เจาะ 5 คีย์เวิร์ดหลัก วิธีสร้างกลยุทธ์ธุรกิจ SME ให้สำเร็จ ฉบับทำได้จริงด้วยตัวเอง

TEXT : ภัทร เถื่อนศิริ

Main Idea

  • การพัฒนาธุรกิจ SME ให้ประสบความสำเร็จเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า “กลยุทธ์ทางธุรกิจ” นี่คือ คำแนะนำทีละขั้นตอนที่จะช่วยให้ วิธีสร้างกลยุทธ์ธุรกิจ SME ให้ประสบความสำเร็จ

 

  • คุณพร้อมที่จะยกระดับธุรกิจของคุณไปสู่อีกขั้นแล้วหรือยัง? ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ที่มั่นคง! สัมผัสพลังแห่งกลยุทธ์ได้แล้วตอนนี้

 

กลยุทธ์ธุรกิจ คืออะไร

ในทางทหาร กลยุทธ์ หมายถึง วิถีทางหรือแนวทางที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อจัดสรรและวางตำแหน่งกำลังทรัพยากรทางทหารในสนามรบ ด้วยจุดมุ่งหมายแห่งการพิชิตศัตรู

     เมื่อเวลาผ่านไป ในโลกยุคสมัยใหม่นี้ แต่ละประเทศไม่ได้มุ่งมั่นทำสงครามยึดประเทศกันแล้ว แต่พยายามที่จะเป็นผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกแทน กลยุทธ์จึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในเชิงเศรษฐศาสตร์

     ในทางเศรษฐศาสตร์ กลยุทธ์ คือ วิถีทางหรือแนวทางที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อการระดมและจัดสรรการใช้ทรัพยากรของประเทศ ในอันที่จะช่วยให้บรรลุถึงซึ่งเป้าหมายทางเศรษฐกิจ จากการใช้กลยุทธ์ในระดับประเทศ ย่อยลงมาสู่ระดับขององค์กร ภาคธุรกิจต่างก็มีการนำกลยุทธ์มาใช้ด้วยเช่นกัน

     กลยุทธ์ คือ กระบวนการในการกำหนดเป้าหมายที่แน่ชัดของธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การสร้างหรือพัฒนาวิถีทางในการปฏิบัติ ตลอดจนการระดมจัดสรรทรัพยากรขององค์การธุรกิจ เพื่อให้สามารถบรรลุถึงซึ่งเป้าหมายที่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างมีประสิทธิผล

     ดังนั้นเมื่อเราดูจากทั้งความหมายเชิงการทหาร เชิงเศรษฐศาสตร์ และเชิงธุรกิจแล้ว เราจะพบจุดร่วมบางอย่างของความหมายของกลยุทธ์ครับ กลยุทธ์จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ประการ คือ

  • เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะบรรลุถึง และ

 

  • การกำหนดแนวทางหรือวิธีการในทางปฏิบัติ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ได้

 

     นี่คือ หัวใจสำคัญของการเรียนรู้เรื่องการวางแผนกลยุทธ์ครับ แม้ว่าการวางแผนกลยุทธ์ด้านต่างๆ อาจมีแนวทางและเครื่องไม้เครื่องมือที่แตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วการวางแผนกลยุทธ์ทุกด้านต่างก็ช่วยทำให้เราสามารถตั้งเป้าหมายที่เราต้องการไปให้ถึง และกำหนดแนวทางที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นได้ครับ

     กลยุทธ์นั้นมีด้วยกันอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับองค์กร (Corporate) ระดับธุรกิจ (Business) และระดับปฏิบัติการ (Functional)

     1. กลยุทธ์ระดับองค์กร (Corporate Level) เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และวัตถุประสงค์ เป็นหน้าที่ของซีอีโอ ผู้บริหารระดับสูง และส่วนที่เกี่ยวข้องในการกำหนดภาพรวมขององค์กร ระบุกลุ่มตลาดเป้าหมายที่องค์กรจะเข้าไปแข่งขัน และวางแผนว่าจะเข้าไปได้อย่างไร

     2. กลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Level) เป็นเรื่องเกี่ยวกับการวิเคราะห์ SWOT หรือจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ ว่ามีอะไรบ้าง และจะสนับสนุนกลยุทธ์ระดับองค์กรได้อย่างไร กลยุทธ์ระดับนี้ต้องนำกลยุทธ์ในระดับองค์กรมาระบุแผนงาน หรือวิธีการที่จะใช้กับแต่ละตลาดให้มีความเหมาะสม ขับเคลื่อนโดยผู้จัดการและพนักงานในส่วนที่รับผิดชอบด้านการขับเคลื่อนแผนธุรกิจ

     3. กลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ (Functional Level) เป็นระดับของทีมที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ เช่น ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผู้จัดการฝ่ายไอที และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องนำพากลยุทธ์ตั้งแต่ระดับองค์กรและธุรกิจ มาทำให้สำเร็จและต้องสอดคล้องกันด้วย ผ่านการทำงานและการวางแผนในแต่ละวัน การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภายในและทีมงานต่างๆ และต้องมีการประเมินและวัดผลได้

     นอกจากนี้มีกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy)  คือ กลวิธีหรือแบบแผนเพื่อช่วยให้สินค้าและบริการเป็นที่น่าสนใจในสายตาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและตอบสนองการใช้งานของลูกค้า โดยจะต้องมีการวางแผน ตัดสินใจ และจัดสรรงบประมาณในการทำการตลาด เช่น แต่ละแคมเปญหรือโปรเจ็คต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะบรรลุเป้าหมายทางการตลาดและธุรกิจของคุณ โดยตัวอย่างกลยุทธ์ทางการตลาด คือ “STP Marketing” , “4Ps (Marketing Mix)” , “Campaign Marketing”   เป็นต้น

     อันที่จริงกลยุทธ์มีลักษณะทั้งความเป็นแบบแผน รูปแบบของกิจกรรมบางอย่าง สถานะ ตำแหน่ง หรือมุมมองขององค์กร ความสำคัญของกลยุทธ์ คือ จำเป็นต้องตอบคำถามว่าเราทำไปเพื่ออะไร (Why) เราอยู่ที่จุดไหน (Where) และ Tactic จะบอกว่าเราจะไปสู่จุดนั้นๆ ได้อย่างไร (How) กลยุทธ์จะช่วยให้เราไม่หลงทิศทางที่องค์กรได้ตั้งไว้

     แต่การที่จะออกมาเป็นกลยุทธ์ได้นั้น จำเป็นต้องมีความเข้าใจในบริบทต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งการที่จะรู้บริบทต่างๆ ได้นั้น ก็มาจากการทำ SWOT Analysis หรือการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ที่เป็นปัจจัยทั้งภายในและภายนอกองค์กร หรือ  PESTEL Analysis ที่วิเคราะห์ปัจจัยภายนอกได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น หรือการทำ 5 Force Model เพื่อดูสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อีกทั้งการวิเคราะห์ช่องวางทางการตลาดผ่าน Competitor Analysis และการเข้าใจผู้บริโภคผ่าน Consumer Analysis เป็นต้น

Tactics ดีพากลยุทธ์สำเร็จ

     Tactics ยุทธวิธี คือ แผนปฏิบัติการย่อยซึ่งอาจมีหลากหลายวิธีเพื่อให้ Market Strategy นั้นเป็นจริงได้ งานส่วนนี้มีได้หลายวิธี นั่นคือพวก Marketing tools ทั้งหมด เช่น ทำโฆษณา social media การทำ website การใช้เซลล์ออกไปขาย การทำแคตตาล็อก การทำ PR การทำกิจกรรมการตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นถ้าคุณเป็นพนักงานระดับปฏิบัติติการ คุณต้องแม่นส่วนนี้มากๆ เพราะคุณต้องเข้าใจแต่ละเครื่องมืออย่างลึกซึ้ง เพื่อผลักดันกลยุทธ์ให้เป็นจริงได้

  • Strategy คือการมองไปข้างหน้า มองว่าจุดที่ทำให้เราชนะคืออะไร จึงสำคัญมากๆสำหรับผู้บริหาร ถ้าไม่มี Strategy ต่อให้ทีมงานระดับปฏิบัติการทุ่มเทแค่ไหน ก็อาจไม่ได้ชนะตลาดจริง ส่วน Tactics ก็สำคัญเช่นกันตรงที่คนทำงานต้องเข้าใจเครื่องมือและทำแผนปฏิบัติการย่อยที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้กลยุทธ์เป็นจริงได้

 

  • ดังนั้น Strategy จึงต้องตอบคำถามเกี่ยวกับ WHY ให้ได้ คือ ทำไมลูกค้าต้องซื้อของเรา? ส่วน Tactics คือตอบคำถามเกี่ยว What? และ How ? นั่นก็คือเราจะมีแผนปฏิบัติงานอย่างไร ? โฆษณาช่องทางไหนบ้าง จะใช้สื่อใด เป็นต้น ดังนั้นผู้บริหารและคนทำงาน ต้องแบ่งหน้าที่กันให้ชัดนะคะ

 

  • Strategy จะอยู่ได้ยาวนาน เพราะมองถึงอนาคต ส่วน Tactics จะเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ในขณะนั้น

 

     ในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญและการพัฒนาหลายอย่างเกิดขึ้นในโลกแห่งกลยุทธ์ นี่คือไฮไลท์สำคัญบางประการ:

     1. Digital Transformation การแปลงเป็นดิจิทัล: องค์กรต่างๆ ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เร่งความพยายามในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การเปิดรับเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ การเรียนรู้ของเครื่อง และระบบอัตโนมัติกลายเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

     2. Agile Methodology : การนำวิธีการแบบ Agile มาใช้ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเน้นย้ำแนวทางการทำซ้ำและการทำงานร่วมกันในการจัดการโครงการ ทำให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

     3. Remote Work การทำงานจากระยะไกล: การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไดนามิกของการทำงาน ซึ่งนำไปสู่การยอมรับการทำงานจากระยะไกลอย่างแพร่หลาย บริษัทต่างๆ ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันเสมือนจริงและรับรองความต่อเนื่องทางธุรกิจ

    4. Data-Driven Decision Making การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: ความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้เพิ่มขึ้น องค์กรต่าง ๆ กำลังลงทุนในเครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จากข้อมูลปริมาณมาก ซึ่งทำให้พวกเขาตัดสินใจเลือกกลยุทธ์ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

     5. Cybersecurity ความปลอดภัยทางไซเบอร์: ด้วยการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ องค์กรต่าง ๆ จึงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและการรับรองความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวม

     6. Sustainability and ESG : ข้อพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มีความโดดเด่นในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ องค์กรต่าง ๆ กำลังปรับกลยุทธ์ของตนให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่การลดรอยเท้าคาร์บอน ส่งเสริมความหลากหลายและการอยู่ร่วมกัน และจัดการกับความรับผิดชอบต่อสังคม

     7. Disruptive Technologies : เทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น บล็อกเชน อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และความจริงเสริม (AR) ได้เข้ามาทำลายอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่าง ๆ กำลังวางกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน

     8. Geopolitical and Trade Shifts การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้า: เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงข้อพิพาททางการค้าและ Brexit มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ระดับโลก องค์กรต่าง ๆ ต้องสำรวจกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงและปรับกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพความสัมพันธ์ทางการค้า

5 องค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ธุรกิจ SME ที่ประสบความสำเร็จ

     การพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจ SME ที่ประสบความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวนำหน้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง นี่คือคำแนะนำทีละขั้นตอนที่จะช่วยคุณประสบความสำเร็จ:

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายของคุณ

  • เริ่มต้นด้วยการแสดงวิสัยทัศน์ระยะยาวของคุณอย่างชัดเจนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ คุณต้องการบรรลุอะไร คุณมองเห็นธุรกิจของคุณอยู่ที่ไหนในอนาคต?

 

  • กำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ บรรลุได้ เกี่ยวข้อง และมีขอบเขต (SMART) ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคุณ เป้าหมายเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของคุณ

 

ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์ SWOT

  • ทำการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมเกี่ยวกับจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคามของธุรกิจของคุณ (การวิเคราะห์ SWOT) ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนภายใน เช่น ความสามารถเฉพาะตัวหรือด้านที่ต้องปรับปรุง และโอกาสภายนอกและภัยคุกคาม เช่น แนวโน้มของตลาดเกิดใหม่หรือความท้าทายในการแข่งขัน

 

  • ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ SWOT เพื่อระบุด้านที่ธุรกิจของคุณสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและโอกาสในขณะที่ลดจุดอ่อนและภัยคุกคาม

 

ขั้นตอนที่ 3: ระบุตลาดเป้าหมายของคุณ

  • กำหนดตลาดเป้าหมายของคุณให้ชัดเจนและเข้าใจความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมของลูกค้า แบ่งกลุ่มตลาดของคุณตามปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลประชากร จิตวิทยา หรือพฤติกรรมการซื้อ

 

  • พัฒนาตัวตนของผู้ซื้ออย่างละเอียดซึ่งแสดงถึงลูกค้าในอุดมคติของคุณ รวมถึงคุณลักษณะ จุดบกพร่อง และแรงจูงใจของพวกเขา

 

ขั้นตอนที่ 4: สร้างข้อเสนอคุณค่าที่ไม่ซ้ำใคร Unique Value Proposition

  • กำหนดวิธีที่ธุรกิจของคุณจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างมูลค่าให้กับตลาดเป้าหมายของคุณ พัฒนาการนำเสนอคุณค่าที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร ซึ่งสื่อสารถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ

 

  • มุ่งเน้นไปที่ตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญ เช่น คุณภาพ ราคา ความสะดวกสบาย นวัตกรรม การบริการลูกค้า หรือความยั่งยืน

 

ขั้นตอนที่ 5: กำหนดกลยุทธ์และยุทธวิธีที่สามารถดำเนินการได้

  • จากการวิเคราะห์ของคุณ ให้ตั้งวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย ตลาดเป้าหมาย และคุณค่าที่นำเสนอ วัตถุประสงค์เหล่านี้ควรมีความเฉพาะเจาะจง วัดผลได้ บรรลุผล เกี่ยวข้อง และมีขอบเขต (SMART)

 

  • พัฒนากลยุทธ์และกลวิธีที่สามารถดำเนินการได้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของคุณ แบ่งกลยุทธ์ของคุณออกเป็นความคิดริเริ่มเฉพาะ จัดสรรทรัพยากร และกำหนดตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) เพื่อวัดความก้าวหน้า

 

  • ทบทวนและปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด ความคิดเห็นของลูกค้า และเมตริกประสิทธิภาพ

 

     โปรดจำไว้ว่าการสร้างกลยุทธ์ธุรกิจขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องทำซ้ำๆ ประเมินและปรับกลยุทธ์ของคุณอย่างสม่ำเสมอตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและข้อมูลเชิงลึกภายใน ปรับตัวและเปิดรับการทดลองเสมอเพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของคุณยังคงมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบไดนามิก

ที่มา : https://www.doyourwill.co.th/post/whatisstrategy

https://www.popticles.com/business/type-of-strategy/

https://www.marketingthai.or.th/marketing-strategy-or-tactic/

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น