เนื่องด้วยประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับต้นปี 2563 นี้ บริษัทยังคงเดินหน้าสรรสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มแม็กเนตภายในศูนย์การค้าฯ
เนื่องด้วยประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับต้นปี 2563 นี้ บริษัทยังคงเดินหน้าสรรสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มแม็กเนตภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมสร้างความหลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุดได้จับมือ บริษัท ดูซี่ ดิจิแล็บ จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ (A Leader in Creating New Digital Experiences) ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างและนำเสนอดิจิตอลอาร์ตล้ำสมัยให้เป็นที่รู้จัก พร้อมเปิดตัวโปรเจกต์ใหญ่ “Doozy Digital World” (ดูซี่ดิจิทัล เวิลด์) โชว์ดิจิทัลอินเตอร์แอ็กทีฟแห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ที่ชั้น 3 ของศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต พร้อมเปิดตัวเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 นี้
โดย รัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูซี่ ดิจิแล็บ จำกัด ได้กล่าวว่า “จากประสบการณ์เบื้องหลังการทำงานในสายงานดิจิทัลกว่า 30 ปีนั้น ถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างสูง สำหรับการทำโปรเจกต์ใหญ่อย่าง “Doozy Digital World” ด้วยงบการลงทุนกว่า 300 ล้านครั้งนี้ เพราะทุกพื้นที่ของการจัดแสดงนั้น ต้องการเปิดประสบการณ์ Interactive Amusement ให้แก่ผู้ที่เข้าชม ให้ได้ร่วมสัมผัสกับความสนุก ตื่นเต้น ในโลกของดินแดนเหนือจินตนาการแห่งโลกดิจิทัลอาร์ตให้มากที่สุด ผ่านแนวคิดและคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่จัดแสดง โดยได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นทั้งหมด 9 โซน ร้อยเรียงเรื่องราวด้วยการนำเสนอดิจิทัลอาร์ตที่แตกต่างกัน และมีอินเตอร์แอ็กทีฟเฉพาะในแต่ละโซน อาทิ โซน Culture ที่นำเสนอประเพณี วัฒนธรรม และศิลปะของประเทศไทย ในรูปแบบการแสดงแสงสีดิจิทัลที่สร้างความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของโลก ได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีโซน Art, Fashion, Adventure, Games ฯลฯ”
รัญจิรา ยังกล่าวอีกว่า “นอกจาก Doozy Digital World ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเข้าตกแต่งพื้นที่แล้วนั้น ก็ยังคงมีร้านอาหาร “Digital Delicious” ที่พร้อมเปิดให้บริการในช่วงเวลาเดียวกัน ในรูปแบบดิจิทัลอาร์ตอินเตอร์แอ็กทีฟ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “EAT & PLAY” เช่นเดียวกับที่เคยเปิดให้บริการมาแล้วในช่วงปลายปี 62 ถึงต้นปี 63 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ โดยได้ใช้เทคนิคการนำเสนอ ในรูปแบบ 4D Mapping, Multi Touch Screen, Interactive Multi Media ที่ทำให้ทุกๆ วินาทีบนโต๊ะอาหารนั้นเต็มอิ่มไปด้วยภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส และสัมผัส เรียกว่าครบทุกอรรถรส กลายเป็นประสบการณ์สุดกลมกล่อมในรูปแบบ Interactive Dining Experiences อย่างเต็มรูปแบบ โดยร้านอาหารจะตั้งอยู่ในโซนอาหารเปิดใหม่ของศูนย์การค้าจังซีลอน โซน “LOVE EAT” ที่จะเปิดให้บริการในช่วงเดือน เม.ย. 63 นี้เช่นกัน”
ทั้งนี้ ประวิช กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่ช่วงกลางปี 62 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมทั้งดึงร้านค้าใหม่ๆ แบรนด์ดังเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุด ได้แก่ โซนร้านอาหาร “LOVE EAT” ที่ตกแต่งในรูปแบบของ Court House with a Touch of Art & Culture Style ด้วยงบการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยผสมผสานความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน บนพื้นที่เกือบ 4,000 ตารางเมตร (2 ชั้น) ที่คัดสรรร้านอาหารชั้นเลิศนานาชาติ ให้ได้เลือกอิ่มอร่อย สำหรับคนรุ่นใหม่ และทุกคนในครอบครัว อาทิ Sizzler, Grand Tarboosh, The Alley และ Digital Delicious เป็นต้น โดยในขณะนี้ได้ปิดการขายไปแล้วกว่า 70% และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย 63 นี้
และปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของศูนย์การค้าจังซีลอน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและ Expat ร้อยละ 20 และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้อยละ 80 โดยในปี 62 ที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียยังคงเป็นกลุ่มหลัก อาทิ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น ฯลฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว นอกจากนั้นยังมีจาก ออสเตรเลีย รัสเซีย แอฟริกาใต้และตะวันออกกลาง ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยทางศูนย์ฯ ได้เน้นการสื่อสารการตลาดแบบ Direct Marketing เพื่อโปรโมทและประชาสัมพันธ์ตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ทั้งสื่อ Online และ Offline เช่น สื่อ Online Platform หลักๆ ของจีน, การโฆษณาในสื่อสนามบิน, Inflight Magazine ของสายการบินต่างๆ อาทิ กลุ่มสายการบินของจีน, แอร์เอเชีย, การบินไทย, คาเธ่ย์แปซิฟิค, บางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น นอกจากนั้นในปี 63 นี้ บริษัทฯ ยังได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เอเย่นทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Sea Tour, JTB ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ, โรงแรมในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโรงแรมที่หาดป่าตอง อาทิ แคมเปญ Enjoy your stay with Jungceylon และบัตรเครดิต, E-Payment ต่างๆ อาทิ Alipay Exclusive Program, Visa Privilege, บัตรเครดิตเคทีซี (KTC) มอบประสบการณ์ช้อปสุดคุ้มแก่ผู้ที่ถือบัตร นอกจากนั้นยังมีแคมเปญร่วมกับ Matrix Application สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียโดยเฉพาะ และยังได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แก่ โปรแกรม “Passport Privilege 2019” และโปรแกรมเที่ยววันธรรมดา ราคา Shock โลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและดึงลูกค้าชาวไทยมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งให้มากยิ่งขึ้น สำหรับอีเว้นท์ทางการตลาด และแคมเปญโปรโมชั่นยังคงมีไม่ต่ำกว่า 80 อีเว้นท์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ทั้งนี้คาดว่าจากการเปิดตัวของ “Doozy Digital World” นั้น จะประสบความสำเร็จและจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการต่างๆ ภายในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 - 20 จากเดิมเฉลี่ยประมาณ 60,000 - 70,000 คนต่อวัน ในช่วงไฮซีซั่น และเฉลี่ยวันละ 40,000 - 50,000 คนต่อวัน ในช่วงโลว์ซีซั่น พร้อมทั้งสามารถรองรับความหลากหลายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตที่มีจำนวนกว่า 18 ล้านคนต่อปี และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้คึกคักมากขึ้นได้อย่างแน่นอน” ประวิช กล่าว