TEXT / PHOTO : ชาญชัย หาสสุด
Main Idea
- “Phan Ma Ba Trang” ร้านหนังสืออิสระร้านเดียวในตรังที่ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ได้ เปิดเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น
- ร้านหนังสือที่ให้มูลค่าจากเนื้อหา ไม่ใช่สภาพหนังสือ ไม่ขายออนไลน์และไม่ลดราคา เพราะเชื่อว่า “คุณค่าอยู่ที่เนื้อหา ไม่ใช่ภาพลักษณ์”
1.
อาหารการกิน เกาะแก่งและชายหาดเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังที่ยังขายได้อยู่ เห็นได้จากเกาะกระดานที่เพิ่งคว้าอันดับ 1 ของชายหาดดีที่สุดในโลกจาก World Beach Guide ส่งผลให้ทะเลตรังกลายเป็นจุดหมายน่าจับตามอง ในขณะที่เมืองตรังยังเป็นได้แค่เมืองกิน ทางผ่านของเหล่านักเดินทางอย่างเดิม แต่สำหรับนักเดินทางซุกซน สนใจรายละเอียดระหว่างทาง ร้านหนังสือ “Phan Ma Ba Trang” (พันธุ์หมาบ้า ตรัง) ในความร่มรื่นเขียวครึ้มของต้นไม้คงหลบไม่พ้นสายตา
พี่ตุ้ม - อรัญญา ทองโอ เป็นนักบัญชีเมืองกรุงที่ต้องกลับบ้านด้วยเหตุผลของครอบครัว คือ คนที่สร้างร้านหนังสือนี้ให้มีชีวิตกลางเมืองผ่าน
หากมองพื้นหลังที่เป็นนักบัญชีที่เราคุ้นตา ดูจะสวนทางกับบุคลิกของนักอ่านโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อฟังลักษณะงาน ทำให้ผมเห็นภาพคนรักหนังสือในตัวพี่ตุ้มได้ชัดเจนขึ้น เพราะลักษณะงานจริงๆ เป็นการวางระบบบัญชี ต้องออกแบบ เขียนคู่มือ เรียบเรียงคำพูดในการสื่อสารกับผู้คนหลากหลาย ซึ่งหลายขั้นตอนสามารถใช้การอ่านช่วยได้ ไม่ได้ใช้แค่ทักษะทางบัญชี แต่ต้องอาศัยความเป็นศิลปะร่วมด้วย
“แรกๆ ก็คิดอยากทำอะไรที่บ้าน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นร้านหนังสือ แค่อยากให้เป็นพื้นที่ใช้ร่วมกันของกลุ่มเพื่อนและได้พบปะกันหลังเลิกงาน จนเพื่อนรุ่นพี่แนะนำให้เปิดร้านพันธุ์หมาบ้า ด้วยความที่ตัวเองเป็นแฟนสินค้าของแบรนด์นี้อยู่แล้ว เลยโทรไปคุยกับพี่ชาติ กอบจิตติ หลังจากที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน จนเกิดเป็นร้านพันธุ์หมาบ้า ตรัง ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 21 พฤษภาคม 2559 ได้ทำต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน หนังสือในร้านส่วนหนึ่งเป็นตัวเองที่นำมาจากกรุงเทพฯ อีกส่วนหนึ่งได้มาจากพี่ๆ นักเขียนและเพื่อนฝูงกัน”
เธอเล่าจุดเริ่มต้นของชื่อร้านและบอกต่อถึงจุดประสงค์ของการมีพื้นที่ตรงนี้
2.
“แรงบันดาลใจจริงๆ อยากมีที่นั่งอ่านหนังสือ อยากมีเพื่อนๆ มานั่งคุยกัน การจัดสรรพื้นที่ร้านให้มีมุมสงบๆ กระจัดกระจายหน่อย เปิดแค่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะอยากอยู่ร้านเอง อยากให้ผู้คนมาใช้บางช่วงเวลากับร้านหนังสือ มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกันบ้าง”
เหมือนพี่ตุ้มกำลังจะบอกว่า ช่องว่างระหว่างกันยังคงสำคัญกับทุกความสัมพันธ์เสมอ
ชั้นหนังสือด้านหลังดึงสายตาและความคิดของผมให้จมลึกลงไปอีก ในสภาพสังคมปัจจุบันที่เราต่างใช้ชีวิตเร่งรีบขึ้น ในขณะที่คนมีสมาธิกับการอ่านกำลังใช้เวลาสั้นลงเรื่อยๆ น่าแปลกที่มีพื้นที่แบบนี้ซ่อนตัวอยู่ถึงปีที่ 7 แล้ว
“ตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือแนวกึ่งปรัชญา อ่านแล้วต้องจมไปกับหนังสือ บางครั้งรู้สึกเหมือนหนังสือกำลังอ่านเราในเวลาเดียวกัน พี่ไม่รู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ใช้วิธีอ่านหนังสือเหมือนยุคเราหรือเปล่า ที่แน่ๆ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศแบบนั้น ใช้เวลาในการละเลียดหนังสือในพื้นที่ตรงนี้”
พี่ตุ้มบอกว่า หนังสือในร้านไม่ได้มากมาย แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ขายและส่วนให้ยืมอ่าน ขั้นตอนให้ยืมมีเงื่อนไขไม่ซับซ้อน ชอบเล่มไหน แค่ส่งข้อความมาบอก หยิบไป แล้วค่อยคืนในสัปดาห์ถัดไป พร้อมส่งข้อความแจ้งกลับมา
“อยากให้คนอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น ตอนนี้คนอ่านหนังสือน้อยลงมาก เมื่อเราเห็นคนหยิบหนังสือขึ้นมาดู ก็รู้สึกดีแล้ว โดยอัตโนมัติ ทั้งที่ยังไม่ได้ตังค์สักบาท” เสียงหัวเราะสดใสของพี่ตุ้ม ยิ่งทำให้ผมเชื่อในความจริงใจของคนรักหนังสือ
3.
พี่ตุ้มบอกถึงการทำธุรกิจร้านหนังสือว่า
“ทำร้านหนังสืออย่างเดียวยากที่จะอยู่ได้ มีวิธีดูแลให้มันเลี้ยงตัวเองได้ก็พอ ความสุข คือ กำไรที่มีค่ามากพออยู่แล้ว ที่นี่ใช้แนวคิดการทำธุรกิจเสมือนครอบครัวกับร้านข้างๆ พึ่งพาอาศัยกัน ให้น้องๆ ที่รู้จักมาใช้พื้นที่โซนครัวขายอาหารในร้าน ส่วนใครอยากดื่มกาแฟ ซื้อมานั่งดื่มได้จากร้านถัดไปที่รู้จักกัน เคล็ดลับอย่างหนึ่ง คือ ที่ร้านจะไม่ขายออนไลน์และไม่ลดราคาหนังสือ เพราะเชื่อว่าคุณค่าจริงๆ อยู่ที่เนื้อหามากกว่าภาพลักษณ์ คนขายไม่เคยลดราคา คนซื้อไม่เคยต่อรอง เพราะต่างให้คุณค่าของกันและกัน คนเขียน คนขาย จนถึงคนอ่าน หนังสือจึงยังขายได้ตลอด และร้านหนังสือจะยังคงอยู่กับพื้นที่กับผู้คนเสมอ”
“นอกเหนือจากเวลาเปิดปกติของร้านแล้ว ยังเปิดให้ใช้พื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับหนังสือ ดนตรี ศิลปะ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มดูหนังอิสระ ที่ใช้พื้นที่ร่วมกันในการจัดฉายหนังอิสระเดือนละครั้ง ส่วนสำคัญ คือ อยากให้เป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับผู้คนกับเมือง เป็นความภูมิใจเล็กๆ ที่ผู้คนพูดถึงร้านหนังสืออิสระหนึ่งเดียวในตรัรง เพราะเราเชื่อว่าร้านหนังสือเล็กๆ แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองมีชีวิต”
ผมรู้สึกได้ถึงพลังอยากขับเคลื่อนให้เกิดสังคมการอ่านเชื่อมโยงไปยังพื้นที่สร้างสรรค์ของกลุ่มคนเล็กๆ ในจังหวัดตรัง แม้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามตามทฤษฎีการทำธุรกิจ แต่การดำรงอยู่ของร้านหนังสือกึ่งห้องสมุดร้านนี้ กำลังสร้าง Soft Power ให้นักเดินทางผ่านเมืองตรังต้องหันไปมองและลองเข้าไปเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้ง
Phan Ma Ba Trang https://www.facebook.com/PhanMaBaTrang กลุ่มดูหนังอิสระ ตรัง Backyard Trang Cinematic https://www.facebook.com/BackyardTrangCinematic |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี