อัน อัน ชานมไข่มุก ได้รับเกียรติจากทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมงานใหญ่ส่งท้ายปลายปี "MOC แฟรนไชส์สร้างอาชีพ 2021" รวมแฟรนไชส์ชื่อดังกว่า 400 แบรนด์ สร้างงาน สร้างรายได้ ช่วยคนมีอาชีพ โดยได้รับเกียรติจาก สินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นประธานเปิดงานในพิธี
โดยปีหน้านี้ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ให้กับผู้สนใจประกอบอาชีพสร้างรายได้กว่า 5,000 ครอบครัว ซึ่งปัจจุบันได้ขยายไปกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว และพม่า และเป็น 1 ใน 150 แบรนด์ผู้ประกอบการดาวรุ่งในงานด้วย
วรกาญจน์ แอ่นปัญญา เจ้าของแฟรนไชส์ CHA AN-AN (ชาอันอัน) เริ่มต้นธุรกิจจากความชื่นชอบในเรื่องการดื่มชานมและมีความสนใจที่จะทำเป็นธุรกิจ บวกกับมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมได้ลองลิ้มชิมรสชานม โดยครั้งแรกเริ่มต้นจากการเปิดคอร์สอบรมสร้างอาชีพ ต่อมาได้รับการแนะนำให้ขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์จึงตัดสินใจศึกษาและเริ่มต้นธุรกิจทันที “ เราทำชานมออกมาให้มีรสชาติในเกรดพรีเมียม ในราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้ ใบชาของเราไม่มีการแต่งสีแต่งกลิ่น ดังนั้นเมื่อดื่มแล้วจะได้รับรสชาติและความหอมของใบชาแท้ๆ โดย ณ ขณะนี้ชานมที่เปิดขายจะเป็นชาไต้หวันก่อนในราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 19 บาท ส่วนเรื่องงบประมาณลงทุนก็ไม่มากโดยใช้เงินเพียงหลักหมื่นก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้”
สำหรับรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ ชาอันอัน มีให้เลือกลงทุน 4 แบบ ได้แก่ แบบ A ใช้เงินลงทุน 19,900 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ อุปกรณ์พร้อมจำหน่าย และวัตถุดิบพร้อมขาย 200 แก้ว, แบบ B ใช้เงินลงทุน 29,900 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ อุปกรณ์พร้อมจำหน่าย และวัตถุดิบพร้อมขาย 300 แก้ว (มีเคาน์เตอร์ ขนาด 120 x 70 CM), แบบ C ใช้เงินลงทุน 59,900 บาท เป็นรูปแบบซุ้ม สิ่งที่จะได้รับ คือ อุปกรณ์พร้อมจำหน่าย และวัตถุดิบพร้อมขาย 300 แก้ว, แบบ D ใช้เงินลงทุน 79,900 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ อุปกรณ์พร้อมจำหน่าย และวัตถุดิบพร้อมขาย 500 แก้ว (มีเคาน์เตอร์ ขนาด 2.00 x 150 CM)
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของรูปแบบร้าน ซึ่งงบประมาณจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และการตกแต่งร้าน ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะต้องซื้อใบชาและครีมผสมกับชาอันอัน เนื่องจากครีมผสมของแบรนด์เป็นสูตรเฉพาะที่มีความพิเศษ คือไม่กลบกลิ่นของชามากเกินไป และต้องใช้ภาชนะบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ 3 ปี โดยระหว่างนี้จะไม่มีเก็บส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์รายเดือนอะไร และยังสอนวิธีการต้มชาและการผสมชาไต้หวันให้ออกมามีรสสัมผัสของใบชาแท้จริง ผ่านคอร์สการอบรมชงชาผ่านออนไลน์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย ในเรื่องของทำเลที่แนะนำให้ดู คือ จะต้องอยู่ในพื้นที่ ชุมชน ผู้คนพลุกพล่าน สิ่งที่สำคัญคือ ร้านต้องสะอาด
“จุดประสงค์ในใจ คือ เราอยากให้ผู้คนมีอาชีพ โดยเงื่อนไขอย่างที่กล่าวข้างต้นว่าในช่วงตลอดระยะเวลา 3 ปี ลูกค้าจะต้องซื้อวัตถุดิบจากเรา โดยที่เราเองก็ติดตามสอบถามความคืบหน้าตลอด นอกจากนี้ เรายังมีแบบขวดสำหรับวางตามร้านอาหารซึ่งเราได้บุกเบิกทำไปแล้ว กำลังการผลิตอยู่ที่ 1,000 ขวดต่อวัน ทั่วประเทศ เกี่ยวกับต้นทุนใบชาจะตกอยู่ที่ 4-5 บาท ใส่น้ำแข็งในแก้วทุกอย่างจะตกอยู่ที่ 9 บาท และขายที่ราคา 19-25 บาท ส่วนไข่มุกเป็นสูตรพิเศษจากไต้หวัน รสชาติหอมนุ่ม นอกจากนี้ แผนงานปีหน้าเราต้องการขยายไปที่ประเทศลาวในรูปแบบของการซื้อแฟรนไชส์ไปประกอบธุรกิจ เพราะตอนนี้เราไปเปิดสาขาที่พม่า กัมพูชาแล้ว นอกจากนี้ยังมีที่ดูไบซึ่งส่วนใหญ่คนไทยที่ไปอยู่ต่างชาติจะนำไปเปิดสาขา และมีคนสนใจมาเป็นดีลเลอร์ด้วย สำหรับสาขาภายในประเทศเราตั้งเป้าที่จะขยายสาขาต่อเนื่องและตั้งเป้าหมายที่จะสร้างอาชีพให้กับ 5,000 ครอบครัว ภายในระยะเวลา 5 ปี ตอนนี้ที่เชียงใหม่มี 15 สาขา แต่สาขาระยะห่างรัศมีไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
