Phuketique ร้านที่เริ่มด้วยความขี้เกียจ กลายเป็นไวรัล โทสต์ที่ต้องกินก่อนตาย

 

 

     “เพราะความขี้เกียจจริงๆ ”

     พี่ยุ้ย-เพียงเพ็ญ ธรรมประดิษฐ์ บอกประโยคแรก หลังจากที่ย้ำกับผมว่า อยากรู้คำตอบจริง ๆ ไหม ตอนถูกยิงคำถามถึงที่มาของ Phuketique

     "รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานองค์กร ไม่มีเวลาให้ตัวเอง กดดัน เลยลาออกจากงานประจำ" เธอขยายความต่อ จริง ๆ เหตุผลที่มากกว่านั้นคือการค้นหาตัวเองต่างหาก

     ช่วงแรกก็ยังไม่ชินกับการหักดิบ ถีบตัวเองออกจากออฟฟิศ แต่โชคดีที่มีแม่ขายของอยู่แล้ว เลยจับขนมปังปิ้งมาทดสอบความเป็นตัวตน ได้ไม่นานก็ลาเตา ด้วยความที่ตัวเองผ่านงานด้านอาหารและเครื่องดื่มมาก่อน จึงรู้จักคุณภาพของวัตถุดิบ ใช้ขนมปัง เนยอย่างดีแต่ราคาเท่าตลาด สุดท้ายเลยอยู่ไม่รอด

     เมื่อมาเจอที่ให้เช่าที่ร้านปัจจุบัน ตอนแรกก็รู้สึกว่ายังไงก็ไม่ใช่ แต่ทำเลถูกใจ เลยต้องมาดูที่หลาย ๆ รอบเพื่อให้คุ้นเคยและให้รู้สึกว่าใช่ของเรา

    หลังจากตัดสินใจปักหลักลงเสาที่นี่ พี่ยุ้ยลองผิดลองถูกเรื่อยมา ตั้งแต่ปี 2013 จับคราฟต์เบียร์มาลองตลาด คนยังไม่รู้จัก จับขวด ดูราคาแล้ววางกลับ มีรู้สึกท้อบ้างแต่ไม่ยอมแพ้ เพราะได้คำตอบว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่เพราะการไม่ยอมแพ้ จึงเป็นที่รู้จักของลูกค้าและเพื่อน ๆ จำนวนหนึ่ง

    ตอนนั้น ผมยังจำภาพของร้านยังโล่ง ๆ เต็มไปด้วยตู้เบียร์สด ที่นั่งไม่มากนัก ลูกค้าประจำเป็นคนเดิมที่รู้จักกันจากสังคมกาแฟบ้าง กลุ่มถ่ายรูปบ้าง ทุกคนรู้สึกว่าที่นี่ใช่ สามารถนั่งพูดคุย ดื่มคราฟต์เบียร์สบาย ๆ เสียงไม่ดัง ถ้าไม่ใช่สายน้ำสีอำพัน ที่นี่ยังมีชาเย็น น้ำส้มสดให้ได้ดื่มด่ำความเป็นคราฟต์ด้วยกันได้

    พี่ยุ้ยเล่าต่อว่า หลังจาก Phuketique เป็นที่รู้จักมากขึ้นสำหรับคนชอบเสพบรรยากาศยามเย็นจนพลบค่ำ สิ่งท้าทายต่อมา คือ การแก้ปัญหาช่วงว่างร้านในเวลากลางวัน  เพื่อน ๆ หลายคน เสนอให้ขายฮันนี่โทสต์ ซึ่งในขณะนั้น หลายร้านในภูเก็ตมีขายอยู่แล้ว รู้สึกขัดแย้งกับตัวเอง ว่าทำไมต้องทำอย่างคนอื่น แต่มีความสนใจลึก ๆ อยู่ แค่แก้โจทย์ตอนนั้นให้ได้ว่า อะไรคือความแตกต่าง

    โชคดีที่ตัวเองเคยผ่านงาน F&B (อาหารและเครื่องดื่ม) มาก่อน เลยซึมซับความรู้ด้านนี้จากคนเก่ง ๆ มามากมาย จึงได้คำตอบที่โทสต์เค็มนำ ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ลองทำแค่ 2 ครั้ง แล้วรู้สึกว่าใช่ก็ขายเลย เสียงตอบรับจึงดีขึ้นเรื่อย ๆ ปากต่อปาก ปากต่อโซเซียล โซเซียลต่อโซเซียล จนกลายเป็นไวรัล “โทสต์ที่ต้องกินก่อนตาย”

     ถ้าใครมาเที่ยวภูเก็ต แล้วไม่ได้ลิ้มลองโทสต์ที่ Phuketique แสดงว่ายังมาไม่ถึงภูเก็ต

     ตอนนี้ถ้าใครผ่านไปผ่านมาแถววงเวียนน้ำพุ ตลาดดาวน์ทาวน์ ภูเก็ต Phuketique คือ จุดนำสายตาอย่างแรกที่ไม่เคยว่างเว้นผู้คน

     คืนนี้คนยังน้อย เราเลยได้คุยกันบ้าง จากคิดว่าจะดื่มแค่น้ำส้มแก้วเดียว เรื่องราวของยุ้ยอินจนให้ผมต้องเปลี่ยนฝ่าย สั่งน้ำสีชามาหนึ่งแก้ว

    ผมสรุปเอาเองจากการบอกเล่าของพี่ยุ้ยว่า ความยั่งยืนของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ต้องอาศัยกุญแจความสำเร็จอย่างน้อยสามอย่าง คือ การใช้วัตถุดิบ คุณภาพดี การสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า และการให้ความสำคัญกับบุคลากรในสายงาน

     ยิ่งในยุคที่มนุษย์กำลังล้ำเส้นความปกติของธรรมชาติจนเกินพอดี พี่ยุ้ยบอกผมว่า เธอยิ่งต้องคิดมากกับการใช้ผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

     ส่วนเรื่องอนาคตพี่ยุ้ยบอกว่า การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ การตลาดก็เป็นเรื่องใหญ่ ตัวเองยังมีอะไรที่รอให้ทำอีกหลายอย่าง

     ถ้าให้ใช้เกณฑ์กำหนดวัดความสำเร็จของพี่ยุ้ยผ่าน Phuketique ผมคงไม่กล้าประเมิน แต่ถ้าดูจากภาพความสุขของคนในร้าน รอยยิ้มจากพี่ยุ้ย การค้นหาตัวตนคงไม่สูญเปล่าและกราฟความสุขคงยิ่งดิ่งขึ้นไม่รู้จบ

 

ข้อมูลติดต่อ

https://www.facebook.com/yuiphuketique

โทร. 061 624 0400

 

Text / Photo : ชาญชัย หาสสุด

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม