ทำที่พักยังไงให้อบอุ่นเหมือนบ้าน แต่ได้มาตรฐานโรงแรม กลยุทธ์จับลูกค้าสายชิล แต่ไม่ชอบลำบากของบ้านไม้เมืองคอง  

     

     ถ้าพูดถึงเมืองคอง เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ในหุบเขาอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ แน่นอนว่าใครๆ อาจนึกถึงภาพที่พักกระท่อมกลางทุ่งนาสีเขียว อย่าง “อ้ายด่องโฮมสเตย์” ผู้บุกเบิกเปิดเมืองคองให้เป็นที่รู้จักอยู่บนโลกโซเชียล และที่พักอีกหลายแห่งในบรรยากาศท้องทุ่ง

     แต่หากอยากได้ที่พักที่มีมาตรฐานขึ้นมาอีกหน่อย มีห้องน้ำในตัว มีเตียงนอนนุ่มๆ ขณะเดียวกันก็มีความอบอุ่นเป็นกันเอง “บ้านไม้เมืองคองโฮมเสตย์ & รีสอร์ท” คือ อีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์นักเดินทางหลายคนที่อยากมาเยือนเมืองในหุบเขานี้เช่นกัน

เริ่มจากบ้านพักรับรองเพื่อนๆ

     “จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำเป็นธุรกิจที่พัก จุดประสงค์แรกที่ทำขึ้นมา คือ อยากมีบ้านไว้รับรองเวลาเพื่อนๆ หรือญาติเดินทางมาหาจะได้มีที่พักที่สะดวกสบายไว้รับรองแค่นั้นเอง” วิชชุดา บุญเรือง เจ้าของเล่าที่มาให้ฟัง

     แต่จากนั้นไม่นานหลังจากที่เมืองคองเริ่มกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเพื่อปักหมุดหมายใหม่ของนักเดินทางที่ชื่นชอบธรรมชาติ อยากใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ จากความตั้งใจที่จะเก็บไว้แค่รับรองเพื่อนๆ คนรู้จักบ้านไม้เมืองคองฯ ก็ต้องเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย แต่การเตรียมความพร้อมให้ดีมาตั้งแต่ต้น เพื่อให้เป็นบ้านพักรับรองสำหรับแขกผู้เดินทางมาไกล จึงทำให้บ้านไม้เมืองคองฯ มีความแตกต่างจากที่พักอื่นๆ ซึ่งเปิดดำเนินมาพร้อมๆ กันในยุคแรกเมื่อ 4 – 5 ปีก่อน และกลายเป็นทางเลือกให้กับผู้คนที่อยากมาเที่ยวเมืองคอง แต่ขณะเดียวกันก็อยากได้ความสะดวกสบายควบคู่กันไปด้วย

     “จากความตั้งใจที่คิดไว้แบบนั้นตั้งแต่ต้น เลยทำให้พอต้องมาทำเป็นที่พัก เราจึงแตกต่างจากคนอื่นๆ ลูกค้าคนไหนที่ต้องการความสะดวกขึ้นมาหน่อย เช่น อยากได้ห้องน้ำในตัว ห้องพักเป็นห้องๆ เขาก็จะเลือกเรา กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจึงเป็นกลุ่มครอบครัว คนวัยทำงานบ้าง คนวัยเกษียณ ถ้าเป็นวัยรุ่นก็จะเป็นคู่รักหรือกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยากมาพักแบบเงียบๆ มาเพื่อพักผ่อนจริงๆ ” วิชชุดาเล่าถึงความตั้งใจที่กลายมาเป็นจุดเด่นให้ธุรกิจในภายหลัง

อัพมาตรฐาน แต่ราคาแทบไม่แตกต่าง

     ถึงแม้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายดูครบครันมากกว่า แต่หากลองดูราคาที่พักของบ้านไม้เมืองคองฯ เมื่อเทียบกับราคาของโฮมสเตย์อื่นๆ ในเมืองคองแล้วแทบจะไม่ได้แตกต่างกันเลย โดยราคาโฮมสเตย์ทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ราว 350 บาทต่อคน ขณะที่บ้านไม้เมืองคองราคาห้องพักสำหรับ 2 คนจะอยู่ 800 บาทต่อห้อง ซึ่งหากลองนำมาหารเฉลี่ยต่อคนแล้วต่างกันแค่เพียง 50 บาทเท่านั้น จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจอยากมาใช้บริการ

     โดยห้องพักของที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 9 หลัง 10 ห้องนอน แบ่งเป็นห้อง 2 คน จำนวน 6 หลัง, ห้อง 3 คน 1 หลัง, ห้อง 4 คน 1 หลัง และห้อง 8 คน 1 หลัง จึงทำให้รองรับลูกค้าได้ค่อนข้างครอบคลุมตามความต้องการ ซึ่งแต่ละหลังนั้นดัดแปลงมาจากยุ้งข้าวเก่าของชาวบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่า และโซนใหม่ที่ทำเพิ่มเติมขึ้นมามีชื่อเรียกว่า “เสวียน” เป็นยุ้งข้าวอีกรูปแบบหนึ่งของคนเหนือเช่นกัน โดยทำจากไม้ไผ่สานขึ้นโครงเป็นรูปทรงกลม

     “จริงอยู่ที่เราอยากใส่ความสบายเพิ่มเข้ามา แต่ความจริงแล้วเราก็ไม่อยากทิ้งเสน่ห์แบบเป็นกันเองไป เราอยากให้ทุกคนที่มาพักได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมาพักบ้านเพื่อนบ้านญาติ เรายังชอบความเล็กๆ แบบนี้อยู่ ยังรู้สึกมีความสุขที่ได้ดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง ซึ่งเท่านี้เราว่าพอดีแล้วกับกำลังที่มี ถ้าใหญ่ไปกว่านี้ก็ต้องลงทุนเยอะขึ้น จ้างคนเพิ่มขึ้น คงเครียด และไม่สนุกแบบนี้”

เพิ่มโอกาสธุรกิจ จากสิ่งที่ลูกค้าต้องการ

     โดยทุกวันนี้เมืองคองจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นของเหล่านักท่องเที่ยว แต่วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ก็ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตร ค้าขายบ้างเล็กน้อย ด้วยข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ที่นี่จึงยังไม่มีที่พักขนาดใหญ่เข้ามา เมืองคองจึงยังเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ สักทุ่มสองทุ่มทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบสงบแล้ว

     “ถึงเมืองคองจะเริ่มเป็นที่รู้จักเยอะขึ้น แต่ผู้คนที่นี่ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม หัวค่ำก็ปิดบ้านปิดร้านเข้านอนกันแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนอาจจะไม่คุ้น บางทีจะออกไปกินข้าวร้านก็ปิดซะแล้ว หาร้านกินข้าวค่อนข้างยาก นอกจากทำที่พักแล้ว เราเลยเพิ่มในส่วนของอาหารเย็นขึ้นมาด้วย มีให้เลือกเป็นเซ็ตอาหารพื้นบ้านชุดละ 360 บาท กับข้าว 3 อย่าง สำหรับ 2 คน หรือถ้าใครอยากกินหมูกระทะเราก็มีจัดให้ชุดละ 450 บาท แต่คือ ทั้งหมดต้องสั่งล่วงหน้าก่อน เพราะเรามีพนักงานแค่ไม่กี่คน ทำตามสั่งไม่ทัน อย่างบางทีลูกค้าบางคนครั้งนี้ไม่ได้พัก แต่เขาอยากพาครอบครัวมากินข้าวเราก็ทำให้ ขอแค่แจ้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งจริงๆ ทุกอย่างเริ่มมาจากความต้องการของลูกค้าทั้งหมด เราก็แค่ปรับตามสิ่งที่เขาต้องการไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือร้านอาหาร” วิชชุดากล่าว

     โดยหากใครสนใจอยากมาท่องเที่ยวเมืองคอง เธอได้ฝากแนะนำมาว่าควรเดินทางมาในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านเริ่มดำนาปลูกข้าวท้องนามีสีเขียวสวย ยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไป น้ำท่ายังพอมีให้ใช้ และหากจะให้ดีควรติดต่อสอบถามที่พักไว้ล่วงหน้าก่อน ไม่ควรวอคอินเข้ามา เนื่องจากหากไม่มีลูกค้าเข้าพัก ที่พักหลายแห่งอาจปิดให้บริการได้

 

ข้อมูลติดต่อ

Facebook : บ้านไม้เมืองคองโฮมสเตย์รีสอร์ท

โทร. 081 724 1541

 

TEXT : Surangrak Su.

PHOTO : สองภาค

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

กว่าจะเป็น สุขกับป๊อกกี้ ร้านลับ ชื่อเท่ เมืองสัตหีบ ที่ใครมาก็ต้องได้ความสุขกลับไป

“สุขกับป๊อกกี้” คาเฟ่ & ร้านอาหารชื่อแปลกหู อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่แค่ฟังก็รู้ว่าต้องเป็นพื้นที่แห่งความสุข

บ้านอยู่ดีมีความสุข เกาะสีชัง กับแนวคิดทำธุรกิจให้มีขยะน้อยที่สุด

เราไม่สามารถลดขยะให้เป็นศูนย์ได้ แต่สามารถลดให้น้อยลงได้ แค่ลองตั้ง Mindset ค่อยๆ ลงมือทำไปทีละนิด ไม่ว่าใครก็ทำได้ เหมือนกับ “บ้านอยู่ดีมีความสุข” ที่พักเล็กน่ารักบนเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ที่เริ่มต้นทำจากจุดเล็กๆ ไปทีละอย่าง

บ้านๆ น่านๆ ตำนานที่พัก+ห้องสมุด รายแรกของไทย ใช้สิ่งที่รักต่อยอดธุรกิจโตกว่าทศวรรษ

เพราะความรู้ ความบันเทิง ความรื่นรมย์ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ แต่มันอยู่ในชีวิตเราทุกรูปแบบ นี่คือ เหตุผลที่ทำให้ "ชโลมใจ ชยพันธนาการ" (ครูต้อม) อดีตครูสอนวิชาภาษาไทยผันตัวมาเป็นเจ้าของที่พัก “บ้านๆ น่านๆ” ที่มีจุดขาย คือ มีห้องสมุดไว้สำหรับหนอนหนังสือเป็นรายแรกของไทย