สัญญาณร้าย SME อาจโดนรายใหญ่ฮุบ-พ่ายต่อผู้มีอำนาจ ถ้าไม่อยากเหลือแต่ชื่อนี่คือทางออก

               


          โควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการเหนื่อยหนัก โดยเฉพาะ SME
 
               
            หากย้อนไปดูปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกของการแพร่ะระบาด ตัวเลขผลประกอบการของ SME มีอัตราลดลงถึง -9.1 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขนี้ยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อเห็นว่าลดมากกว่า GDP ประเทศที่ลดลง -6.1 เปอร์เซ็นต์เสียอีก
 
               
           คำถามก็คือ แล้วสถานการณ์ปีนี้ล่ะ จะเป็นอย่างไร?

 
               

        สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สขค.) ได้ติดตามสถานการณ์ของ SME มาอย่างต่อเนื่อง จึงมองเห็น ความเสี่ยงที่ SME ต้องเผชิญอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ 3 เรื่องหลักๆ ก็คือ
 

           • โครงสร้างทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะที่มาจากการรุกคืบของเทคโนโลยี E-platform ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เช่น E–Service, E–Logistic และ E-Commerce ทำให้ธุรกิจแบบดั้งเดิมไม่สามารถปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ต้องถูกแย่งพื้นที่ตลาด โดยเฉพาะธุรกิจการค้าปลีกค้าส่งออนไลน์ รวมถึงธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
 

          • การควบรวมธุรกิจ หรือที่เรียกกันว่า Mergers & Acquisitions: M&A ที่รวมถึงการกว้านซื้อของธุรกิจรายใหญ่ ปัจจุบันหลายธุรกิจทั่วโลกได้เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการควบรวมกิจการมากขึ้น ที่มักมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบธุรกิจจากการรวมธุรกิจ และจะเป็นการสร้างทางรอดของธุรกิจอย่างหนึ่ง แต่ปัญหาที่ตามมาคือทำให้โอกาสการแข่งขันโดยเฉพาะในกลุ่ม SME และ MSME ลดลง หรือไม่สามารถแข่งขันได้เนื่องจากไม่มีอำนาจทางการค้าที่มากพอ อีกทั้งยังอาจจะตามมาซึ่งการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ จากธุรกิจรายใหญ่อีกด้วย
 

          • การใช้อำนาจเหนือตลาดจากผู้ที่มีความสามารถในด้านเทคโนโลยี ซึ่งหาก SMEs ไม่สามารถปรับตัวหรือรู้เท่าทันกับเรื่องดังกล่าว ก็จะเป็นผู้เสียเปรียบในการแข่งขันทางการค้าและนำมาซึ่งช่องว่างในการถูกรังแกจากผู้ที่มีความสามารถที่มากกว่าอย่างต่อเนื่อง



 

6 ทักษะพา SME เอาตัวรอด

 
               
         แต่ใช่ว่า SME จะไม่มีทางรอด ศาสตราจารย์ ดร. สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้แนะนำว่า “สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยที่บีบบังคับให้กลุ่มผู้ประกอบการทุกระดับต้องเร่งปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด และเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
 
 
          และทักษะจำเป็นที่จะพา SME เอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ด้านบนได้ก็คือ
 

  1. ทักษะใหม่ซึ่งจะต้องจินตนาการให้ได้ว่าธุรกิจที่ SMEs ทำอยู่จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

 

  1. ต้องคิดว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นอยู่ที่ไหนในห่วงโซ่การประกอบธุรกิจของตนเอง เช่นหากอยู่ที่สินเชื่อก็ต้องคิดว่าจะเข้าถึงสินเชื่อได้อย่างไร จะใช้ประโยชน์ของสินเชื่อที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

 

  1. ต้องรู้จักจัดลำดับความสำคัญในการพลิกฟื้นตัวเอง มิเช่นนั้นการขับเคลื่อนหรือพัฒนาตัวเองอาจจะเป็นไปอย่างผิดเป้าหมาย ทำให้ใช้ทรัพยากรฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นหรือเกินความสามารถได้

 

  1. ต้องวิเคราะห์ Pain point หรือจุดอ่อนของการทำธุรกิจที่ทำอยู่ว่า สินค้าและบริการที่มอบให้แก่ผู้บริโภคคืออะไร เพื่อหาจุดเชื่อมในการแก้ปัญหา

 

  1. ศึกษาความท้าทายของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องคิดว่าจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการแข่งขันในตลาดได้อย่างไร ในโลกที่เป็นยุคของข้อมูลและไร้พรมแดน ที่มีการแข่งขันการค้าที่เข้มข้นมากขึ้นทั้งจากวิถีธุรกิจเดิมและจากการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้

 

  1. ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวกับแข่งขันทางการการค้า เพราะโลกธุรกิจหลังจากนี้จะมีรูปแบบการใช้อำนาจเหนือตลาดรูปแบบใหม่ ที่มีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมจากผู้ประกอบการด้วยกันอย่างแน่นอน




 

เร่งสร้างบรรยากาศทางการค้าที่ “เป็นธรรม”

 

        มากไปกว่านั้น สขค. ไม่ได้ให้ SME ปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดแต่เพียงลำพัง แต่กำลังเร่งสร้างบรรยากาศทางการค้าให้เป็นธรรมและไม่ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผ่านการเร่งออกแนวปฏิบัติที่จะใช้กำกับดูแลการประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบการให้บรรลุเป้าหมายของการมีสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรมกับทุกๆ ราย
 

         โดยแนวปฏิบัติที่สำคัญ คือ
 

     1. แนวปฏิบัติสำหรับการประกอบธุรกิจค้าปลีก โดยเข้มงวดการบังคับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่มุ่งสร้างบรรยากาศทางการค้าให้เป็นธรรมและไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการซึ่งกันและกัน

 

      2. แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ SME และผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ได้ใช้กำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าสำหรับภาคการค้า การผลิต และภาคบริการไว้ไม่เกิน 45 วัน  และสำหรับภาคการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแปรรูปขั้นต้นที่มีกระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน กำหนดไว้ไม่เกิน 30 วัน
 
          เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะมีผลบังคับบังคับใช้ ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2564 ที่จะถึงนี้
 

       3. แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ โดยตั้งเป้าที่จะสร้างมาตรฐานทางการค้าระหว่างผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) และผู้รับสิทธิ์ในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า แฟรนไชส์ซี (Franchisee) ผ่านข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีธรรมาภิบาลและมีบรรทัดฐานในการประกอบธุรกิจที่ชัดเจน
 

        4. แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มรับและส่งอาหารกับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร รวมทั้งการเปิดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนโดยตรงและทางออนไลน์ หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า
 

          เพราะฉะนั้น แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการแข่งขัน และความเหลื่อมล้ำระหว่างธุรกิจ SME กับรายใหญ่ ก็อย่าเพิ่งโดดเดี่ยวไป
 
 

 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เปิดแผนโกงตาย หงส์ไทย แบรนด์ยาดมที่รอด 9 วิกฤต ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจฉบับแมว 9 ชีวิต

พาไปดูแผน 10 ชั้นของธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้บริหารเบื้องหลังความสำเร็จของหงส์ไทย ที่ทำให้ธุรกิจไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่แกร่งขึ้นกว่าเดิม

เปิด 4 กลยุทธ์ The Scenery สวนผึ้ง 20 ปี ทำยังไงให้ลูกค้ายังแห่จองเต็มตลอด

20 ปี ทำธุรกิจยังไง ให้ลูกค้าแย่งกันใช้บริการ “The Scenery Vintage Farm” กิจการที่พักยุคแรกๆ ของ อ.สวนผึ้ง ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ลูกค้าแย่งกันจองเข้าพัก ผ่านไป 20 กว่าปีแล้ว วันนี้ก็ยังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอยู่ตลอดเวลา อะไร คือ เคล็ดลับที่ว่า ไปหาคำตอบกัน

White Tiger จากความบังเอิญ สู่ “นมถั่วลายเสือ” เจ้าแรกของโลก

หันหลังให้เมืองกรุงมุ่งหน้าสู่ปาย “หยอง-ฐานันต์ แก้วดิษฐ์” อดีตทีมโปรดักส์ชัน เลิกจับคอมพิวเตอร์หันมาเอาดีด้านการเกษตร ปลูกถั่วลายเสือ “ด้วยไอเดียคุณช่วยปลูก เราช่วยแปร(รูป)”และนี่คือเส้นทางของนมจากพืชสัญชาติไทย