จากธุรกิจกงสี 70 ปีร้านบะหมี่แป๊ะสุน ต่อยอดสร้างรายได้บน YouTube คุณพ่อเป็นนักแสดง คุณลูกเป็นตากล้อง

 

 

     ถ้าใครอยู่ละแวกชลบุรีคงไม่มีใครไม่รู้จักร้านบะหมี่ “แป๊ะสุน” ยึดทำเลในตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตลาดใหญ่ จ. ชลบุรี เปิดขายมากว่า 70 ปี ที่ไม่เพียงเป็นตำนานทำแป้งแบบนวดมือเจ้าเดียวในชลบุรี แต่ยังต่อยอดธุรกิจกงสีให้เข้ากับยุคสมัยผ่านช่องทาง YouTube

     ความต่างระหว่างวัยจะทำอย่างไรให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ  SME Thailand Online จะพาไปไขข้อสงสัย

สูตรเด็ดของครอบครัว

     ต้องยอมรับว่าการทำบะหมี่ของแแป๊ะสุนถือเป็นธุรกิจที่เลี้ยงครอบครัวแป๊ะสุนใช้เลี้ยงสมาชิกในครอบครัว 13 ชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนในครอบครัวได้เรียนรู้วิธีการทำและขายบะหมี่ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นการนวดแป้ง นวดเส้น ทำเครื่องปรุง ย่างหมู และอื่นๆ

     วันชัย วณิชชูวงศ์ เป็นลูกชายคนสุดท้องรวมทั้งเป็นผู้สืบธุรกิจรุ่นที่ 2 ในปัจจุบันเปิดเผยว่า ร้านบะหมี่ของเขายังคงขายตามสูตรที่เตี่ยสอนไว้ เมนูดั้งเดิมในร้านจะมีเมนูบะหมี่หมู ได้แก่ หมูแดง หมูสับ กุ้งแห้ง และเมนูบะหมี่เป็ดตุ๋น ซึ่งจะเลาะกระดูกเป็ดออกแล้วหั่นเป็นลูกเต๋าและนำมาตุ๋น ส่วนเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์มีอยู่ 3 เมนูคือ บะหมี่น้ำหมู บะหมี่น้ำเป็ด และบะหมี่น้ำหมูและเป็ด เมนูที่ขายดีที่สุดคือ “บะหมี่เป็ดตุ๋น”

      นอกจากนี้มีการปรับสูตรเพิ่มรสชาติให้เหมาะกับยุคสมัยและถูกใจคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น รวมทั้งการปรับกระบวนการผลิตหมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง ที่สมัยก่อนอาจจะย่างทีเดียวทั้งหมดในถังน้ำมัน 200 ลิตร แต่สมัยนี้มีเตาอบไฟฟ้า จึงสามารถย่างทีละชุดเพื่อให้ได้ความหอม สดใหม่ และอร่อยอยู่เสมอ

     “ปัจจุบันผมได้เพิ่มเมนูใหม่ขึ้นมาโดยนำเป็ดตุ๋นมาราดข้าวเรียกว่า “ข้าวแห้งเป็ดเต๋าตุ๋น” รวมทั้ง “ข้าวหมูแดง” และ “ข้าวหมูกรอบ” เป็นตัวเลือกเพิ่มให้ลูกค้าซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกันทำให้สามารถเพิ่มยอดขายตามไปด้วย”

เจ้าเดียวในชลบุรีที่ยังคงทำแป้งแบบนวดมือ

     จุดเด่นของร้านบะหมี่ “แป๊ะสุน” ที่แตกต่างจากคู่แข่งคือ การที่เป็นร้านบะหมี่เจ้าเดียวในชลบุรีที่ยังคงทำแป้งแบบนวดมือและเลือกใช้แป้งคุณภาพและราคาสูงที่สุด ในขณะที่ร้านอื่นๆ จะบริหารในรูปแบบอุตสาหกรรมและนิยมใช้เครื่องนวดแป้งและแป้งเบอร์รองในการผลิตเพื่อลดต้นทุน ทำให้เส้นบะหมี่ของร้านเราเป็นร้านบะหมี่ที่หาทานได้ยาก ทางร้านจะผลิตแป้งวันต่อวัน เฉลี่ยวันละ 15-20 กิโลกรัม เฉลี่ย 300-400 ก้อนต่อวัน โดยแป้ง 1 กิโลกรัมทำบะหมี่ได้ประมาณ 20 ก้อน ด้วยกรรมวิธีพิเศษในการเพิ่มความเหนียวนุ่มของเส้นที่ไม่เหมือนใคร

     “เชื่อหรือไม่ว่าในอดีตราคาบะหมี่ที่ร้านเริ่มจากชามละ 5 บาท ปัจจุบันราคาเพียงชามละ 50 บาท เพราะเรายึดหลักคำพูดของเตี่ยว่า “บะหมี่ไม่ใช่อาหารที่กินอิ่ม แต่เป็นอาหารตามใจฉัน เพราะสามารถปรุงรสชาติได้ตามชอบ อร่อย ไม่เน้นอิ่มแต่ว่าถูกใจเรา” 

จุดเริ่มต้นการทำ YouTube

     การมาเยือนของโควิดอาจทำให้หลายคนได้ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดเช่นเดียวกับครอบครัวของวณิชชูวงศ์ ที่ณัฐชัย วณิชชูวงศ์ (ซัน) เห็นว่าพ่อเป็นคนพูดเก่งและสามารถทำคลิปได้แต่ก็ยังไม่มีโอกาสจนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนรัฐบาลประกาศมาตรการห้ามนั่งทานอาหารในร้านให้เหลือแต่เฉพาะการสั่งซื้อกลับบ้าน ทำให้พวกเขาเริ่มมีเวลาว่างและเริ่มทำคอนเทนต์ลง YouTube คือ เดอะแป๊ะสุน Official

     ก่อนที่จะลงมือถ่ายทำพวกเขาได้มีการคุยกันและศึกษาว่าจะทำคอนเทนต์ประเภทไหน ในที่สุดมีมติว่าเควรจะทำคลิปเกี่ยวกับอาหารเพื่อเสนอความเป็นตัวตนของเราแบบธรรมชาติไม่เป็นทางการเกินไป และได้ถือกำเนิดคลิปแรก เคล็ด(ไม่)ลับ | เผยเคล็ดลับ บะหมี่ทำมือแป๊ะสุนในตำนาน! ดูแล้วทำเป็นแน่นอน!!!

     “คลิปแรกยังมีผู้ชมไม่เยอะเท่าไหร่ ผมจึงเน้นแชร์ให้เพื่อนได้ชม แรกๆ ผมก็มีความเกรงใจเพื่อนๆ แต่เพื่อนก็ตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแชร์เป็นเรื่องของคุณ (มึง) แต่เรื่องรำคาญเป็นเรื่องของฉัน (กู)” พอหลังจากคลิปที่ 4 มีคนดูเพิ่มมากขึ้นเราก็ไม่ได้แชร์ให้เพื่อน”

ต่างวัยก็ต่างความคิด

     แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์และมุมมองทำให้ในการทำคอนเทนต์ลงยูทูบนั้นมักมีความคิดเห็นที่ต่างกัน วันชัย เล่าว่าก่อนหน้านี้ตนเองอยากทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเงิน และอีกหลายๆ เรื่อง ในขณะที่ลูกชายเห็นว่าพวกเขาไม่ใช่กูรูทางด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นเจ้าของร้านอาหารจึงควรเน้นทำคอนเทนต์ด้านอาหาร

     “ผมก็คิดว่าเรื่องอาหารอย่างเดียวจะน่าเบื่อหรือไม่ แต่ในที่สุดผมก็ยอมรับความคิดและมุมมองของคนรุ่นใหม่ เน้นคอนเทนต์ด้านอาหารเพราะเราถนัดและเชี่ยวชาญ ตัวตนของเราก็เป็นพ่อค้าไม่สามารถทำอะไรที่แตกต่างไปได้มากกว่านี้ คอนเทนต์ด้านอาหารจึงเป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด และที่สำคัญพ่อ แม่ และลูกสามารถทำงานร่วมกันได้”

      ณัฐชัย ได้เล่าเสริมว่า ก่อนทำคลิปได้ตั้งปณิธานไว้ว่าการทำคอนเทนต์จะไม่ซื้อโฆษณาหรือโปรโมตช่องใดๆ ทิ้งสิ้น เพราะอยากให้คนที่เข้ามาชมเป็นคนที่ชื่นชอบและตั้งใจเข้ามาชมคลิปของเราด้วยตนเองจะดีกว่า ดังนั้นยอดผู้ติดตามและยอดผู้เข้าชมคลิปจึงเป็นแบบออร์แกนิทั้งหมด พร้อมทั้งยังอยากพัฒนายอดผู้ติดตามให้เพิ่มขึ้นและยอดเข้าชมให้ก้าวสู่ล้านวิวให้ได้ในอนาคตอันใกล้   

คนเริ่มตามงานโฆษณาก็เริ่มเข้า

      ถ้าถามว่าจุดเด่นของช่องยูทูบ เดอะแป๊ะสุน Official คืออะไร วันชัย บอกว่าคงมาจากที่เขาเป็นคนอารมณ์ดี การนำเสนอเนื้อหาในคลิปทำด้วยความจริงใจ เช่น คลิปวิธีทำบะหมี่นวดมือก็บอกสูตรและเคล็ดลับทั้งหมด เพราะไม่อยากให้ผู้ชมรู้สึกไม่ดีหลังจากทำตามคำแนะนำแล้วไม่เป็นอย่างที่เราบอก

     ส่วนการทำคลิปนั้นวันชัยบอกว่าตัวเขาจะเขียนเป็นหัวข้อหลักไว้ว่าจะพูดเกี่ยวกับอะไร ไม่มีสคริปต์ อาศัยพูดไปเรื่อยๆ โดยมีลูกชายเป็นตัวแทนคนดูและเป็นคนถ่ายทำ คอยแนะนำว่าพูดแบบนี้คนดูไม่สนุก หรือบางเนื้อหาที่พูดไปไม่เหมาะสมก็ตัดต่อออกไป  พวกเขาจะเน้นถ่ายทำวันศุกร์ วันเสาร์-อาทิตย์ลูกชายก็จะทำการตัดต่อและอัปโหลดในวันอาทิตย์ตอนเย็น

     “ตอนแรกเริ่มทำช่อง YouTube เพียงแค่ต้องการให้ลูกค้าเห็นและชวนกันมารับประทานบะหมี่ร้านแป๊ะสุน ตั้งเป้าจำนวนผู้ติดตามไว้ที่ 1,000 คน ซึ่งตอนนี้ก็เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้มากที่ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามถึง 9.8 หมื่น”

     ในขณะที่ผลตอบรับ YouTube สู่หน้าร้าน วันชัยบอกว่าเกินคาดไปมากเพราะไม่เพียงแค่ลูกค้ากลับมาใหม่ แต่ยังได้ยังมีลูกค้าจากต่างจังหวัดหรือต่างพื้นที่ตามมาจากช่อง YouTube มาอุดหนุนที่ร้านมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์อาทิตย์

     “ผมบอกกับลูกชายเสมอว่าการเปิดหน้าร้าน แม้จะขายดีแค่ไหนก็ไม่สามารถรองรับลูกค้าได้เกิน 500 คนต่อวัน แต่ในโลกออนไลน์การทำคลิปลงช่อง YouTube หนึ่งคลิปสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากถึงแสนหรือล้านคนที่เห็นผลได้ชัดเจน ตอนนี้ได้รายได้จากช่อง YouTube อยู่ที่หลักหมื่นต่อเดือน แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือผมได้ขายบะหมี่และมีคนรู้จักมากขึ้น รวมถึงยังมีคนมาจ้างทำคลิปเพื่อการโฆษณา หรือ tie-in สินค้า งานสปอนเซอร์ก็มีติดต่อมาประมาณ 10 ราย และมีคนจ้างลูกชายไปถ่ายทำ การตัดต่อคลิปอีกด้วย”

     ก่อนทำช่อง YouTube วันชัยได้คุยกับลูกชายและวางแผนอนาคตไว้ว่า หากลูกชายได้เรียนที่ชลบุรีและได้ทำงานที่กรุงเทพฯ ก็จะสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้และเดินทางไม่ไกลมาก ปัจจบุันหลังจากได้เริ่มทำช่อง YouTube ลูกชายก็อาจจะไม่ต้องไปทำงานที่อื่น อาจจะทำช่องและโปรดักชั่นส์ที่บ้านได้ ก็ทำให้ไม่ต้องอยู่ห่างไกลครอบครัว

    “โดยเคล็ดลับความอบอุ่นของครอบครัวเราอีกอย่างคือ การได้ทำงานร่วมกัน ตอนถ่ายทำภรรยาผมจะไม่ออกกล้องแต่ว่าจะช่วยเตรียมของทั้งหมดอยู่เบื้องหลังการทำงาน ลูกชายก็เป็นคนถ่ายทำ กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัวที่ได้ทำร่วมกันและมีความสุขมากครับ”

     โลกของธุรกิจและการใช้ชีวิตก็สามารถไปด้วยกันได้อยู่ภายใต้ความชอบและเข้าใจของทุกคน

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน