​ภาษาที่ 3 หลบไป ภาษาคอมฯ มาแรง! ธุรกิจการศึกษาตอบโจทย์เด็กยุคใหม่




 
 
     เมื่อโลกยุคดิจิตอลและเทคโนโลยีมีการเติบโตที่รวดเร็วและเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ทำให้วันนี้การเรียนภาษาไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่ภาษาพูดของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาษาคอมพิวเตอร์ หรือการเรียนโคดดิ้ง (Coding) ที่นับว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสำหรับเด็กยุคใหม่ที่ต้องก้าวให้ทัน อีกทั้งยังมีพื้นที่อีกมากสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้ามาร่วมเป็นผู้เล่นในตลาดนี้ที่ถือว่ากำลังมาแรงอย่างธุรกิจการศึกษาอีกด้วย
 

     ในเรื่องนี้ Fung Ying Lam City Operations Manager ของแบรนด์ First Code Academy สถาบันสอนการโค้ดสำหรับเด็กที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียจากฮ่องกง บอกว่า ทางสถาบันมีความมุ่งมั่นที่จะสอนเด็กๆ ให้เรียนรู้เรื่องของการโค้ดดิ้ง (Coding) คือ การเขียนโค้ดด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ หรือการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน
 




     “หลักสูตรของเรานั้นสอนเด็กอายุตั้งแต่ 4 - 18 ปี เราโฟกัสที่การเสริมสร้างพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการใช้ภาษาง่ายๆ ไปจนถึงซับซ้อน ซึ่งการเรียนโค้ดดิ้งนั้นถือเป็นหนทางสู่การสร้างแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เว็บไซต์ เกมและโปรแกรมอื่นๆ ด้วยตัวเอง”
 

     ด้วยกระแสของผู้ปกครองที่หันมาใส่ใจและอยากเลือกให้ลูกเรียนรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมมากขึ้น ทำให้ทางสถาบันเห็นถึงโอกาสของการขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศไทย
 

     “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้สอนเรื่องการโค้ดดิ้งในเอเชียโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่อย่างมากมายและจำนวนประชากรไทยที่มีค่อนข้างมากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค อีกทั้งยังมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายลูกค้าที่ดีสำหรับเราที่จะทำการขยายสาขาและเจาะกลุ่มประชากรที่นี่”
 



     แม้การเรียนเขียนโปรแกรมหรือโค้ดดิ้งจะถูกพูดถึงมากขึ้น แต่การให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้บริโภคยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนและถูกต้อง  
 

     “สำหรับในฮ่องกง สิงคโปร์และไต้หวัน เราเห็นเทรนด์ว่าพ่อแม่เด็กเริ่มมองหาการเรียนโค้ดดิ้งให้ลูกมากขึ้นเรื่อยๆ มักมีคำถามว่า ทำไมลูกฉันต้องเรียนโค้ดดิ้ง โค้ดดิ้งมันสำคัญยังไง หรือมีพ่อแม่เด็กมาหาเราแล้วบอกว่าลูกเขาเรียนภาษาที่ 1 2 หรือ 3 แล้ว ลูกเขาควรจะเรียนภาษาอะไรต่อดี หรือเด็กๆ อายุ 3 ขวบควรเริ่มที่จะเรียนโค้ดดิ้งไหม หรือควรเริ่มเรียนเมื่อไหร่ หรือเรียนได้ที่ไหนบ้าง โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นความเข้าใจในเรื่องการเรียนโค้ดดิ้งอาจจะเหมือนกับฮ่องกงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในเรื่องของจะเรียนโค้ดดิ้งได้อย่างไร รวมถึงการให้ความรู้กับตลาดว่าทำไมโค้ดดิ้งถึงเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันและเป็นสิ่งที่เด็กนักเรียนต้องเรียน”
 




     “ในความเป็นจริง โค้ดดิ้ง ไม่ใช่แค่การสอนเขียนโปรแกรมเพื่อการเขียนเว็บไซต์เท่านั้น แต่เป็นการสอนทักษะต่างๆ ที่ควรมีให้กับผู้เรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกคิดเชิงวิพากษ์หรือทักษะการวิเคราะห์ก่อนที่จะตัดสินใจเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยจะไม่เห็นคล้อยตามเพียงเพราะข้ออ้าง แต่จะตั้งคำถามโต้แย้งข้ออ้างนั้นเพื่อหาคำตอบที่สมเหตุสมผล รวมถึงทักษะการสื่อสารและสร้างความมั่นใจในการคิดอย่างสร้างสรรค์อีกด้วย”
 

     นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังบอกอีกว่า ด้วยการเติบโตของเทคโนโลยีและความต้องการในการเรียนโค้ดดิ้งทำให้สถาบันอยากที่จะขยายสาขาและทำการเปิดตลาดในไทยโดยการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความสามารถ
 

     “เรามองหาคนที่มี passion ในเรื่องของการศึกษาที่มีความเข้าใจตลาดท้องถิ่นอย่างแท้จริงและมีข้อมูลเชิงลึกในการทำการตลาด โดยแฟรนไชส์ซีนั้นถูกวางหน้าที่ในการขยายธุรกิจในไทย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีศักยภาพในการเปิดศูนย์มากกว่า 1 แห่งในประเทศ มีโมเดลธุรกิจในการนำเสนอการเรียนการสอนของเรา มีความร่วมมือที่ดีกับทางโรงเรียนและมีแผนของการทำกิจกรรมต่างๆที่จะสร้างเสริมให้ทั้งเด็กและผู้ปกครองมีความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น โดยกรุงเทพถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเริ่มต้นการทำธุรกิจของสถาบัน”  






www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​