ผ้าปูที่นอนทำความสะอาดตัวเองได้ นวัตกรรมล้ำๆ จำต้องมีในยุคผู้บริโภคขี้เกียจ

TEXT : กองบรรณาธิการ
 

             

     ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคทุกวันนี้ที่ล้วนแต่ต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องที่นอน ซึ่งไม่ว่าใครก็อยากจะได้นอนหลับสบายๆ บนที่นอนนุ่มๆ สะอาดปราศจากเชื้อโรคด้วยกันทั้งนั้น แต่กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะต้องซักทำความสะอาดกันอยู่บ่อยๆ จะดีกว่าไหมล่ะถ้ามีผ้าปูที่นอนที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้! ไม่ต้องเปลืองแรงซัก หมดกังวลเรื่องความสกปรกที่แม้จะไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ แต่ก็มั่นใจในความสะอาดได้
             




     ชุดผ้าปูที่นอนสุดล้ำนี้มีชื่อว่า “Christianshavn” ผลิตโดยบริษัทสัญชาติเดนมาร์กชื่อ Nordifakt ผู้ออกแบบ คือ “Trine Johansen” และ “Sofie King” ได้นำเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง “Polygiene®” มาใช้ผสมลงไปบนเนื้อผ้าฝ้ายออร์แกนิกแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่อใช้ทอเป็นผ้าปูที่นอน


     โดยประกอบไปด้วยเกลือเงินหรือซิลเวอร์คลอไรด์ เป็นสารที่ทำหน้าที่เหมือนย่าฆ่าเชื้อในธรรมชาติอยู่แล้วสามารถค้นพบได้ในน้ำและพื้นดินทั่วไป ซึ่งอิออนเงินเหล่านั้นจะทำหน้าที่ป้องกันยับยั้งไม่ให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียบนเนื้อผ้า ผ้าปูที่นอนของคุณจึงเหมือนหอมสะอาดอยู่เสมอ แม้ไม่ต้องซักบ่อย ซึ่งเดิมทีก่อนหน้านี้ Nordifakt เคยผลิตผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดจานโดยใช้เทคโนโลยีตัวนี้ออกมาแล้วเช่นกัน และได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก
             




     ถามว่าทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญกับผ้าปูที่นอนที่สะอาดมากขนาดนี้ เหตุผลเป็นเพราะว่าหากลองนับอายุเฉลี่ยของผู้คนทั่วไปอยู่ที่ 75 ปี เราจะใช้เวลาในการนอนหลับอยู่บนที่นอนมากถึง 25 ปีด้วยกัน! ซึ่งหากที่นอนไม่สะอาดก็จะกลายเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรค ไรฝุ่นและแบคทีเรียนับล้านตัว จนอาจกลายเป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจโรคหอบหืดและภูมิแพ้ได้ โดยไม่น่าเชื่อว่าหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ปลอกหมอนสามารถบรรจุแบคทีเรียได้มากกว่าฝารองนั่งชักโครกถึง 17,000 เท่าทีเดียว


     โดยปกติแล้วเราควรควรซักผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพราะเป็นที่หมักหมมของเชื้อโรคได้ทั้งแบคทีเรียจากผิวหนัง เหงื่อ สัตว์เลี้ยง และควรซักด้วยน้ำร้อนอย่างน้อย 60 °C เพื่อทำการฆ่าเชื่อโรค แต่จากสถิติจริงของผู้บริโภคส่วนใหญ่ คือ จะซักเพียงเดือนละครั้ง ยิ่งถ้าเป็นหนุ่มโสดใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจะเก็บซักผ้าปูที่นอนเพียง 4 ครั้งต่อปีเท่านั้น





     ย้อนกลับมากันต่อที่ประโยชน์ของผ้าปูที่นอน Christianshavn โดยนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาและแรงในการซักได้แล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย บริษัท Nordifakt อ้างว่าจากการช่วยลดความจำเป็นในการซักผ้าลงจะช่วยให้สามารถประหยัดน้ำได้เฉลี่ยถึง 1,800 ลิตรต่อปีทีเดียว นอกจากนี้จากที่สามารถซักในน้ำธรรมดาได้ ไม่ต้องใช้น้ำร้อน จึงทำให้ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง





     และนี่คือ อีกหนึ่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ล้ำๆ ของโลกยุคนี้ที่พยายามมองหาจุด Pain Point เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมาตั้งโจทย์ ตั้งคำถาม และหาวิธีแก้ไขปัญหา ซึ่งความจริงแล้วอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเสมอไป แต่เป็นอะไรก็ได้ที่ทำออกมาแล้วสร้างให้เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ ไม่ว่าสินค้าอะไรก็ขายได้แน่นอน
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น