​5 เทคโนโลยีสุดฮอต พลิกธุรกิจสู่ Digital Hotel




 
     อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกวันนี้แทบจะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไปแล้วด้วยตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีมูลค่ามากถึง 2.52 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีมากถึง 34.39 ล้านคน (ข้อมูล : ประมาณการปี 2559 ททท.) ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายย่อย SME หรือแม้แต่บุคคลธรรมดานิยมหันมาประกอบธุรกิจโรงแรมกันมากขึ้น เพื่อหาโอกาสและช่องทางสร้างรายได้จากตลาดนี้


     ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว สมัยที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าใดนัก จำนวนโรงแรมในประเทศไทยยังมีไม่มาก การประกอบธุรกิจจึงให้ความสำคัญไปในเรื่องการหาทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้แขกผู้เข้าพัก การอบรมพนักงานให้มีใจรักบริการ รวมถึงตกแต่งโรงแรมให้ดูเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากคู่แข่งขัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะได้ผลที่สุด ณ ช่วงเวลานั้นเพราะคู่แข่งขันในธุรกิจโรงแรมยังไม่เยอะมาก ส่วนลักษณะโรงแรมเองก็ยังมีให้เลือกไม่มากนักจะมีก็แต่โรงแรม 3-5 ดาวขึ้นไปเป็นหลัก


     จนกระทั่งถึง 10 ปีให้หลังมานี้ที่เริ่มมีการแบ่ง Category ในหมวดโรงแรมเพิ่มมากขึ้น โดยมีทั้ง Budget Hotel, Hostel, Condotel, Service Apartment และ Boutique Hotel จำนวนโรงแรมเพิ่มขึ้นมากเกือบเท่าตัวและอุดมไปด้วยผู้ประกอบการหลากหลายทั้งขนาดใหญ่ที่เป็นรูปแบบบริษัทที่แตกไลน์ธุรกิจออกมาทำโรงแรม หรือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กอย่าง SME ซึ่งนอกจากจำนวนโรงแรมที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว จำนวนของซัพพลายเออร์ผู้ทำหน้าที่คอยสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการมารองรับการเกิดขึ้นของโรงแรมเหล่านั้นก็มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน หลักๆ ที่เห็นได้ชัดคือ ซัพพลายเออร์ด้านซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ผลิตสินค้าด้าน IT เช่น ระบบ PMS (Property Management System) ระบบคีย์การ์ด ระบบ POS (Point Of Sale) รวมทั้งซัพพลายเออร์ที่ผลิตข้าวของเครื่องใช้ให้กับโรงแรม เช่น รับออกแบบตกแต่งโรงแรม รับผลิตชุดเครื่องใช้ในห้องน้ำโรงแรม (Bathroom Amenities) ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลโดยเฉพาะผู้ให้บริการด้าน IT กำลังจะถูกกระแสนิยมนำเทคโนโลยีมาใช้ในโรงแรมเร่งให้ต้องปรับตัวทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ  





     จากประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรม รวมทั้งการศึกษาเทรนด์การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีของธุรกิจโรงแรมพบว่า ในขณะนี้มีหลายๆ โรงแรมที่เริ่ม Transform สู่การเป็น Digital Hotel กันแล้ว ตั้งแต่เชนโรงแรมระดับโลกอย่าง Marriott, Starwood, Accorhotels, The Ritz-Carton, Hilton ฯลฯ รวมทั้งการเกิดขึ้นของบริษัท Startup ที่ผลิตสินค้าออกมารองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้านล่างนี้คือตัวอย่างที่ตั้งใจนำเสนอเพื่อเป็นแนวทางและช่องทางในการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมของซัพพลายเออร์ต่างๆ ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองเพื่อมารองรับกับเทรนด์ดังกล่าวที่มีแนวโน้มว่าต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต


     1. ระบบ Mobile Check In และ ระบบ Keyless ระบบหลักที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นระบบแรกๆ เป็นการใช้ Mobile Application ของแต่ละโรงแรมในการอำนวยความสะดวกให้แขก Check In โดยลดขั้นตอนในการติดต่อพนักงานต้อนรับเพื่อขอรับกุญแจห้อง โดยระบบนี้แขกที่เข้าพักจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Application ของโรงแรมเมื่อถึงวัน Check In ว่าห้องพักของตนนั้นเรียบร้อยพร้อมเข้าพักหรือไม่ หากห้องพักเรียบร้อยแล้วแขกสามารถใช้ฟังก์ชัน Mobile Check In เพื่อทำการ Check In ผ่านมือถือได้เลยและรับรหัสกุญแจสำหรับเข้าห้องพัก ซึ่งเมื่อแขกเดินทางมาถึงโรงแรมก็สามารถไปที่ห้องพักและใช้รหัสที่ได้รับการสแกนกับที่จับประตูหน้าห้องเพื่อเข้าห้องพักได้ทันที ณ ตอนนี้เชนโรงแรมระดับโลกอย่าง Marriott, Starwood, Hilton เริ่มมีให้บริการแล้วในโรงแรมที่บางประเทศกฎหมายอนุญาตให้ทำ Mobile Check In ได้


     2. ระบบ Visual Reality-VR เป็นการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในการเยี่ยมชมสถานที่พัก โดยก่อนที่แขกจะทำการจองห้องพักจะสามารถเยี่ยมชมสถานที่จริงได้แบบ 360 องศาผ่านระบบ VR ทั้งในหน้า Desktop และ Application ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสถานที่จริงทั้งการชมส่วนของห้องพักหรือพื้นที่รอบๆ โรงแรม และแม้แต่สถานที่ใกล้เคียง เช่น ชายหาดและแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ระบบนี้เริ่มใช้แล้วในโรงแรม Hilton Waikiki Beach และมีอีกหลายโรงแรมที่เริ่มพัฒนานำ VR มาใช้กับหน้าเว็บไซต์โรงแรมของตนเอง


     3. Innovative Design Concept ในอดีตการตกแต่งโรงแรมจะใช้สถาปัตยกรรมและศิลปะ มาสร้างความแปลกแตกต่างและความสวยงามให้กับสถานที่ของตนเองแต่ในปัจจุบันเริ่มมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตกแต่งโรงแรมกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โรงแรม W Hotel ในเครือของ Starwood ที่นำจอภาพมาติดตั้งไว้ในบางพื้นที่ของโรงแรมเป็นการตกแต่งในรูปแบบของ Interactive Wall Art Using ซึ่งหน้าจอดังกล่าวจะแสดงผลของข้อมูลต่างๆ ตามการเคลื่อนไหวของแขกผู้เข้าพักเป็นการตอบสนองให้แขกรู้สึกมีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวของจอภาพดังกล่าว


     4. Access & Payment กรณีนี้ขอยกตัวอย่าง Walt Disney World Resort Hotel ที่จัดทำ Wristband สายรัดข้อมือที่แขกผู้เข้าพักสามารถใช้สแกนเพื่อเข้าห้องพักได้ สามารถใช้สแกนเพื่อจ่ายเงินตาม Outlet ต่างๆ ในโรงแรมและรีสอร์ตได้ ใช้สแกนเพื่อเข้าใช้บริการในส่วนของสวนน้ำ และยังสามารถใช้ซื้อบัตรผ่านประตูสำหรับท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในเครือของ Walt Disney ได้อีกด้วย โดยที่แขกผู้เข้าพักไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าสตางค์หรือคีย์การ์ดไปด้วยตลอดเวลาในระหว่างเข้าพัก


     5. Robotic หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ แม้โรงแรมจะเป็นธุรกิจบริการและขาย Service Mind ที่มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ตอบสนองมนุษย์ด้วยกันได้ดีที่สุดเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนี้เริ่มมีการทดลองนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรมด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต เชนโรงแรมระดับโลกหรือแม้แต่โรงแรมทั่วไปเริ่มมีการทดลองนำหุ่นยนต์มาเป็นพนักงานต้อนรับเพื่อคอยให้ข้อมูลรายละเอียดโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวกับแขกผู้เข้าพักกันบ้างแล้ว เช่น โรงแรม Ghent Marriott ในประเทศเบลเยียมที่มีหุ่นยนต์ชื่อ Mario คอยทำหน้าที่พูดคุยโต้ตอบกับแขกผู้เข้าพักและให้รายละเอียดเกี่ยวกับเมือง Ghent จนมันกลายเป็น Celebrity ของเมืองไปแล้ว แต่ที่ชัดเจนที่สุดถึงขั้นมีนโยบายแทนที่พนักงานมนุษย์ด้วยหุ่นยนต์คือโรงแรม Henn-na Hotel ในญี่ปุ่นที่วางเป้าหมายให้ตัวเองเป็น Robot Hotel ซึ่งปัจจุบันมีถึง 2 สาขาแล้ว นอกจากนี้ ยังมี Startup บริษัทหนึ่งชื่อ Savioke ผลิตหุ่นยนต์ Room Service ที่ทำหน้าที่ขึ้นไปส่งอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนสิ่งของอื่นๆ ที่แขกโทรศัพท์มาขอแทนการใช้พนักงานมนุษย์เหมือนแต่ก่อน


     ตัวอย่างทั้งหมดนี้เป็นกรณีศึกษาและแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้วในธุรกิจโรงแรมระดับโลก ซึ่งคาดว่าในไม่ช้านี้ก็คงจะเข้ามาสู่เมืองไทย ไม่อยากให้ SME รู้สึกตื่นตระหนกกับกระแสดังกล่าวแต่อยากให้ลองมองหาโอกาส ที่จะผลิตสินค้าและบริการหรือปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่ให้รองรับเทรนด์ของเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อให้ SME ที่เกี่ยวข้องหรือมีลูกค้าในกลุ่มโรงแรมอยู่แล้วได้ใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาสินค้าและบริการออกมารองรับกับเทรนด์ดังกล่าวนี้ในอนาคต


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

แสงตะวัน อ่อนน่วม พัฒนาแพลตฟอร์ม แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนให้ธุรกิจที่พักไซส์เล็ก

ปัญหาหนึ่งของธุรกิจโรงแรมเล็ก คือต้นทุนการดำเนินงานสูง และมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน แสงตะวัน อ่อนน่วม ซึ่งเห็น Pain Point ดังกล่าว จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Shin Platform Hotel Self-Service Solution ขึ้นมา เพื่อช่วยทดแทนแรงงานคน, บริษัท ชิบะรูม

เจ๋งป่ะล่ะ! AI ผู้ช่วยเชฟคนใหม่ เก็บข้อมูลทำเมนูสุดโปรดเสิร์ฟลูกค้า ช่วยสแกนเศษอาหาร ลดต้นทุน ลดขยะ

ปัจจุบันโลกเรามีการนำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาใช้พัฒนา ปรับปรุงสิ่งต่างๆ ขึ้นมากมาย ตั้งแต่เรื่องใหญ่ๆ ไปจนถึงเรื่องเล็กๆ ล่าสุดใครจะคิดว่า แม้แต่ถังขยะในครัวของโรงแรมและร้านอาหาร ก็มีการนำ AI เข้ามาใชั

Mewre น้ำดื่มเพื่อสุนัขและแมวเจ้าแรกของโลก จากไอเดียที่ไม่อยากให้น้องป่วย เมื่อผู้บริโภคไม่ได้มีแค่คนเท่านั้น

Mewre น้ำดื่มเพื่อสุนัขและแมวเจ้าแรกของโลก อีกหนึ่งสินค้านวัตกรรมที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์ชาว Pet Parent หรือ การเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว