เคี้ยว..เขียว Catering หัวใจกรีน รับจัดเลี้ยงเพื่อสุขภาพ





 
 
     เดี๋ยวนี้ผู้บริโภคยุคใหม่ต่างหันมาดูแลใส่ใจตัวเองและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้เราอาจจะเห็นสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพ รวมถึงสินค้ารักษ์โลกวางขายอยู่เต็มท้องตลาดไปหมด เพราะต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจ Catering หรือ บริการรับจัดเลี้ยง ใครเลยจะคิดว่าวันหนึ่งเราจะสามารถมีงานจัดเลี้ยงในรูปแบบเฮลตี้ได้ โดยไม่ต้องกังวลกับอาหารที่รับประทานเข้าไป "เคี้ยว..เขียว" Green Catering คือ สิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้ โดยรูปแบบอาหารทุกอย่างที่ทำล้วนผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ไม่ใช้สารเคมี ตั้งแต่ผัก ผลไม้ ไปจนถึงเนื้อสัตว์ต่างๆ



 
    อธิพาพร เหลืองอ่อน ผู้จัดการของเคี้ยว..เขียว Green Catering ดังกล่าวเล่าที่มาของรูปแบบบริการดังกล่าวนั้นให้ฟังว่า เกิดขึ้นมาจากร้านอาหารมังสวิรัติที่ชื่อว่า Health Me

 
    “แต่เดิมเราเปิดร้านอาหารมังสวิรัติอยู่ก่อนแล้ว ชื่อว่า ‘Health Me’ ผู้ก่อตั้ง คือ ป้าหน่อย (พอทิพย์ เพชรโปรี) เปิดมาได้ประมาณสิบกว่าปีแล้ว พอลูกค้ามากินแล้วติดใจในรสชาติ ก็เริ่มมีคนมาถามว่ารับจัดงานด้วยไหม เขาอยากให้เราไปทำให้ ก็ลองเริ่มจากงานเล็กๆ ไปก่อน เพราะเราเองก็ส่งปิ่นโตสุขภาพด้วยอยู่แล้ว จนมาปี 2553 เลยต่อยอดขึ้นมาเป็นบริการรับจัดเลี้ยงแบบจริงจังมากขึ้น โดยใช้ชื่อว่า ‘เคี้ยว..เขียว’ เป็น Green Catering รับจัดเลี้ยงเพื่อสุขภาพ โดยวัตถุดิบทุกอย่างได้มาจากวิธีการผลิตแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีเหมือนกับที่เราทำขายในร้าน เพียงแต่มีเนื้อสัตว์เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งได้มาจากฟาร์มอินทรีย์ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมีเช่นกัน นอกจากความปลอดภัยของอาหาร เรายังคำนึงถึงหลักโภชนาการที่ถูกต้องด้วย โดยในแต่ละมื้อพยายามจัดสรรสารอาหารต่างๆ ให้ลูกค้าได้รับครบทั้ง 5 หมู่ รวมไปถึงพยายามเลือกใช้วัตถุดิบที่มีตามฤดูกาล ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของลูกค้ามากกว่า”



Cr: เคี้ยว..เขียว

 
     ด้วยความพิเศษจากความตั้งใจให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เคี้ยว..เขียว จึงแบ่งหลักการทำงานออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ

     1.การเลือกใช้วัตถุดิบ พยายามเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งรู้ถึงแหล่งที่มาที่ไปของแหล่งผลิต เช่น ผลิตจากเกษตรกรรายใด ฟาร์มไหน ผักที่เลือกใช้มีตั้งแต่ปลอดสารพิษ ผักอินทรีย์ ไปจนถึงผักออร์แกนิกส์ตามลำดับเท่าที่จะหาได้ ส่วนเนื้อสัตว์ก็คัดเลือกมาจากฟาร์มที่เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมีและยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง


     2.การปรุงอาหาร จะเลือกใช้รสชาติที่ได้จากธรรมชาติ มีการปรุงแต่งน้อยที่สุด เช่น รสเค็มได้มาจากการใช้ดอกเกลือ ซีอิ้วหมักจากธรรมชาติ น้ำปลาแท้ น้ำซุปก็ได้ความหวานจากการต้มผัก ไม่ใส่ผงปรุงรสใดๆ


     3.รูปแบบการจัดงาน เน้นรูปแบบที่เรียบง่าย แต่สวยงาม โดยพยายามใช้ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ไม่ก่อให้เกิดขยะ เช่น การนำปิ่นโตมาใช้แทนจานชามต่างๆ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็จะเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย เช่น กระทงใบตองแห้ง กล่องรักษ์โลกต่างๆ



Cr: เคี้ยว..เขียว

 
     โดยรูปแบบการให้บริการของ เคี้ยว..เขียว Catering ก็เหมือนกับบริษัทรับจัดเลี้ยงทั่วไปที่ลูกค้าสามารถเลือกประเภทอาหาร จำนวนที่ต้องการ รูปแบบการจัดเลี้ยง โดยมีบริการจัดเลี้ยงทั้งอาหารว่างและอาหารมื้อหลักในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่เน้นเป็นอาหารไทย สามารถรับงานได้ตั้งแต่งานขนาดเล็กไม่ถึงร้อย ไปจนถึงขนาดใหญ่หลักพันคนขึ้นไปก็ได้ ซึ่งในการจัดงานทุกครั้งจะมีการแจ้งถึงที่มาของอาหารที่ใช้ ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในอาหารที่รับประทานเข้าไป ในส่วนของเรื่องราคานั้นอาจสูงกว่าบริการรับจัดเลี้ยงทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลย



Cr: เคี้ยว..เขียว


     “เมื่อเทียบกับบริการรับจัดเลี้ยงทั่วไปราคาของเราอาจแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ไม่หนีกันมาก ถ้าเป็นบุฟเฟ่ต์จะอยู่ที่ประมาณหัวละ 280 – 300 บาท ที่เราสามารถทำได้เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่เราไปเอามาจากแหล่งผลิตเลย ไม่ได้ผ่านร้านค้าอื่น และโชคดีด้วยที่นอกจากทำร้านอาหารมังสวิรัติ ส่งปิ่นโตสุขภาพ เรายังมีบริการรับจัดส่งตะกร้าผักแบบเดลิเวอรี่ด้วย โดยทำเป็นระบบสมาชิก ทำ โดยมีรถห้องเย็นของเราเองส่งตามบ้านต่างๆ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องขาดแคลนวัตถุดิบที่ต้องนำมาใช้ในการจัดเลี้ยง หรือหากขาดอะไรนิดหน่อย เราก็มีปลูกสำรองไว้ใช้เองด้วย จนกลายเป็นจุดแข็งของเราขึ้นมา ซึ่งหากเป็น SME เจ้าอื่นที่ไม่มีบริการอื่นเข้ามาเสริมแบบนี้ อาจทำได้ยากกว่า โดยในแต่ละเดือนตอนนี้จะรับงานได้มากสุดประมาณ 8 งานก็เต็มที่แล้ว เพราะตอนนี้เรายังใช้ครัวรวมอยู่ ซึ่งต้องดูแลทั้งหน้าร้านและส่งปิ่นโตด้วย อนาคตอาจแยกเป็นครัวออกมาต่างหาก ก็จะสามารถรับจัดงานได้มากขึ้น”

 
     ในส่วนความนิยมของผู้บริโภคในการเลือกใช้บริการรับจัดเลี้ยงเพื่อสุขภาพ อธิพาพรกล่าวว่ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่ผู้คนยุคใหม่ให้ความสนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก



Cr: เคี้ยว..เขียว


     “ในปีแรกๆ ลูกค้าของเราที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นองค์กร NGO มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานราชการ จนเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาลูกค้าเอกชนเริ่มเข้ามามากขึ้น มีตั้งแต่บริษัทใหญ่ไปจนถึงลูกค้ารายบุคคล เช่น งานแต่ง งานบวช งานศพ เนื่องจากผู้บริโภคยุคปัจจุบันมีความเข้าใจ ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เขาเริ่มมองเห็นว่าเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเขามากขึ้น กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีงานจัดเลี้ยงแขกผู้ใหญ่หน่อย เดี๋ยวนี้เขาก็เลือกใช้เราเลย เพื่อไม่ต้องกังวลกับอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งมันดีกับสุขภาพเขาแน่นอน หรืออย่างเรื่องขยะเองทุกวันนี้ใครๆ ก็พยายามไม่ใช้โฟม ไม่ใช่ถุงพลาสติกกันมากขึ้น การที่เขามาเลือกใช้เราก็ช่วยทำให้ภาพลักษณ์งานของเขาดูดีขึ้นไปด้วย ตามความหมายชื่อของเรา "เคี้ยว..เขียว" ซึ่งแปลว่า กินสีเขียวๆ กินในสิ่งที่เรารู้ที่ไปที่มา รู้คุณค่าของสิ่งที่กิน และกินโดยไม่สร้างขยะ ไม่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม”


     นับเป็น SME หัวใจกรีนที่เติบโตขึ้นมาได้อย่างถูกเวลา ถูกโอกาส เข้ากับกระแสความนิยม ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้อย่างพอดิบ พอดีทีเดียว 

 
Facebook : เคี้ยว..เขียว Green Catering



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​