Pure–LED ก๊อกไฟอัจฉริยะ ตัวช่วยลดต้นทุนธุรกิจ

Text : พิชชานันท์ สุโกมล 
Photo : กฤษฎา ศิลปไชย




 
     แนวโน้มการเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ดูจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากราคาในปัจจุบันลดลงจากเดิมมาก โดยเฉพาะการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ไฟจำนวนมาก ทำให้ประหยัดพลังงานและเสียค่าไฟน้อยกว่าการใช้หลอดไส้ แต่เมื่อสองปีที่ผ่านมาได้มีนวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับหลอดไฟ LED ที่สามารถประหยัดพลังงานได้เหนือชั้นกว่า ด้วยระบบ Pure-LED Network Lighting Control ซึ่งเป็นระบบควบคุมแสงสว่างแบบไร้สาย ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายในภาคธุรกิจและในภาคอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิดที่ว่า “ถ้าเรามีก๊อกน้ำควบคุมการเปิดปิดปริมาณน้ำได้ เราก็ต้องมีก๊อกไฟที่สามารถควบคุมการเปิดปิดปริมาณพลังงานไฟฟ้าได้เช่นกัน”

 
     บรรจง ปัญญาศรีวินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพียวแอลอีดี จำกัด คือผู้ริเริ่มแนวคิดและสตาร์ทธุรกิจด้วยการนำเอาระบบควบคุมแสงสว่าง ทั้งแบบควบคุมด้วยสายไฟ (Pure-Wire) และแบบไร้สาย (Pure-Wireless) เข้ามารองรับการทำงานในระบบขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า จากการตั้งเวลาเปิด-ปิดของชุดคำสั่งที่มีความแม่นยำ ปรับความสว่างในบริเวณที่ใช้งานให้เหมาะสม โดยเลือกปิดหรือเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ผ่าน Touch Switch, Smartphone, Computer หรือกระทั่ง Smart TV ที่ทำให้การเปิด-ปิดไฟสามารถสั่งการได้จากทุกที่ 



     “ผมเริ่มต้นธุรกิจด้วยแนวคิดที่ว่า ทำไมเราต้องเปิดไฟทิ้งไว้ตลอดเวลา ประกอบกับเทรนด์เรื่องของเทคโนโลยี LED เข้ามา มีคนกำลังไล่เปลี่ยนมาใช้ไฟ LED มากขึ้น ถ้าเรามีระบบควบคุมแบบง่ายๆ ไปติดไว้ที่ดวงไฟ แล้วควบคุมระยะไกลได้ก็น่าจะสะดวกสบายขึ้น พอมีความคิดแบบนี้ ก็คิดต่อว่า ไฟฟ้าแพงกว่าน้ำ แล้วน้ำยังมีก๊อก จะล้างมือเราต้องเปิดน้ำอ่อนๆ ไม่มีใครเปิดสุดแล้วล้าง แต่ไฟฟ้าถ้าเกิดเราไม่ได้ใช้ทำไมไม่มีคนหรี่ลง ซึ่งเราเปรียบเสมือนก๊อกไฟ แต่ก๊อกไฟของผมไม่ได้เอามือไปอุด แต่เป็นไวร์เลสสั่งการ ฉะนั้นไฟไหลลงมาก็ไม่เรี่ยราด แต่ไม่มีคนคิดจะทำอะไรเพราะมองไม่เห็น ไม่เหมือนน้ำ ถ้าเปิดเรี่ยราดทุกวัน โดยที่เจ้าของไม่ทราบเลยว่าต้นทุนที่เขาเสียไปคืนหนึ่งเท่าไหร่ เดือนหนึ่งเท่าไหร่” 



 
     บรรจงเปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างการเดินระบบไฟ LED แบบธรรมดา กับระบบ Pure – LED ว่าเหมือนกับการเลือกซื้อแอร์ที่มี INVERTER  กับแอร์ที่ไม่มี INVERTER ราคาแอร์ที่มี INVERTER แพงกว่ากันหนึ่งหมื่นบาท แต่ความเย็นเหมือนกันเลย สำหรับคนที่ไม่รู้หรือไม่มีกำลังซื้อ เขาอาจเลือกแอร์ที่ไม่มี INVERTER แต่หารู้ไม่ว่าระหว่างแอร์ตัวละหมื่นกับสองหมื่น ถ้าเกิดใช้ไป 5 ปี ค่าไฟของแอร์ที่มี INVERTER อาจจะเหลือ 20,000 บาท รวมกันแล้วค่าไฟกับค่าแอร์เป็น 40,000 บาท แต่ถ้าค่าไฟของแอร์ที่ไม่มี INVERTER ค่าไฟอาจจะ 40,000 บาท ฉะนั้น 5 ปี ความเป็นเจ้าของของแอร์สองตัวนี้ แอร์ตัวที่ราคาถูกมี Total Cost ที่มากกว่าตัวที่แพง ซึ่งระบบไฟของ Pure-LED ก็ใช้หลักการนี้เช่นกัน 




 
     จุดเด่นของ Pure-LED น่าจะมาจากความคล่องตัวในการใช้งาน โดยบรรจงบอกว่า กว่าจะเป็นระบบนี้ได้ต้องอาศัยความรู้ใน 5 ยุทธศาสตร์ คือ Computer Programing, Communication, Network, CPU และ Memory โดยมีไมโครโปรเซสเซอร์อยู่ข้างใน เป็นตัวสำคัญในการรับคำสั่งว่าต้องการให้ทำอะไร เปรียบเหมือนสมองกลเล็กๆ ที่เอาเข้าไปไว้ในหลอดไฟ ทำให้ปรับระดับแสงไฟได้ 0-100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีการกระพริบ ซึ่งไวร์เลส 1 ตัว สามารถสั่งการหลอดไฟได้ถึง 65,000 ดวง และมีรัศมีระยะไกลถึง 300 เมตร ที่สำคัญราคาเริ่มต้นต่อไฟ 40 ดวง อยู่ที่หมื่นกว่าบาท ถือเป็นราคาที่ถูกกว่าต่างประเทศมาก ประกอบกับการเลือกใช้วัสดุเกรดคุณภาพสูง รับประกัน 3 ปี และรับประกันระบบอยู่ที่ 1 ปี





     ลูกค้า Pure-LED คือใคร? บรรจง บอกว่าระบบควบคุมไฟฟ้าของ Pure-LED ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก แม้แต่ระบบไฟภายในบ้านก็สามารถทำได้เช่นกัน 


     "SME สามารถเลือกเปิด ปิด หรือหรี่ไฟดวงที่ไม่ใช้ได้ สมมุติ ต้องการทำงานแค่โซนตรงกลาง โดยโซนริมๆ ไม่มีคนเลย เขาเลือกเปิดเฉพาะโซนตรงกลาง หรืออาจหรี่ไฟโซนริมไว้ เช่น ถ้าต้องการใช้ไฟแค่ 75 เปอร์เซ็นต์ ก็สั่งไปที่ 75 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่าที่ต้องการแสงสว่าง ซึ่งถ้าเป็น LED ทั่วไปก็ต้องใช้แสง 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดเวลา ถ้าไฟ 150 วัตต์เปิดทิ้งไว้ ก็เท่ากับเปิดทิ้ง 150 วัตต์ แต่ถ้าจะมีบางช่วงบางเวลาที่เปิดแค่ 35 เปอร์เซ็นต์จาก 150 วัตต์ ก็จะเหลือแค่ 50 วัตต์ เป็นการใช้ไฟฟ้าลดมา 3 เท่านั่นเอง"บรรจง กล่าวทิ้งท้าย
 
     
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 
 
 

RECCOMMEND: TECH

“จุลินทรีย์คึกคัก” นวัตกรรมกำจัดสารเคมีตกค้างบนดิน ตัวช่วยเกษตรกรประหยัดทุน ได้ธุรกิจยั่งยืน

จุลินทรีย์คึกคัก ตัวช่วยแก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ด้วยฝีมือคนไทยจากบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เทคนิคขายของออนไลน์อย่างไร ให้สต็อกไม่จม ออร์เดอร์ไม่หลุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Double day หรือเทศกาลต่างๆ เป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตักตวงออร์เดอร์มากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่จะทำอย่างไรให้โอกาสเหล่านี้ไม่กลายเป็นวิกฤตสร้างปัญหาทางธุรกิจ เช่น สต็อกจม ส่งของไม่ทัน ทำให้สูญเสียลูกค้าในที่สุด

รู้จักเทรนด์ Hyper Automation ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่อนาคตจะพัฒนาไปสู่ Hyper automation เพื่อช่วยกำจัดความยุ่งยากของการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ลองมาทำความรู้จักกับเทรนด์นี้พร้อมกัน