Text: VaViz
ไม่ใช่แค่การเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือต้องเลือกซื้อสิ่งของด้วยตัวเองตามร้านรวงต่างๆ ที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาเท่านั้น แต่กับเรื่องของอาหารการกินก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กัน นั่นเพราะหลายๆ ครั้งต้องกินของไม่สุกหรือไหม้เกินไป หรือต้องให้คนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา
จาก Pain Point ที่ว่ากลายเป็นที่มาของการพัฒนา “เครื่องวัดอุณหภูมิเนื้อสัตว์สำหรับคนพิการทางสายตา” หรือพูดง่ายๆ ว่าคือ ที่คีบช่วยบอกความสุกว่า เนื้อชิ้นที่กำลังปิ้งหรือย่างอยู่นั้นสุกดีแล้วหรือยัง โดยแนวคิดเจ๋งๆ นี้ต้องยกนิ้วให้กับเด็กมัธยมจากโรงเรียนดรุณสิกขาลัย ที่รวมพลังกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในการประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมา
แล้วเครื่องนี้มันทำงานยังไง? ก่อนอื่นเลยคือการติดเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารแบบเข็มไว้กับที่คีบอาหาร ซึ่งจะมีการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมให้สามารถแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิของเนื้อชิ้นนั้นสูงถึงระดับที่ตั้งไว้ เพื่อเป็นการบอกว่าเนื้อชิ้นนั้นสุกพร้อมกินแล้วนั่นเอง
วิธีใช้ก็ง่ายๆ เพียงกดปลายที่คีบ ซึ่งจะมีแท่งโลหะที่เป็นตัววัดอุณหภูมิอย่างที่บอกลงไปบนชิ้นเนื้อ ตัวเซนเซอร์ก็จะจับความร้อนที่ได้และส่งเข้าไปที่โปรแกรม เพื่อทำการแจ้งเตือน ซึ่งมีให้เลือกทั้งการเตือนแบบเสียงและแบบสั่น บอกเลยว่าสะดวกสุดๆ ไม่ว่าจะใช้กินอาหารในบ้านหรือว่านอกบ้าน
สำหรับใครที่ห่วงว่ามันจะสุกทั้งชิ้นจริงๆ หรอ? ไม่ต้องกังวลไป เพราะน้องๆ เขาได้นำตัวต้นแบบไปทำการทดลองกับการทำอาหารประเภทย่างและผัดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่หรือเนื้อหมู ที่หนา 2, 6 และ 10 มิลลิเมตร โดยในเนื้อสัตว์ 1 ชิ้น ได้ทำการวัดอุณหภูมิ 2 จุด และทดลองซ้ำขนาดละ 3 ชิ้น โดยเก็บค่าทุก 15 วินาที
จากนั้นนำผลการทดลองที่ได้ไปเขียนโค้ดให้อุปกรณ์แจ้งเตือน ทำการเตือนเมื่ออุณหภูมิของเนื้อสัตว์อยู่ที่ 85 - 90 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ทดลองมาแล้วว่า ทำให้เนื้อสัตว์ที่นำมาย่างหรือผัดนั้นสุกทั่วทั้งชิ้น
นอกจากเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อหมู ทางทีมยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ที่คีบนั้นสามารถใช้งานได้กับเนื้อสัตว์หลายชนิดมากขึ้น รวมถึงจะทำการปรับขนาดและรูปร่างที่คีบให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น และมีการแจ้งเตือนแบบเสียงด้วย
เรียกว่าเป็นไอเดียที่ไม่ใช่แค่ทำให้คนพิการทางสายตามีตัวช่วยในการกินอาหารหรือทำอาหารเอง ที่สามารถพกไปไหนมาไหนได้สะดวก ใช้งานง่าย และทำความสะอาดได้ไม่ยากเท่านั้น แต่ยังมองทะลุไปถึงเรื่องของ Self-esteem ที่ทำให้พวกเขาเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองว่า สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเท่าที่จำเป็น ตามหลัก Independent Living หรือการดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ
งานนี้ หมูกระทะ Everyday ที่เป็นความฝันของคนพิการทางสายตาหลายๆ คน ที่อยากจะลองกินด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิตคงจะเป็นจริงได้ในสักวัน....
ที่มา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี , KMUTT ,กรุงเทพธุรกิจ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 
                             
         
                                                     
                                                    