ส่อง GDP SME ไตรมาสที่สามปี 62 ขยายตัว 3.1 % สสว. คาดการณ์ทั้งปี SME โต 3.5 %

ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่สามของปี 2562 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา โดยมีอัตราการขยายตัว 2.4 เปอร์เซ็นต์ ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยจาก 2.3 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสก่อน และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2...




     วิมลกานต์ โกสุมาศ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยมูลค่า GDP SME ไตรมาสที่สามของปี 2562 ขยายตัวได้ 3.1 เปอร์เซ็นต์เท่ากับไตรมาสก่อนโดยมีมูลค่า 1.81 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43.6 เปอร์เซ็นต์ต่อ GDP รวมทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 42.6 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสก่อน ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2562 GDP SME ขยายตัวได้ 3.3เปอร์เซ็นต์
 

     ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่สามของปี 2562 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา โดยมีอัตราการขยายตัว 2.4 เปอร์เซ็นต์ ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยจาก 2.3 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสก่อน และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.5เปอร์เซ็นต์
 

     ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ได้แก่การบริโภคภาคครัวเรือนการบริโภคภาครัฐบาล และการลงทุนรวม ส่วนภาคการส่งออกและนำเข้าสินค้าหดตัวต่อเนื่อง โดย GDP ภาคการเกษตรและภาคบริการมีการขยายตัว ในขณะที่ภาคการผลิตยังคงได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก ในส่วนของสาขาธุรกิจ SME ที่ขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาสที่แล้ว ได้แก่ ธุรกิจบริการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ธุรกิจการเงินและการประกันภัย ธุรกิจด้านศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ และบริการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ขณะที่ SME ในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง รวมถึงธุรกิจบริการข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ยังคงเป็นธุรกิจที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องแม้ว่าจะชะลอตัวลงจากไตรมาสที่แล้ว
 

     สำหรับ SME สาขาธุรกิจที่ชะลอตัวลงจากไตรมาสที่แล้ว ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง โดยชะลอตัวตามการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งเขตเทศบาล สาขาธุรกิจที่สำคัญอื่นๆ ที่ชะลอตัวลง ได้แก่ ธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการทางวิชาชีพฯ
 

     ธุรกิจ SME สาขาการผลิตหดตัวลง 1.5เปอร์เซ็นต์ ต่อเนื่องจากการหดตัว 0.2เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากการ  หดตัวของอุตสาหกรรมวัตถุดิบ เช่น การพิมพ์ ยางและพลาสติก และอุตสาหกรรมสินค้าทุนและเทคโนโลยี เช่น เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการหดตัวของภาคการส่งออก
 

     สำหรับภาพรวมการเติบโตของ GDP SME ใน 9 เดือนแรกของปี 2562 แม้ว่า GDP SME จะมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี แต่ยังคงขยายตัวได้สูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งประเทศ และพบว่าปัจจัยที่สำคัญต่อการขยายตัวของธุรกิจ SME ยังคงมาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับอานิสงค์จากการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกอื่นๆ นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ ธุรกิจ SME ภาคการค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจบริการขนส่งพัสดุ ยังคงเติบโตได้สูงจากการขยายตัวของ e-commerce
 

     ด้านการส่งออกของ SME ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่า 1,813,917.3 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.6เปอร์เซ็นต์ และเมื่ออยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐจะมีมูลค่า 58,065.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเท่ากับ 5.9เปอร์เซ็นต์ แต่หากไม่รวมสินค้าในหมวดทองคำ (HS 7108) จะหดตัว 0.4เปอร์เซ็นต์ โดย SME มีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกต่อการส่งออกรวมเท่ากับ 28.8 เปอร์เซ็นต์
 

     แม้ว่าการส่งออกไปยังจีนและสหรัฐอเมริกาจะยังขยายตัวจากการส่งออกสินค้าทดแทนสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ระหว่างกัน แต่ปัจจัยทางด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่า จะส่งผลให้การส่งออกในภาพรวมของ SME ปี 2562 หดตัวหรือขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับสินค้าส่งออกที่ SME ไทยมีศักยภาพและเติบโตได้ต่อเนื่อง ได้แก่  ผลไม้สดและผลไม้แปรรูป รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูปต่างๆ
 

     สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สสว. คาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของ SME น่ายังคงทรงตัวและอาจขยายตัวเร่งขึ้นได้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวประกอบกับมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ ผ่านมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปลายปี ดังนั้น สสว. จึงปรับประมาณการเศรษฐกิจของ SME ปี 2562 เท่ากับ 3.5 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.5 - 4.0 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสที่แล้ว
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

NEWS & TRENDS