​Wedding Cake Project เนรมิตเค้กแต่งงานแบบหนึ่งเดียวในโลก





 

     ธุรกิจมากมายที่ใช้ความรักเป็นจุดเริ่มต้น สรรค์สร้างไอเดียในการทำธุรกิจ Wedding Cake Project ธุรกิจเค้กแต่งงาน คือ หนึ่งในตัวอย่างนั้น แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เค้กแต่งานธรรมดาๆ แบบที่เราเคยเห็นกันทั่วไปเป็นแน่ แต่คือ เค้กแต่งงานที่บรรจงสร้างขึ้นมาเพียงหนึ่งเดียวในโลกให้เฉพาะคู่บ่าวสาวแต่ละคู่ เพื่อสมกับเป็นวันพิเศษที่เกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต
 

     Wedding Cake Project เกิดขึ้นมาจากการรวมตัวของหนุ่มสาวไฟแรง 5 คน ได้แก่ บรม ศรีหฤทัย (ปั้น), กสิญาณีย์ พวงทองดี (ป้อม), เอกพล ภารุณ (เอก), ณัฐอนงค์ โสภณ (ปอ) และพิชญ์สินี อมรกุลพิทยา (เจี๊ยบ) โดยจุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นมาจากปั้น ช่างภาพหนุ่มและเจ้าของ Cake Studio 1986 เค้กสไตล์โฮมเมดที่ส่งขายตามร้านคาเฟ่ต่างๆ และป้อม หญิงสาวผู้มีอาชีพเป็นพร็อพสไตล์ลิสต์ให้กับงานโฆษณาต่างๆ ซึ่งบังเอิญต้องมาทำโปรเจกต์ร่วมกันในงานแต่งงานหนึ่ง
 




     “มันเกิดขึ้นมาจากความบังเอิญและโลกกลมมากๆ คือ ก่อนหน้านี้ปั้น พี่ป้อมและพี่เอก ซึ่งเป็นแฟนพี่ป้อมเคยร่วมงานกันมาก่อนในสตูดิโอถ่ายภาพแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ห่างหายกันไป จนกระทั่งได้มาเจอกันอีกครั้งในงานแต่งงานหนึ่ง ซึ่งเจ้าบ่าว คือ รุ่นพี่ของปั้น และบังเอิญเป็นเพื่อนกับพี่ป้อมด้วย โดยเราได้มาช่วยกันทำโปรเจกต์ร่วมกัน ปั้นเป็นคนทำเค้กแต่งงาน พี่ป้อมเป็นคนจัดพร็อพต่างๆ ภายในงาน ซึ่งหลังจากจบงานไปก็เริ่มมีคนสนใจติดต่อเข้ามาอยากให้เราไปช่วยทำให้บ้าง พอมีคนสนใจเข้ามามากขึ้น เราจึงเริ่มมาคุยกันและฟอร์มทีมขึ้นมารวมทั้งหมด 5” ปั้น หนึ่งในแกนนำ Wedding Cake Project เล่าที่มาให้ฟัง
 

     ปั้นเล่าให้ฟังว่าจุดเด่นที่เป็นความพิเศษแรกของเค้กแต่งงาน Wedding Cake Project คือ เป็นเค้กที่กินได้จริงทั้งก้อนและมีรสชาติอร่อยเหมือนเค้กพรีเมียมที่ขายอยู่ตามคาเฟ่ทั่วไป ไม่ใช่แค่เค้กที่ทำขึ้นมาโชว์ เพื่อใช้ในงานพิธีเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วเค้กแต่งงานที่มีขนาดใหญ่มากๆ โดยมากมักเป็นโครงสร้างที่กินไม่ได้ หรือมีเค้กจริงอยู่เพียงส่วนหนึ่ง แต่สำหรับเขาซึ่งเป็นคนทำเบเกอรีอยู่แล้ว จึงอยากทำให้เป็นเค้กจริงทั้งหมด และมีรสชาติอร่อยเหมือนเค้กที่ขายอยู่ตามคาเฟ่ต่างๆ
 

     นอกจากความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเค้กแล้ว โมเดลธุรกิจของ Wedding Cake Project ก็แตกต่างจากเค้กแต่งงานของเจ้าอื่นด้วย โดยการทำเค้กของ Wedding Cake Project ไม่ใช่แค่การทำเค้กแต่งงานขึ้นมาอย่างเดียวแล้วจบ แต่คือการรังสรรค์ทุกอย่างให้ออกมาสอดคล้องกัน เริ่มตั้งแต่ตัวเค้กที่เป็นตัวเอกของเรื่อง รวมถึงบรรยากาศที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเค้ก ซึ่งก่อนจะเริ่มทำงานขึ้นมาได้ในแต่ละชิ้นนั้นจะต้องมีการพูดคุยกับคู่บ่าวสาว ถึงตัวตนและสิ่งที่อยากได้ก่อน จากนั้นจึงนำมาออกแบบเป็นชิ้นงาน การทำเค้กขึ้นมาแต่ละชิ้นจึงเหมือนการทำงานขึ้นมาโปรเจกต์หนึ่ง เค้กแต่งงานของ Wedding Cake Project จึงไม่ใช่เพียงแค่เค้กแต่งงานที่ตกแต่งไว้สวยหรู หากแต่ยังบรรจุเรื่องราวความทรงจำ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของคู่บ่าวสาวนั้นๆ ไว้ด้วย
 




     “ปั้นและพี่ป้อม เราทำงานสายโปรดักชั่นมาด้วยกันทั้งคู่ ฉะนั้นเราจึงเอาวิธีการทำงานมาปรับใช้กับการทำเค้กของเรา อยากให้มีการจัดดิสเพลย์ คอมโพสต์ เหมือนการมองภาพเฟรมหนึ่ง คอนเซปต์ของเราจึงไม่ใช่เอาเค้กปลอมออกไป และเอาเค้กที่กินได้จริงเข้าไปตั้งแทนและจบ แต่ว่าเราพยายามทำทุกอย่างขึ้นมาเพื่อเสริมบรรยากาศในงานให้ดูพิเศษมากยิ่งขึ้น ให้เป็นความทรงจำที่ดีของคู่บ่าวสาวและแขกที่มาร่วมงาน เราจึงไม่ได้ทำเค้กบนพื้นฐานของเซฟหรือเวดดิ้งแพลนเนอร์เท่านั้น ในวันจริงนอกจากไปประกอบจัดแต่งเค้กและตั้งโต๊ะเค้กเพื่อพร้อมสำหรับในงานแล้ว เรายังมีทีมเซอร์วิสคอยดูแลอยู่บริเวณโต๊ะเค้ก ที่เราเรียกว่า cake area ด้วย คอยดูแลความเรียบร้อย อำนวยความสะดวกทุกอย่างเกี่ยวกับเค้กทั้งหมด”
 




     โดยขั้นตอนการทำงานของ Wedding Cake Project เริ่มขึ้นหลังจากมีลูกค้าติดต่อเข้ามาใช้บริการ จากนั้นจึงจะมีการส่งตัวอย่างรูปแบบไปให้ดู หากลูกค้าสนใจก็จะมีการนัดคุยกัน เพื่อร่วมกันออกแบบรูปแบบเค้กและโต๊ะเค้กที่ต้องการ ในส่วนของการเลือกเค้กมาใช้ในงานนั้นแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เค้กที่เหมาะกับการใช้ใน indoor และ outdoor โดยเค้กที่จะนำไปใช้งาน out door จะมีลักษณะค่อนข้างทนกว่า ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเค้กที่อบแล้ว เช่น นิวยอร์กชีสเค้ก, คลาสสิก ช็อกโกแลตเค้ก ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิก, รัสติก (rustic) และมินิมอล
 

     นอกจากจะจัดทำเค้กและโต๊ะเค้ก Wedding Cake Project ยังขยายงานเป็นออร์แกนไนซ์เซอร์รับจัดงานงานแต่ง งานปาร์ตี้ และงานสังสรรค์ต่างๆ ด้วย ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่ คือ กลุ่มคนที่ไม่ชอบจัดงานในโรงแรม โดยราคาสำหรับการทำเค้กและโต๊ะเค้กครั้งหนึ่งเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป
 




     ปั้นกล่าวว่า ด้วยความเป็นโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ อาจต้องอาศัยเวลาในการสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูกค้าอีกสักระยะหนึ่ง แต่พวกเขาเชื่อมั่นว่าวันหนึ่งสิ่งที่พวกเขาทำอยู่นี้จะกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคู่บ่าวสาวที่อยากมีช่วงเวลาดีๆ พิเศษ ไม่เหมือนใคร
 

      “ลูกค้าหลายคนอาจยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ เขามองแค่ตัวเค้ก แต่ไม่ได้มองถึงตัวงานทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วหากเทียบราคากับเค้กตามโรงแรม ของเราถือว่าไม่แพงเลย เรามองว่าวันนี้ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของพวกเรา อาจต้องใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่ง วันนี้อาจจะยังได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เรายินดีที่จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก่อน ดีกว่าไปเช่าบูธราคาหลายหมื่นและยื่นแจกโบว์ชัวร์ เรามองว่าตรงนี้เหมือนเวทีของเรา เราได้ลงมือทำงานจริง คนได้เห็นและเข้าใจในสิ่งที่เราทำมากกว่า”ปั้นกล่าวทิ้งท้าย
 

FB / IG : weddingcakeproject Lind : @weddingcakeproject โทร.064-246-3615


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

HEH ร้านอาหารย่านภูเก็ต เชฟใช้เวลาในครัวให้เหมือนอยู่ในสนามแข่ง ไม่อยากเป็นแค่ Just Another Restaurant

“HEH (เห)” ร้านอาหารสไตล์  Australian Contemporary กลางเมืองภูเก็ต สร้างเมนูอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่อยากเป็นเพียง แค่ร้านอาหารร้านหนึ่ง