ปั้นชาติให้ยิ่งใหญ่ด้วย SME

เพื่อยกระดับให้วิสาหกิจชุมชนไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคง พร้อมสำหรับการแข่งขันในยุค 4.0 พร้อมสร้างเครือข่ายและสร้างรายได้ให้กับ 400 วิสาหกิจชุมชน งานทดลองกิจกรรมการตลาด “ผสาน สร้างสรร มุ่งมั่น ยั่งยืนสุดยอดผลิตภัณฑ์เครือข่ายวิสาหกิจกิจชุมชน & Product Champion 2019 ครั้งท..




     เพื่อยกระดับให้วิสาหกิจชุมชนไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคง พร้อมสำหรับการแข่งขันในยุค 4.0 พร้อมสร้างเครือข่ายและสร้างรายได้ให้กับ 400 วิสาหกิจชุมชน  งานทดลองกิจกรรมการตลาด “ผสาน สร้างสรร มุ่งมั่น ยั่งยืนสุดยอดผลิตภัณฑ์เครือข่ายวิสาหกิจกิจชุมชน & Product Champion 2019 ครั้งที่ 2” จึงเกิดขึ้น  รอบนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การพัฒนาของศูนย์ Excellence Center  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยแม่โจ้  ซึ่งสุดยอดผลิตภัณฑ์ ดีกรีรางวัล Product Champion ได้แก่ “สูตรตำรับเครื่องสำอางเบสรองพื้น กันแดด ที่ผสมสารสกัดว่านหางจระเข้” และ “สครับฟักข้าวรังใหมสำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน และผิวหน้าแพ้ง่าย” นอกจากนี้ยังผู้ประกอบการที่มีศักยภาพภายใต้โครงการ จำนวน 100 ราย เข้าร่วมงาน ณ ลานเมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม
 

     วชิระ แก้วกอ   ผู้อำนวยการประสานเครือข่ายผู้ให้บริการ SME  และ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานข้อมูลและสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากการที่ สสว. ได้จับมือ 8 มหาวิทยาลัย ได้แก่ เชียงใหม่ แม่โจ้ นเรศวร ขอนแก่น เทคโนโลยีสุรนารี เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วลัยลักษณ์ และสงขลานครินทร์ จัดตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศ หรือ Excellence Center ทั้งด้านเกษตร และด้านการพัฒนาชุมชน ครอบคลุม 4 ภูมิภาค 8 แห่งทั่วประเทศ มุ่งหวังให้เป็นกลไกสำคัญตามแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ ตั้งเป้ายกระดับองค์ความรู้ธุรกิจ 3,200 ราย อบรม Online และ Offline พร้อมพัฒนาและให้คำปรึกษาถึงสถานที่แบบเจาะลึก ขยายช่องทางการตลาดให้กับวิสาหกิจไม่น้อยกว่า 400 ราย เพิ่มศักยภาพเพื่อต่อยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือสร้างบริการใหม่ๆ ไม่น้อยกว่า 40 วิสาหกิจ รวมกว่า 40 ผลิตภัณฑ์/บริการ และผลักดันให้เกิดเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 1 เครือข่ายต่อ 1 มหาวิทยาลัย ภายในปี 2562 นั้น ขณะนี้ การดำเนินงานได้เสร็จลุล่วงแล้ว จึงได้จัดกิจกรรมทดสอบตลาดขึ้นเพื่อเป็นการขยายช่องทางการการตลาดให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้ร่วมโครงการ
 

     กิจกรรมทดสอบตลาด จัดทั้งสิ้น 4 ครั้ง ขณะนี้ได้ดำเนินมาเป็นครั้งที่ 2  โดยเป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ของ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 กันยายน ณ ลานเมืองสุขสยาม ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร  ทั้งนี้ สสว. คาดหวังว่าการดำเนินงานของ ศูนย์ Excellence Center ครั้งนี้จะสามารถส่งเสริมพัฒนาเพื่อยกระดับให้วิสาหกิจชุมชนไทยเติบโตอย่างเข้มแข็งและมั่นคง พร้อมสำหรับการแข่งขันในยุค 4.0 พร้อมกันนี้ยังสามารถสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเพิ่มมากขึ้นเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ตลอดจนสร้างรายได้ให้กับ 400 วิสาหกิจชุมชนที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการเพิ่มขึ้น จึงอยากเรียนเชิญทุกท่านร่วมงาน ชม ชิม ช้อป อุดหนุนสินค้าไทยที่ได้มาตรฐาน
 
 
     ด้าน ผศ.ดร.อรรถพล  มณีแดง รองผู้อำนวยการเทคโนธานีฝ่ายบริหารจัดการนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  กล่าวสรุปว่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการยกระดับวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบไปด้วย  รอบที่ 1  จัดอบรมให้ความรู้ด้านอาชีพและธุรกิจกับผู้ที่ได้รับคัดเลือกโครงการ โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 414 ราย/ธุรกิจ โดยความรู้พื้นฐานด้านอาชีพและธุรกิจต่างๆ รอบที่ 2 จัดอบรมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ จำนวน 59 ราย/ธุรกิจ เข้าฝึกอบรมและพัฒนาเชิงลึก รอบที่ 3 จัดอบรมวิสาหกิจที่มีศักยภาพ 25 ราย/ธุรกิจ ในการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และการดำเนินงานในรอบสุดท้าย เป็นการคัดเลือก Product Champion ซึ่งได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปว่านหางจระเข้ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้ดำเนินการพัฒนา “สูตรตำรับเครื่องสำอางเบสรองพื้น กันแดด ที่ผสมสารสกัดว่านหางจระเข้” ที่มีการยกระดับและพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงเข้มแข็งและยั่งยืนให้แก่วิสาหกิจดังกล่าว   เราได้นำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ 50 ราย เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการส่งเสริมและเข้าสู่ตลาดจริง เพื่อสร้างความพร้อมในการก้าวไปสู่การแข่งขันในตลาดต่อไป
 

     ด้าน ดร.ปิยวรรณ สิริประเสริฐศิลป์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่ามหาวิทยาลัยแม่โจ้รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในการดำเนินงานครั้งนี้ การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยจะผ่านศูนย์ความเป็นเลิศด้านการยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ CEDP MJU (Center of Excellence for Enhance and Developing Community Products, Maejo University) ซึ่งดำเนินการนำองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้กับชุมชน จนสามารถสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการได้ทั้งในระดับชุมชน ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค มีพื้นที่ดำเนินงานครอบคลุมภาคเหนือ 17 จังหวัด ในช่วงที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามกรอบที่ สสว. กำหนดไว้ได้ตามแผนงาน โดยใช้กระบวนการและวิธีการที่ได้จากการประชุมหารือร่วมกันของทั้ง 8 มหาวิทยาลัย ทั้งนี้สำหรับ Product Champion ของผู้ประกอบการที่ได้จากการพัฒนาของมหาวิทยาลัยจะเป็น สครับฟักข้าวรังใหม สำหรับทำความสะอาดถนอมผิวหน้า ซึ่งจะไม่แสบผิว สามารถสครับผิวโดยไม่ทำให้ผิวมีริ้วรอย หรือรอยเหี่ยวย่นเหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้ามัน และผิวหน้าแพ้ง่าย
 

     สำหรับการนำผู้ประกอบการภายใต้โครงการเข้าร่วมงานทดสอบตลาดในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยมั่นใจว่าสินค้าของผู้ประกอบการทั้ง 50 ราย ส่วนใหญ่จะได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงาน เพราะในช่วงวันที่ 26-27 สิงหาคมที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้ทดลองนำไปร่วมออกงานแสดงสินค้าและพบคู่ค้า ในงาน Northern Agi-Biz Supply Chain Matching ณ โรงแรมคุ้มคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มาแล้ว  ซึ่งรายได้จากการร่วมงานดังกล่าว มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านบาท โดยได้มีการทำธุรกิจกับคู่ค้าที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

NEWS & TRENDS