จับตาธุรกิจร้านอาหารประเภทใดจะรุ่งปี 2565

Text: รัชนีกร ทองรอด

 

     แม้จะมีการผ่อนปรนให้ผู้คนกลับมานั่งทานอาหารได้แล้ว แต่แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปี 2565 ยังเป็นปีที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงของการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron และสายพันธุ์อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมาฟื้นตัวดี

     หากสถานการณ์โควิด-19 ไม่ได้มีการแพร่ระบาดรุนแรงเป็นวงกว้าง จนก่อให้เกิดการยกระดับของมาตรการควบคุมห้ามนั่งทานอาหารภายในร้าน ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ เช่น การกลับมาใช้ชีวิตประจำวันแบบมาตรฐานใหม่ของผู้บริโภค การปรับราคาเมนูอาหารเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น การเร่งทำตลาดเพื่อชดเชยยอดขายที่หายไปของร้านอาหาร รวมไปถึงมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ

     จากการณ์คาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ธุรกิจร้านอาหาร (รวมร้านอาหารประเภทร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ร้านอาหารที่ให้บริการจำกัด และร้านอาหารข้างทางหรือ Street Food ที่มีหน้าร้าน) ในปี 2565 น่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ โดยธุรกิจร้านอาหารจะมีมูลค่ารวมประมาณ 3.78 – 3.96 แสนล้านบาท หรือพลิกกลับมาขยายตัว 5.0% – 9.9% จากที่หดตัว 11.0% ในปี 2564 แต่เป็นการขยายตัวเฉพาะกลุ่มหรือประเภทร้านอาหาร เนื่องจากในแต่ละประเภทของร้านอาหารยังมีปัจจัยเฉพาะที่ต่างกัน

ประเภทร้านอาหารที่จะกลับมารุ่ง

ร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Restaurants)

     น่าจะเห็นการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยกลุ่มร้านอาหารที่จะทยอยกลับมาฟื้นตัวก่อนจะเป็นกลุ่มร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงในพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยในฤดูท่องเที่ยว อาทิ อยุธยา บางแสน พัทยา หัวหิน นครปฐม เป็นต้น ขณะที่ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบริเวณอาคารสำนักงานน่าจะฟื้นตัวจำกัด เนื่องสถานที่ทำงานหลายแห่งยังคงการทำงานแบบ Hybrid  Working และ Work from home ทำให้ร้านอาหารกลุ่มนี้จึงยังคงต้องพึ่งช่องทางการจัดส่งอาหารไปยังที่พักเพื่อสร้างรายได้ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2565 ธุรกิจร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบจะมีมูลค่ายอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.31 – 1.42 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นการขยายตัว 10.0% – 19.5% โดยเป็นการฟื้นตัวจากฐานที่หดตัวรุนแรงในปีก่อน

ร้านอาหารที่ให้บริการจำกัด (Limited Service Restaurants)

     การขยายตัวจะมาจากการขยายสาขาในกลุ่มอาหารจานด่วน และร้านอาหารขนาดเล็กที่คาดว่าจะเปิดตัวมากขึ้นกว่าปี 2564 อาทิ กลุ่ม ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน รวมถึงร้านอาหารรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความคล่องตัวสูง โดยมีพื้นที่เป้าหมายเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยและปั๊มน้ำมันทั้งในกรุงเทพฯรอบนอก ปริมณฑลและหัวเมืองหลัก นอกจากนี้ในปี 2565 คาดว่าผู้ประกอบการร้านอาหารในกลุ่มนี้น่าจะทำตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นจัดส่งอาหาร ซึ่งโดยปกติแล้วช่องทางการจัดส่งอาหารไปยังที่พักจะเป็นช่องทางรายได้ที่สำคัญของร้านอาหารประเภทนี้ ด้วยมุมมองดังกล่าวทำให้คาดว่า ในปี 2565 ธุรกิจร้านอาหารที่ให้บริการจำกัด จะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 6.4 -6.8 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัว 4.6% – 11.8% อย่างไรก็ดี ร้านอาหารกลุ่มนี้ยังมีความท้าทายในด้านการบริหารจัดการช่วงเวลาเร่งด่วน ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากในหลายช่องทาง เนื่องจากทรัพยากรแรงงานและพื้นที่ที่มีจำกัด ทำให้อาจเกิดภาวะคอขวดในกระบวนการต่างๆ ภายในร้านขึ้นได้

ร้านอาหารข้างทาง (Street Food)

     ที่มีหน้าร้าน ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องและกลุ่มร้านอาหารข้างทางยังได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการคนละครึ่งของภาครัฐ โดยคาดว่าร้านอาหารประเภทดังกล่าวยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องจากเป็นเมนูพื้นฐานที่เข้าถึงได้ง่าย และราคาไม่สูง ประกอบกับผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาขยายฐานการตลาดในเซ็กเมนต์นี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าธุรกิจร้านอาหารข้างทางที่มีหน้าร้าน ในปี 2565 จะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.84 -1.86 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 2.0% – 3.0% อย่างไรก็ดี ร้านอาหารในกลุ่มนี้ มีความหนาแน่นของผู้เล่นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง และมีการหมุนเวียนเข้าออกของผู้เล่นสูง

     อย่างไรก็ตามแม้ภาพรวมทิศทางธุรกิจร้านอาหารในปี  2565 จะกลับมาฟื้นตัว แต่ผู้ประกอบการร้านอาหารยังคงต้องดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อลดผลกระทบจากทั้งปัจจัยท้าทายในธุรกิจ อาทิ ต้นทุนทางธุรกิจที่ยังทรงตัวสูง ทั้งราคาวัตถุดิบ ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค ค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างร้านอาหารในเกือบทุกประเภทและระดับราคา

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ไชยแสง” โมเดิร์นเทรดตำนานเมืองสิงห์ ทำอย่างไรจึงยืนหยัดนานกว่า 30 ปี

เมื่อทายาทรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจการ ไม่ได้เพียงรับช่วงต่อ แต่ยังรับเอาหัวใจของธุรกิจ คือความเข้าใจผู้คนในท้องถิ่น และกล้าที่จะปรับเปลี่ยน จึงทำให้ธุรกิจไม่เพียงอยู่รอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ห้างไชยแสง” สิงห์บุรี

SME ต้องรู้!!! 5 เทรนด์ Up Coming ปี 2026 รู้ก่อน เท่ากับ โอกาส

ปี 2026 สิ่งที่ SME ไทยต้องโฟกัสคือการนำเทรนด์ใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับปัญหาและเป้าหมาย และเทรนด์ทั้ง 5 นี้ คือ “เข็มทิศ” ที่จะช่วยให้ SME ไทยเตรียมรับมือและพลิกเกมธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดในปี 2026

ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรผู้หมดไฟ สู่เจ้าของ Shindo Ramen ร้านราเมนเล็กๆ ที่ได้ไปยืนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่น

โจ-ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรที่ผันตัวเองจากภาวะ Burnout ในชีวิตการทำงาน มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น ใครจะคิดว่าจากการตัดสินใจในวันนั้นจะนำพาเขาเข้าสู่โลกของราเมน อาหารต้นตำรับของญี่ปุ่น ที่ได้สร้างโอกาสให้กับชีวิตมากมาย