cafn.co อีมาร์เก็ตเพลส กาแฟเจ้าแรกของไทย เชื่อมผู้ซื้อ – ผู้ขายทำธุรกิจง่ายขึ้น

TEXT : Nitta Su

PHOTO :  cafn.co

 Main Idea

  • cafn.co แพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลสกาแฟเจ้าแรกของไทย เพื่อช่วยเชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น

 

  • เกิดจากแนวคิดของสองหนุ่มสาวคู่รักที่อยากหาค้นหากาแฟที่ชื่นชอบจากช่องทางออนไลน์ แต่ไม่สามารถหาซื้อได้ เกิดเป็นไอเดียธุรกิจใหม่ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

 

     จากเทรนด์ความนิยมในการบริโภคกาแฟของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาให้ความสนใจกับรสชาติ แหล่งที่มา กระบวนการผลิต และเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละพื้นที่มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจกาแฟ ไม่ว่าร้านกาแฟ โรงคั่ว เกษตรกรผู้เพาะปลูกเอง ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพในแบบฉบับของตัวเองเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการโปรเซส ไปจนถึงลงมือคั่วเอง ทำให้ปัจจุบันมีเมล็ดกาแฟป้อนเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก

     ทำยังไงให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถมาเจอกันได้ง่ายขึ้น ผู้ซื้อเลือกกาแฟได้ตามที่ต้องการ ขณะเดียวกันผู้ขายก็มีโอกาสทำตลาดได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่ยืนให้กับรายเล็กได้มีโอกาสทำตลาดและโปรโมตตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นี่เองจึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง cafn.co แพลตฟอร์มอีมาร์เก็ตเพลสเฉพาะกาแฟแห่งแรกของไทย ที่ก่อตั้งโดยคู่รักสาวนักออกแบบและหนุ่มโปรแกรมเมอร์ กัน-กัญณพัชร อยู่สะบาย และ ไป๊-ปรณัฐ ชลวร

จับ Pain Point มาสร้างเป็นแพลตฟอร์ม

     “จริงๆ เราไม่ใช่คนทำธุรกิจกาแฟมาก่อน เป็นแค่คนกินกาแฟปกติคนหนึ่ง จนมาในช่วงโควิด-19 ที่ต้องมีการกักตัว และ Work from home เกิดขึ้น ทำให้ออกไปกินกาแฟที่ร้านไม่ได้ เราเลยทดลองสั่งเมล็ดกาแฟมาเริ่มหัดทำกาแฟกินเองที่บ้าน ก็เจอว่าจริงๆ แล้วเมล็ดกาแฟตัวหนึ่งนั้นมีรายละเอียดให้เลือกมากมาย ทั้งสายพันธุ์กาแฟ แหล่งที่ปลูก วิธีการโปรเซส ระดับการคั่ว กลิ่น และรสชาติต่างๆ เช่น อยากได้เมล็ดเอธิโอเปีย แต่อยากได้เทสต์โน้ตเป็นผลไม้จะต้องเลือกยังไง เราไม่สามารถเลือกซื้อได้ง่ายๆ เลยบนออนไลน์ ถ้าเราไม่รู้จักดีอยู่แล้ว

     “ก็เลยมาคิดกันว่าน่าจะมีแพลตฟอร์มบางอย่างที่ทำให้คนอยากกินกาแฟ หากาแฟได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการขายเมล็ดกาแฟ โดยเฉพาะรายเล็กๆ เพื่อให้ผู้บริโภคหาเขาเจอได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งลองหาข้อมูลดูแล้ว ยังไม่เคยมีใครสร้างระบบและทำเป็นเว็บไซต์ขายเมล็ดกาแฟจริงจัง ก็เลยคุยกัน และตัดสินใจสร้างเป็นเว็บไซต์แพลตฟอร์มซื้อ-ขายเมล็ดกาแฟขึ้นมา ระบบการใช้งานก็เหมือนกับเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์อื่นๆ ที่ให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้า เพียงแต่ของเราเน้นเฉพาะกาแฟอย่างเดียวไปเลย โดยเริ่มจากคุยกับคนกาแฟเยอะขึ้น ทั้งคนกินและคนขาย คนคั่ว บาริสต้า ฯลฯ ว่ามีอะไรที่เขาต้องการบ้าง ระหว่างที่กำลังพัฒนาเว็บไซต์ ก็เริ่มทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกาแฟพร้อมกันไปด้วย ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์” กันและไป๊เล่าถึง Pain Point ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจให้ฟัง

ง่ายต่อคนซื้อ สะดวกต่อคนขาย

     กันและไป๊เล่าเพิ่มเติมว่าวัตถุประสงค์ของการสร้างแพลตฟอร์ม cafn.co ขึ้นมา มีอยู่ 2 ส่วนหลัก คือ 1) เพื่อให้ง่ายต่อคนซื้อให้สามารถเข้ามาเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่ชอบได้ตามรายละเอียดที่ต้องการ โดยมีการรวบรวมเมล็ดกาแฟจากแบรนด์ต่างๆ ไว้ให้เลือกมากมาย ทั้งเมล็ดกาแฟยอดนิยม ไปจนถึงเมล็ดหายาก เมล็ดกาแฟที่ได้รางวัลจากการประกวด เป็นต้น 2) เพื่อเพิ่มพื้นที่ช่องทางการจำหน่ายและโปรโมตแบรนด์เมล็ดกาแฟจากผู้ผลิต ทั้งโรงคั่ว ร้านกาแฟ หรือเกษตรกรที่เป็นโรงคั่วระดับไมโครเล็กๆ ที่เริ่มต้นทำเองด้วยตัวคนเดียว

     “เป้าหมายของเรา คือ ต้องการเป็นสื่อกลางเชื่อมระหว่างผู้บริโภคที่เป็นคนซื้อ และผู้ประกอบการที่เป็นคนขายให้มาเจอกัน ผู้บริโภคก็ได้เลือกกาแฟที่ตรงกับความต้องการง่ายขึ้น ฝั่งคนขายก็ได้มีพื้นที่โปรโมตแบรนด์และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น โดยเราพยายามทำมากกว่าการเป็นพื้นที่ซื้อขายของ แต่อยากทำให้กาแฟเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในกาแฟ เรามีการสร้างระบบการค้นหาเมล็ดกาแฟบนเว็บไซต์ของเรา โดยทำให้สามารถค้นหาได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น หากอยากได้เมล็ดกาแฟเอธิโอเปีย ก็ให้เลือกคลิกที่ Single Origin แล้วถ้าอยากได้ออกโทนผลไม้หน่อย ก็ให้ไปที่ Fruity จะเจอ Berry ชนิดต่างๆ เช่น แบล็กเบอร์รี, บลูเบอร์รี, ราสเบอร์รี ก็กดเลือกได้เลย จากนั้นเมล็ดกาแฟที่มีคุณสมบัติกับที่เลือกไป ก็จะโผล่ขึ้นมา หรือบางคนถ้ามีเมล็ดกาแฟที่ชอบอยู่แล้ว หรือโรงคั่วที่ชอบ ก็สามารถกดเลือกได้เลยทันที เรียกว่าเหมาะทั้งกับคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร โดยเลือกคลิกไปเป็นข้อๆ ที่เราวางเอาไว้ และคนที่รู้จักกาแฟดีอยู่แล้วด้วย” กันอธิบายการใช้งานเว็บไซต์ให้ฟัง

     สำหรับการทำงานในฝั่งผู้ขายกันอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อมีลูกค้ากดสั่งซื้อเข้ามา ระบบจะทำการแจ้งยอดออร์เดอร์เข้าไปที่โรงคั่วหรือผู้ขายเมล็ดกาแฟ เพื่อให้เตรียมจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยเมื่อมีการจัดส่งแล้วระบบจะทำการแจ้งเตือนไปยังลูกค้า จนเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ประมาณหนึ่งสัปดาห์ระบบจึงจะทำการโอนยอดเงินไปยังบัญชีของผู้ขาย โดยนอกจากให้แบรนด์นำสินค้ามาลงขายได้โดยตรงแล้ว กันและไป๊ยังมีการทำโปรเจกต์พิเศษออกมาร่วมกับโรงคั่วต่างๆ เพื่อโปรโมตเมล็ดกาแฟแต่ละชนิดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

     “นอกจากให้แบรนด์ต่างๆ ได้นำสินค้ามาวางจำหน่ายแล้ว เราจะมีการคิดโปรเจกต์พิเศษขึ้นมาเป็นช่วงๆ ด้วย เช่นคอลแลปส์กับโรงคั่วหลายๆ ที่ด้วย เพื่อให้เขาคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่บ่งบอกตัวตนของโรงคั่วเขามากที่สุดมาร่วมโปรเจกต์กับเรา โดยจะทำเป็นไซส์พิเศษเล็กๆ พอดีสำหรับการชง 1 แก้ว จากหลายๆ โรงคั่วมาวางจำหน่ายพร้อมกัน โดยเราจะเป็นคนออกแบบแพ็กเกจจิ้ง และแพ็คจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้โรงคั่วเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้เรายังมีการทำคอนเทนต์และเขียนบทความเล่าเรื่องแบรนด์ต่างๆ ลงในเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ cafn.co ให้ด้วย”

     ฟังจากที่กันเล่ามาและได้ลองเข้าไปทดสอบการใช้งานด้วยตัวเอง ก็พบว่าใช้งานได้ค่อนข้างง่าย และมีรายละเอียดคุณสมบัติเมล็ดกาแฟให้กดเลือกได้ค่อนข้างละเอียด ทำให้พบกาแฟที่ต้องการได้ โดยตัวเว็บจะแบ่งการสร้างประสบการณ์ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

     1.ส่วนที่สามารถเลือกซื้อได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่รู้อยู่แล้วว่าต้องการเมล็ดกาแฟชนิดไหน ก็สามารถกดเลือกหัวข้อที่ต้องการได้เลยทันที เช่น โรงคั่วที่ชอบ, สินค้าขายดี, สินค้าเข้าใหม่, สินค้าพิเศษ, เรตราคาที่ต้องการ โดยจะมีปริมาณกาแฟ ราคา รวมถึงจำนวนที่เหลือสำหรับกาแฟบางชนิดเอาไว้ด้วย

     2.การค้นหาเมล็ดกาแฟที่ชอบ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี จะมีให้กดเลือกตั้งแต่ระดับการคั่ว, ต้องการเมล็ดแบบซิงเกิ้ลออริจิ้น หรือเบลนด์, เลือกจากแหล่งผลิต, กระบวนการโปรเซส, ระดับความสูงของพื้นที่เพาะปลูก ไปจนถึงเทสต์โน้ต เช่น กลิ่นผลไม้, ดอกไม้, เครื่องเทศชนิดต่างๆ เรียกว่าเป็นอีมาร์เก็ตเพลสเฉพาะด้านที่ออกแบบประสบการณ์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าได้ตรงกับความต้องการแบบเจาะลึกจริงๆ

ช่วยรายเล็ก เลือกคนร่วมงานจาก Passion มากกว่าผลกำไรที่ได้

     สำหรับคุณสมบัติของผู้จำหน่ายเมล็ดกาแฟที่อยากนำมาวางขายในแพลตฟอร์ม cafn.co กันและไป๊กล่าวว่าขอเพียงเป็นคนที่มีความตั้งใจและรักในกาแฟจริงๆ อยากทำกาแฟออกมาให้ดี แค่นี้ก็เพียงพอที่จะร่วมงานด้วยกัน

     “แค๊พแอนด์โค เราค่อนข้างจะเลือกเฟ้นเมล็ดกาแฟที่เข้ามาขายนิดนึง โดยเราจะเลือกจากร้านและโรงคั่วที่เราเคยกิน หรือไม่ก็ต้องรู้จัก รู้ว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี รสชาติดี ได้มาตรฐาน เป็นการคัดมาให้ผู้บริโภคมาแล้วระดับหนึ่ง โดยเราจะเน้นขายเป็นกาแฟพิเศษ ไม่ได้ขายกาแฟเชิงการค้าหรือกาแฟตลาดแมสมากๆ ขายทีละจำนวนเยอะๆ คนที่จะเข้ามาอาจต้องทำความเข้าใจก่อน โดยเรามีโรงคั่วกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ บางรายก็เป็นระดับไมโครแบบเกษตรกรเล็กๆ ทำคนเดียวเลย บางที่ก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก บางโรงคั่วก็ได้แชมป์ในการคั่วก็มี” ไป๊อธิบายให้ฟัง

     โดยการใช้บริการวางจำหน่ายเมล็ดกาแฟบนแพลตฟอร์ม cafn.co นั้น จะมีการคิดค่าบริการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนจะคิด 2 แบบ คือ 1.หากลูกค้าเข้ามากดสั่งซื้อบนเว็บไซต์ cafn.co โดยตรง ร้านค้าหรือโรงคั่วจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น 20% 2.แต่หากเป็นการกดเข้ามาที่ลิงค์เว็บไซต์ โดยผ่านช่องทางการโปรโมตของแบรนด์เองที่นำลิงค์ไปแปะไว้ จะคิดค่าบริการอยู่ที่ 0% หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ ให้กับทาง cafn.co เลย สำหรับการสั่งซื้อครั้งนั้น

     “เรามีการคิดค่าบริการออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ถ้าลูกค้าเข้ามากดที่หน้าเว็บไซต์ cafn.co เราจะคิดค่าบริการ 20% จากยอดคำสั่งซื้อจากผู้ขาย แต่หากเป็นการกดลิงค์เข้ามาจากช่องทางอื่นที่แบรนด์นำไปแปะไว้ เราจะไม่คิดค่าบริการเลยสำหรับออร์เดอร์นั้นๆ คือ ให้ขายได้ฟรีเลย เพราะถือว่าเป็นลูกค้าของโรงคั่วเอง อีกอย่างถือว่าเขาได้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย ช่วยดึงลูกค้าให้เข้ามาดูเมล็ดกาแฟอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งเรามีระบบ Seller Link ที่ตรวจสอบโดยอัตโนมัติเลยว่าลูกค้าเข้ามาจากช่องไหน” กันกล่าว

     ปัจจุบัน cafn.co มีโรงคั่วในไทยที่เข้ามาวางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มประมาณ 45 แห่ง ทั้งกันและไป๊ต่างก็มองว่าอยากพัฒนาให้เป็นฮับสำหรับคนรักกาแฟเพิ่มมากขึ้นด้วย

     “เราตั้งใจไว้ว่าอยากพัฒนาระบบให้ครอบคลุมคนกาแฟมากขึ้น ตอนนี้เราขายแค่เมล็ดกาแฟ แต่ในปีหน้าเราจะมีอย่างอื่นเพิ่มมาอีก เช่น กาแฟแคปซูล รวมถึงอุปกรณ์กาแฟอื่นๆ อยากทำให้ครบวงจรมากขึ้น อยากเป็นฮับของคนกาแฟที่มีทุกอย่างที่เขาต้องการ อยากให้เขาเข้ามาที่เว็บไซต์เรา แล้วก็จบที่เว็บไซต์เราเลย ไม่ต้องไปเลือกซื้อจากที่อื่นอีก เราตั้งเป้าไว้ว่าปีหน้าน่าจะมีโรงคั่วเข้ามาเพิ่มเติมรวมแล้ว 100 แห่งน่าจะได้ อนาคตถ้าทำในไทยได้ดีแล้ว เราก็อยากขยายการให้บริการออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย อยากให้เข้ามาทดลองใช้บริการกันเยอะๆ ทั้งผู้บริโภค และโรงคั่วด้วย เหมือนกับชื่อ cafn.co โดย caf มาจาก Caffeine ส่วน Co คือ การทำงานร่วมกัน ทุกอย่างจะเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ ต้องมาจากทุกคนรวมกัน” กันและไป๊กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้

cafn.co

https://cafn.co/

https://www.facebook.com/cafnco

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: TECH

“จุลินทรีย์คึกคัก” นวัตกรรมกำจัดสารเคมีตกค้างบนดิน ตัวช่วยเกษตรกรประหยัดทุน ได้ธุรกิจยั่งยืน

จุลินทรีย์คึกคัก ตัวช่วยแก้ปัญหาสารเคมีตกค้าง สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร ด้วยฝีมือคนไทยจากบริษัท ไบโอม จำกัด บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตอบโจทย์การทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เทคนิคขายของออนไลน์อย่างไร ให้สต็อกไม่จม ออร์เดอร์ไม่หลุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Double day หรือเทศกาลต่างๆ เป็นโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตักตวงออร์เดอร์มากกว่าช่วงเวลาปกติ แต่จะทำอย่างไรให้โอกาสเหล่านี้ไม่กลายเป็นวิกฤตสร้างปัญหาทางธุรกิจ เช่น สต็อกจม ส่งของไม่ทัน ทำให้สูญเสียลูกค้าในที่สุด

รู้จักเทรนด์ Hyper Automation ช่วย SME กำจัดงานซ้ำๆ น่าเบื่อให้หมดจากองค์กร

Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติ" ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่อนาคตจะพัฒนาไปสู่ Hyper automation เพื่อช่วยกำจัดความยุ่งยากของการทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ และก่อนจะสายเกินไป เพื่อให้ธุรกิจตามทันเทคโนโลยี ลองมาทำความรู้จักกับเทรนด์นี้พร้อมกัน