาทการเป็นศูนย์กลางของคอมมิวนิตี้ที่ให้ทุกคนได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย เช่น Happy Hour Fridays และ Spaces Book Club ที่มีลูกค้าแบรนด์ดังระดับโลกเข้าร่วม อาทิ Uber Booking.com Paypal และ GoPro เป็นต้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
