“ผู้ประกอบการหลายรายโดนภาษีย้อนหลัง หรือไม่ทำตามกฎระเบียบบางอย่างโดยไม่รู้ตัว นั่นเพราะเราขาดองค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องวางรากฐานให้ดีเลยตั้งแต่แรก”
ด้วยความคร่ำหวอดในวงการขายแป้งขนมจีนมากว่า 14 ปี ของ พงษ์ธนิน มงคลอัคราวัฒน์ ทำให้มองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดและเติบโตในธุรกิจ เพราะคุ้นเคยกับตลาดและรู้ความต้องการของลูกค้า กลายเป็นที่มาของการเปิดโรงแป้งขนมจีนตุ๊กตา ที่เป็นธุรกิจของตัวเอง ในจังหวัดยโสธร เพื่อผลิตและจำหน่ายแป้งขนมจีนตราถุงทองคู่ พร้อมเครื่องผลิตเส้นขนมจีนอัตโนมัติ
เน้นคุณภาพ สร้างอัตลักษณ์สินค้า
สถิตาภรณ์ มงคลอัคราวัฒน์ ภรรยาและผู้ช่วยผู้จัดการของโรงแป้ง เล่าให้ฟังว่า เดิมโรงแป้งขนมจีนตุ๊กตานั้นเป็นธุรกิจแบบเครือญาติ ตั้งอยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งดำเนินการมาแล้วราว 30 ปี เมื่อมองเห็นโอกาสทั้งสองจึงตัดสินใจเปิดสาขา ที่ จ.ยโสธรเป็นของตัวเอง เมื่อเดือนมิถุนายนในปีที่ผ่านมา
“จุดเด่นของแป้งขนมจีนตราถุงทองคู่ของเรานั้น เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกข้าวเจ้าที่มีคุณภาพและมีอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม นำมาหมักอย่างพิถีพิถันด้วยกรรมวิธีที่เลียนแบบธรรมชาติ พร้อมเติมเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากการสกัด เพื่อให้แป้งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมีเอกลักษณ์ และนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต”
และเพื่อให้แป้งขนมจีนตราถุงทองคู่ของทางโรงแป้งดึงดูดใจลูกค้าได้มากขึ้น จึงนำกลยุทธ์ให้ยืมใช้เครื่องผลิตเส้นขนมจีนแก่ลูกค้าที่ซื้อแป้งของโรงแป้งไปใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องใช้แป้งของทางโรงแป้งขนมจีนตุ๊กตาเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น
“เราใช้เครื่องผลิตเส้นขนมจีนอัตโนมัติที่ทางโรงแป้งขนมจีนตุ๊กตา สาขากาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับเรา เป็นคนพัฒนาต่อยอด เพื่อให้ลูกค้าได้ยืมใช้ แต่ด้วยความที่เราใช้วัสดุราคาค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น วัตถุประสงค์จริง ๆ ของเรา จึงอยากจะมีเครื่องผลิตเส้นขนมจีนเอาไว้ให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้แป้งขนมจีนของเราแบบฟรี ๆ ดังนั้น ด้วยความที่ธุรกิจแข่งขันกันสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงจำเป็นต้องเข้าตลาดด้วยการหาวิธีมาจูงใจลูกค้าให้มาใช้แป้งของเรา”
เสริมความรู้ธุรกิจ มุ่งทำทุกอย่างให้ถูกต้อง
ด้วยความเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ สถิตาภรณ์ ซึ่งสวมหมวกอีกใบในฐานะของนักกฎหมาย จึงคำนึงถึงเรื่องของข้อกำหนด กฎระเบียบและมาตรฐานต่าง ๆ ที่ทางโรงแป้งต้องมี นำมาสู่การเข้าร่วมโครงการ NEC DIPROM เพื่อนำมาปรับใช้ในการดำเนินกิจการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ซึ่งโครงการนี้สามารถตอบโจทย์ได้จริง ๆ เพราะช่วยทำให้เรามีองค์ความรู้ในการทำธุรกิจมากขึ้น ที่ชอบมากคือเรื่องของการเขียนแผนธุรกิจ โดยใช้เครื่องมืออย่าง Business Model Canvas ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ทำให้ต้องใช้เวลามากในการเขียนแผน พอได้ตัวนี้มาสามารถช่วยย่นระยะเวลาในการคิดลงได้เยอะเลย ที่สำคัญ ทำให้เรามองเห็นได้ชัดเจนว่า ปีนี้จะทำอะไร ปีหน้าควรจะไปทางไหน จุดอ่อน-จุดแข็งของเรามีอะไรบ้าง”
เร่งสร้างมาตรฐานสู่การส่งออก
นอกจากนี้ ยังได้องค์ความรู้เรื่องของการวางแผนภาษี และการคำนวณต้นทุน ซึ่งเธอบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่คนทำธุรกิจต้องรู้เช่นกัน
“ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม เรายังขาดความเข้าใจในเรื่องการคำนวณต้นทุน เพราะต้องมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับสาขาที่กาฬสินธุ์ด้วย รวมถึงยังไม่มีความรู้เรื่องของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร แต่พอได้เข้าร่วมโครงการแล้ว ทำให้เราเห็นว่า มีจุดไหนบ้างที่เราคำนวณพลาด และอะไรคือต้นทุนแฝงในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องนำมาคิดด้วย ไม่เช่นนั้น จะทำให้เราขายสินค้าแบบขาดทุน”
องค์ความรู้ที่ได้มายังจุดประกายให้ สถิตาภรณ์ มองต่อไปถึงเรื่องของการทำมาตรฐานต่าง ๆ เช่น อย. GMP และ HACCP ในอนาคตเพื่อยกระดับโรงแป้งขนมจีนให้มีมาตรฐานและสามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป. ลาว ได้
“ความรู้ ความเข้าใจในบริบทของการทำธุรกิจสำคัญเป็นอันดับแรกโดยปกติเราจะเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์และวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นในตัวสินค้าของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือเรื่องของกฎหมายและภาษี ซึ่งต้องวางรากฐานให้ดีตั้งแต่แรก โดยเราไม่จำเป็นต้องรู้ลึกก็ได้ แต่อย่างไรก็ต้องมีความรู้ในเรื่องนี้ประดับตัว”
ข้อมูลติดต่อ : โทร.081-695-6624, FB : โรงแป้งขนมจีนตุ๊กตา จ.ยโสธร
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี