TEXT : อรุษา กิตติวัฒน์
Main Idea
- "Julia Child" ตำนานเชฟฝรั่งเศสในอเมริกา ผู้เขียนตำราอาหารฝรั่งเศสเป็นภาษาอังกฤษเล่มแรก และบุกเบิกรายการสอนทำอาหาร The French Chef ทางทีวีที่ทำให้ทุกคนสามารถทำอาหารฝรั่งเศสขั้นสูงเองได้ในครัวที่บ้าน
- เพื่อเปลี่ยนรสชาติอาหารของคนอเมริกันจากยุคอาหารกระป๋องเข้าสู่โลกแห่งรสชาติ เป็นเพื่อนในครัว และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงอีกมากมายลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตัวเอง มาตามติดเส้นทางอาชีพของผู้หญิงแกร่งคนนี้ที่เพิ่งมาเริ่มต้นอีกครั้งในวัยใกล้เกษียณ
เชฟส่วนใหญ่อาจมีแรงบันดาลใจในอาชีพจากความสุข ความประทับใจในวัยเยาว์ การเติบโตมากับรสมือแม่ ต่างจาก จูเลีย ไชลด์ เชฟฝรั่งเศสตัวแม่ ผู้เขียนหนังสือ Mastering the Art of French Cooking ตำราอาหารฝรั่งเศสที่เป็นภาษาอังกฤษเล่มแรก (ตีพิมพ์ปี 1961) และบุกเบิกรายการ The French Chef สอนทำอาหารทางทีวีแบบที่ทุกคนสามารถทำได้ในครัวที่บ้าน เปลี่ยนรสชาติอาหารของคนอเมริกันให้ออกจากยุคอาหารกระป๋องเข้าสู่โลกแห่งรสชาติ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงอเมริกันอีกมากมาย ที่เพิ่งมาเริ่มต้นก้าวแรกเอาตอนพ้นวัยหนุ่มสาวแล้ว
วันนี้เราอยากแนะนำหนังสองเรื่อง คือ ภาพยนต์ Julie & Julia (ปี 2009) และ หนังซีรีส์เรื่อง Julia (ปี 2022) โดยทั้งสองเรื่องเล่าเรื่องราวชีวิตของ จูเลีย ไชลด์ หญิงวัยกลางคนที่อยากหาอะไรสักอย่างทำ จนกลายมาเป็น The French Chef ในตำนานได้อย่างไร
1.
ภาพยนต์เรื่อง Julie & Julia (ปี 2009) ฉายทาง Netflix ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของจูเลีย ในช่วงที่ไปอยู่ฝรั่งเศสก่อนที่จะเริ่มเขียนหนังสือตำราอาหาร คู่ขนานไปกับการเล่าเรื่องราวชีวิตของ จูลี สาวออฟฟิศทำงานรับเรื่องร้องเรียนของเหยื่อจากเกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากหนังสือของจูเลีย เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่เกิดคนละยุค แต่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตเช่นกัน โดยมีการทำอาหารเข้ามาเป็นแรงบันดาลใจ
จูเลีย ไชลด์ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะ เป็นลูกสาวนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์รุ่นแรกๆ ของแคลิฟอร์เนีย ไม่เคยต้องเรียนรู้การทำอาหาร มีความฝันอยากเป็นนักเขียนนิยาย (หรืออาจเป็นนักเขียนนิตยสาร) หลังเรียนจบเธอทำงานเป็นก๊อปปี้ไรเตอร์ เขียนคำโฆษณาในแผนกโฆษณาของห้างขายเฟอร์นิเจอร์ W. & J. Sloane และได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการแผนก ก่อนที่จะตกงานเพราะขัดแย้งกับผู้จัดการร้านจนผิดพลาดในงาน เธอมีความฝันใหม่ในวัย 28 ปี คือ อยากเป็นอาสาสมัครรับใช้ชาติในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ถูกปฏิเสธเพราะสูงเกินไป ความสูง 188 เซนติเมตร นอกจากสูงเกินมาตรฐานทหารหญิง ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ชายอเมริกันด้วยซ้ำ เธอจึงไปสมัครหน่วยข่าวกรองลับ OSS เป็นสายลับเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ได้พบรักกับ พอล ชายน์ เพื่อนร่วมงานที่ศรีลังกา หลังสงครามจบทั้งคู่กลับอเมริกาและแต่งงานกัน
หลังแต่งงานสองปี พอลได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงปารีส จูเลียติดตามสามีไปในฐานะภรรยา พอลผู้ที่ลงลึกในเรื่องอาหารเครื่องดื่มอยู่แล้ว พาเธอไปสัมผัสโลกแห่งรสชาติด้วยการไปกินอาหารร้านดังๆ มื้ออาหารที่ La Couronne ภัตตาคารเก่าแก่ที่เปิดบริการมากว่า 600 ปี ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไป
ในปี 1948 หลังจากจูเลียตาม พอล ไชลด์ สามีไปอยู่ต่างประเทศ เรียนรู้ภาษาใหม่ เธอพยายามค้นหากิจกรรมยามว่าง ลองไปเรียนทำหมวก เรียนเล่นบริดจ์ ในที่สุดเธอก็รู้ตัวว่าสิ่งที่ชอบที่สุดคือ “การกิน” พอลให้ของขวัญวันเกิดเป็นตำราอาหารฝรั่งเศสที่จูเลียอ่านไม่เข้าใจ เธอจึงพยายามตามหาตำราที่เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อไม่พบ ที่สุดจึงไปสมัครเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารขั้นสูง “เลอ กอร์ดอง เบลอ” ภายหลับได้พบเพื่อนใหม่ที่กำลังเขียนตำราอาหารฝรั่งเศสและได้ร่วมเขียนตำราเป็นภาษาอังกฤษ งานนี้กินเวลายาวนานหลายปี ระหว่างที่ต้องย้ายตามพอลไปหลายประเทศ หลังจากเขียนเสร็จ ต้นฉบับหนาหลายร้อยหน้าถูกสำนักพิมพ์หลายแห่งปฏิเสธ ก่อนที่จะไปถึงมือบรรณาธิการหนังสือวรรณกรรม จูดิธ โจนส์ ที่ทดลองทำตามสูตรแล้วได้ผล จึงช่วยผลักดันจนหนังสือ Mastering the Art of French Cooking ได้ตีพิมพ์ในปี 1961
จูลี อดีตบรรณาธิการนิตยสารผู้ลาออกจากงานมาตามหาความฝันบนเส้นทางนักเขียนอาชีพ หลายปีผ่านไปความฝันยิ่งไกลห่าง เธอกำลังจะอายุ 30 หมดแรงบันดาลใจ ไร้เป้าหมาย ติดกับดักการทำงานเลี้ยงชีวิตไปวันๆ สามีจึงแนะนำให้เขียนเว็บบล็อก ซึ่งไม่จำเป็นต้องตีพิมพ์
จูลีรักการทำอาหารตามหนังสือ Mastering the Art of French Cooking เล่มเก่าๆ ที่ขโมยมาจากบ้านแม่ จึงเริ่มต้นเขียนบล็อกที่ชื่อว่า “Julie/Julia Project” ในปี 2002 บันทึกเรื่องราวภารกิจทำอาหารตามสูตรในหนังสือคลาสสิคของจูเลีย ไชลด์ ให้ครบ 524 สูตร ใน 365 วัน แบบคนธรรมดาที่เริ่มต้นเขียนเรื่องอาหารโดยไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ จากครัวเล็กๆ ในอพาร์ตเมนต์ บล็อกของเธอติดอันดับต้นๆ ที่คนเข้ามาอ่านมากที่สุด ได้รับความสนใจจากคนในแวดวงอาหาร และสร้างแรงบันดาลใจให้นักเขียนมือสมัครเล่น ใครๆ ก็เป็นนักเขียนในเรื่องที่ตัวเองรักได้ในโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเชฟมืออาชีพหรือคนธรรมดาทุกคนเท่าเทียมกัน บล็อกของจูลีได้เรียบเรียงตีพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งต่อมาก็ถูกนำไปสร้างเป็นหนังเรื่อง Julie & Julia จูลีกลายเป็นนักเขียนอาชีพ และหนังสือของจูเลีย ซึ่งตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 49 ก็กลับมาขายดิบขายดีอีกครั้ง
2.
ส่วน Julia (ปี 2022) เป็นหนังซีรีย์ ที่ฉายทางสตีมมิง HBO GO เล่าถึงชีวิตของจูเลีย ไชลด์ ในช่วงหลังจากหนังสือ Mastering the Art of French Cooking ตีพิมพ์แล้ว พอลถูกเรียกตัวกลับไปที่วอชิงตัน ดี ซี และถูกกดดันให้เกษียณ ทั้งคู่มาปักหลักอยู่ที่ เคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เขากลายเป็นชายหลังเกษียณที่รู้สึกว่าเวลาเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า ทำงานศิลปะเป็นงานอดิเรก ขณะที่จูเลียเป็นนักเขียนรับเชิญในรายการ “ผมกำลังอ่าน” ทางช่องทีวีสาธารณะท้องถิ่น WGBH เธอสาธิตการทำออมเล็ตแบบฝรั่งเศสสุดคลาสสิก เมนูง่ายๆ ที่ใช้เวลาไม่ถึงนาที
การออกทีวีทำให้จูเลียมองเห็นตัวเองและสิ่งที่อยากทำในชีวิตอีกครั้ง เธอตัดสินใจเขียนจดหมายขอบคุณสถานีและเสนอรายการสอนทำอาหารแบบให้ความรู้ที่เธอเป็นพิธีกรเอง แม้ว่าจะมีจดหมาย 27 ฉบับจากผู้ชมทางบ้านเรียกร้องให้จูเลียมาทำอาหารออกทีวีอีก แต่ทีมงานที่เป็นผู้ชายก็คิดว่ารายการแบบนี้ไร้แก่นสาร ไม่มีความสำคัญอะไร อาหารฝรั่งเศสเป็นเรื่องของคนร่ำรวย และหากจะทำรายการอาหารจริงๆ ควรหาพิธีกรที่หน้าตาดีกว่า มีสไตล์การพูดโดดเด่นน้อยกว่า และที่สำคัญคือเตี้ยกว่าจูเลีย แต่รูปร่างหน้าตาแบบนี้แหละที่ทำให้จูเลียฝึกฝนการไม่ยอมรับคำปฏิเสธมาตั้งแต่วัยสาว
เมื่อผู้บริหารสถานีสนใจรายการ โปรดิวเซอร์ที่ได้รับมอบหมายกลับสรุปว่าทำไม่ได้เพราะไม่คุ้มทุน จูเลียถามถึงสาเหตุ และยื่นข้อเสนอแก้ปัญหานี้ด้วยการทำ “ตอนทดลอง” โดยเธอจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ถ้าออกอากาศแล้วประสบความสำเร็จ ก็ไปต่อจากตรงนั้น พร้อมกับนำเค้กที่ทำมาจากบ้านให้หนุ่มๆ ทีมงานชิม เป็นเค้กที่อร่อยและทำได้ง่าย ภรรยาของพวกเขาก็ทำออกมาเหมือนแบบนี้ได้ตั้งแต่ลองทำครั้งแรก นี่คือแนวทางของเธอ
ในเมื่อจูเลียออกค่าใช้จ่ายให้ สถานีก็ไม่มีอะไรจะเสีย รายการ The French Chef ตอนทดลองจึงได้แจ้งเกิด
คนฝรั่งเศสคิดว่าการทำอาหารเป็นอาชีพที่จริงจังและเป็นศิลปะ จูเลียที่เข้าใจหัวใจในการทำอาหาร ค้นหารูปแบบในการเรียนรู้ ตลอดจนเทคนิคต่างๆ ที่ทำตามได้ เป็นรายการสอนทำอาหารในแบบที่แม้แต่แม่บ้านอเมริกันแก่ๆ ก็ทำตามได้ทุกเมนู เป็นอาหารฝรั่งเศสที่ทุกคนเข้าถึงได้ การทำอาหารเป็นเรื่องสนุก ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด หนังสือและรายการทีวีของเธอเปลี่ยนรสชาติอาหารในชีวิตคนอเมริกัน จากอาหารกระป๋อง มาเป็นอาหารอร่อยมีระดับที่ปรุงง่ายๆ ได้ในครัว และเป็นต้นแบบของพิธีกรรายการอาหารสายโหดมันฮา ประเภทที่ทำไปโยนของที่ไม่ถูกใจทิ้ง หรือทำของหล่นบ้าง
จูเลียอาจหยุดอาชีพที่การแต่งงาน ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามประสาแม่บ้านของสามีนักการทูตที่ไปประจำในประเทศฝรั่งเศส ทว่าเธอเริ่มต้นตามหาสิ่งที่รักอีกครั้ง นำไปสู่การเป็นนักเขียนอย่างที่เคยฝัน มีผลงานหนังสือเล่มสำคัญได้ตีพิมพ์ และกำลังเริ่มต้นทำหนังสือเล่มที่สองต่อ ระหว่างนั้นก็ค้นพบความฝันใหม่ ในวัยใกล้เกษียณเธอรู้สึกว่าเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้ และตัดสินใจทุ่มสุดตัว ลงทุนกับตัวเอง ซึ่งนำไปสู่เส้นทางการงานที่ทอดยาวตลอดชีวิต หนังสือเล่มสุดท้ายของเธอเขียนจบตอนอายุย่างเข้า 92 และจากไปในปีนั้นอย่างไม่มีอะไรค้างคาใจ
ถ้าคุณกำลังไปต่อไม่ถูก หรือรู้สึกว่าแก่เกินจะฝัน อายุมากเกินกว่าจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ลองไปตามติดชีวิตของเชฟฝรั่งเศสสายฮาในตำนานคนนี้ได้ในหนังและซีรีส์สองเรื่องนี้
Bon appetit! รับประทานให้อร่อย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
