ถุงขยะแชมเปี้ยนจับมือ บิ๊กซี สนับสนุนแคมเปญ “แยกขยะ = ลดขยะ ทิ้งขยะให้ถูกถุง”

ถุงขยะแชมเปี้ยน จับมือ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เดินหน้าสนับสนุนแคมเปญ “แยกขยะ = ลดขยะ ทิ้งขยะให้ถูกถุง” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ถุงแยกขยะ 4 สี กลิ่น Morning Fresh หอมสดชื่น ลดกลิ่นอับชื้น


 

     บริษัท ดนุเดชอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตถุงขยะภายใต้ชื่อ ถุงขยะแชมเปี้ยน (Champion Bags)  ร่วมกับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (Big C) สนับสนุนการ “แยกขยะ = ลดขยะ และ ทิ้งขยะให้ถูกถุง” เพื่อปลูกจิตสำนึกพร้อมรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจกับการแยกขยะและการทิ้งขยะให้เหมาะสมกับการใช้ถุงขยะในแต่ละประเภท ซึ่งจะนำไปสู่การลดขยะในที่สุด   นำทีมโดยพรีเซ็นเตอร์จากแบรนด์ถุงขยะแชมเปี้ยน โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พร้อมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ถุงแยกขยะ  4 สี แบบม้วนพร้อมกลิ่น Morning Fresh ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ 
 

     ศักดิ์ชัย  ดนุเดชสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดนุเดชอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตถุงขยะแชมเปี้ยน  เปิดเผยว่า “แคมเปญในครั้งนี้ร่วมกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพื่อให้คนหันมาสนใจเรื่องของการแยกขยะ  นำไปสู่การลดปริมาณของขยะ และสามารถนำขยะที่รีไซเคิลได้ ไปใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องทิ้งเป็นขยะที่สูญเปล่า รวมทั้งการแนะนำการใช้ถุงขยะให้เหมาะกับแต่ละประเภทการใช้งาน เพื่อลดปริมาณขยะ และคุ้มค่ากับการใช้งาน  โดยเริ่มจากการประชาสัมพันธ์ภายในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ราชดำริ  ในครั้งนี้นำทีมโดยพรีเซ็นเตอร์จากแบรนด์ถุงขยะแชมเปี้ยน  โตโน่ – ภาคิน  ที่มาร่วมเชิญชวนให้ประชาชนลุกขึ้นมาคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ในชื่อ ห้องไหนก็หอม…กับโตโน่”
 

     “ทั้งนี้ ถุงขยะแชมเปี้ยนได้เปิดตัวถุงแยกขยะ 4 สี แบบม้วนพร้อมกลิ่นมอนิ่งเฟรส (Morning Fresh)  ลดกลิ่นอับชื้นมาในรูปแบบม้วนขนาด 18 X 20 นิ้ว จำนวน 40 ใบ/แพ็ค และ ขนาด 24 X 28 นิ้ว จำนวน 20 ใบ/แพ็ค  ทั้ง 4 สี มีสีดังต่อไปนี้   สีเขียวสำหรับขยะเปียกใส่ขยะที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ, สีน้ำเงินขยะทั่วไป , สีเหลืองขยะ   รีไซเคิลใส่ขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และสีแดงขยะอันตรายใส่ขยะที่ต้องนำไปกำจัดด้วยวิธีที่ถูกต้อง  ที่ผ่านมาทางถุงขยะแชมเปี้ยนได้ออกผลิตภัณฑ์ถุงขยะแบบม้วนและมีกลิ่นหอมมาแล้วทั้งหมด 6 กลิ่น มี 2ขนาด 18X20 นิ้ว จำนวน 30 ใบ/แพ็ก และ ขนาด 24 x 28 นิ้ว จำนวน 15ใบต่อแพค  ได้แก่ กลิ่นมะลิ, กลิ่นกุหลาบ, กลิ่นลาเวนเดอร์, กลิ่นสตรอว์เบอร์รี, กลิ่นแอปเปิ้ล และกลิ่นส้ม  ซึ่งน้ำหอมที่ใช้ถูกคิดค้นพัฒนาในแต่ละกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ และเป็นกลิ่นพิเศษของถุงขยะแชมเปี้ยน เท่านั้น   กลิ่นจะหอม ไม่ฉุน  มีความหอมคงทนยาวนาน ด้วยการสกัดกลิ่นน้ำหอมจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกจากประเทศอเมริกา”
 

     “ถุงขยะแชมเปี้ยน มีหลากหลายประเภทและขนาด  ด้วยส่วนผสมจากวัตถุดิบที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และนอกจากนำมาใช้เป็นถุงขยะ ยังสามารถนำไปใช้เป็นถุงอเนกประสงค์ได้เช่นกัน  เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเราสามารถเลือกขนาดของถุงที่จะใส่ขยะได้ ยกตัวอย่างเช่น ขยะน้อยใช้ถุงขยะแบบบางหรือถุงเล็ก และส่วนขยะที่มีน้ำหนักใช้ถุงขยะหนาขึ้น  ซึ่งเหมาะสำหรับงานหนัก งานเบา แยกขยะให้ถูกประเภท ใช้ถุงให้ถูกประเภท ตามแนวคิดของแคมเปญ “แยกขยะ =  ลดขยะ ทิ้งขยะให้ถูกถุง”  ทั้งนี้ถุงขยะแชมเปี้ยน วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ” ศักดิ์ชัย  ดนุเดชสกุล  กล่าว
 

     ปฐพงศ์  เอี่ยมสุโร  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  จำกัด (มหาชน)  ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี  กล่าวว่า “บิ๊กซีไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้า ในมิติที่ครอบคลุมถึงความรับผิดชอบต่อสังคม 3 ด้านหลัก  ได้แก่ การศึกษา การพัฒนาช่วยเหลือสังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ล่าสุด บิ๊กซี ร่วมกับ ถุงขยะแชมเปี้ยน  ภายใต้โครงการ “แยกขยะ = ลดขยะ ทิ้งขยะให้ถูกถุง” เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกคนไทยใส่ใจการทิ้งขยะตั้งแต่ต้นทางให้ถูกประเภทตามสีถุงขยะ ซึ่งบิ๊กซีถือเป็นร้านค้าปลีกแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้เริ่มแยกประเภทขยะตามสีถุงขยะ”
 

     “นอกจากนี้ บิ๊กซี ยังมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก โครงการระบบขนส่งสีเขียวที่รณรงค์พัฒนาระบบซัพพลายเชนของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพและ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลักการขนส่งอย่างยั่งยืน จัดจำหน่ายสินค้ารักษ์โลก การลดการใช้เชื้อเพลิง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน พัฒนาแอปพลิเคชัน “C ซาเล้ง” เพื่อเป็นช่องทางเก็บกลับบรรจุภัณฑ์  รวมถึงโครงการโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาแบบครบวงจรเพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าภายในองค์กร” ปฐพงศ์  เอี่ยมสุโร  กล่าวเสริม
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup

NEWS & TRENDS