TEXT / PHOTO : Nitta Su.
Main Idea
- The Tryst River Kwai คือ ที่พักสไตล์โมเดิร์น ที่มีจุดเด่นห้องพักแพริมน้ำรูปแบบทันสมัย มีอ่างอาบน้ำให้ใกล้ชิดธรรมชาติ มีสระว่ายน้ำส่วนตัว
- เปลี่ยนภาพลักษณ์แพริมน้ำรูปแบบเดิม ตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ต้องการความมะดวกสบาย และลักซ์ชัวรี่มากขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจกว่าหลายเท่าตัว
จะเริ่มต้นธุรกิจยังไง ถ้ามีเจ้าตลาดเดิมอยู่แล้วเต็มไปหมด?
เป็นปัญหาเจ้าของธุรกิจที่คิดอยากแสวงหาตลาดใหม่ในกลุ่มสินค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว ทำยังไงถึงจะแตกต่างจากคู่แข่งได้ วันนี้ชวนมาดูกรณีศึกษาของ The Tryst River Kwai ผู้บุกเบิกที่พักแพสไตล์โมเดิร์น เจ้าแรกๆ ในย่านน้ำตกไทรโยคน้อย ที่เปิดดำเนินการมากว่า 5 ปี อัพเกรดภาพจำเรือนแพไม้ไผ่ เป็นที่พักสุดชิคริมแม่น้ำแควน้อย อยู่ลึก อยู่ไกล แค่ไหนลูกค้าก็ตามไปพัก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการสร้างสินค้าขึ้นมาชิ้นหนึ่งเหมือนกัน
เปลี่ยนภาพจำวัยเยาว์ เป็นภาพธุรกิจสุดคูล
เพชร อรรถบุรานนท์ ผู้บริหารบริษัท เจเนอรัล รีเทลเลอร์ จำกัด เจ้าของ The Tryst River Kwai เล่าที่มาธุรกิจให้ฟังว่า
“ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อจะชอบพามาเที่ยวที่กาญจนบุรีบ่อยมาก ชอบพาไปพักในเรือนแพ เราคุ้นเคยกับที่พักสไตล์นี้มาตลอด จนถึงวัยเกษียณ พอดีมีที่ดินติดริมน้ำอยู่แปลงหนึ่ง ไม่ไกลจากน้ำตกไทรโยคน้อยมากตัก คุณพ่ออยากทำที่พักเรือนแพเล็กๆ ไว้ให้ครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อน ผมเลยเกิดไอเดียว่าไหนๆ จะต้องเสียเงินทำอยู่แล้ว น่าจะลองทำเป็นที่พักให้คนมาเที่ยว เพื่อหารายได้เข้ามาด้วย แต่จะทำรูปแบบเดิมๆ ก็คงต้องขายแบบเดิม ไม่แตกต่าง เลยพยายามมองหารูปแบบใหม่จากสิ่งที่คนยุคนี้ต้องการ ก็คือ ต้องสะดวกสบาย สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ เพราะเราเชื่อว่าด้วยคนยุคนี้ ไม่ซีเรียสว่าไกลแค่ไหน อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอแค่เราทำให้ดี ลูกค้าก็มาหา ถ้าสินค้าหรือบริการของเราเป็นที่ต้องการจริงๆ การท่องเที่ยวกาญจนบุรีเองก็ปรับจากเมืองรอง กลายเป็นเมืองหลัก เราเลยเชื่อมั่นว่าทำได้ แรกๆ คุณพ่อก็ไม่เห็นด้วย ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกันพอสมควร สุดท้ายก็ได้ทำออกมา” ผู้บริหารหนุ่ม เล่าที่มาให้ฟัง
3 กลยุทธ์ สร้างสินค้าโดดเด่นในตลาดเดิม
1.แตกต่าง ด้วยประสบการณ์ที่ดี
“ผมมองว่าโรงแรม ก็คือ โปรดักต์ชิ้นหนึ่ง เหมือนกับการทำสินค้าทั่วไป ซึ่งมองในมุมของธุรกิจที่พักที่จะดึงดูดลูกค้าได้ ก็คือ ห้องพักต้องสวย ต้องสะดวกสบาย, สถาปัตยกรรมภายนอกต้องโดดเด่น ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ เหล่านี้ คือ สินค้าทั้งหมด ส่วนการบริการ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ผมว่าถ้า 2 อย่างนี้บวกกัน คือ สินค้าดี บริการดี ยังไงลูกค้าก็มา แต่ความสวย ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย ดังนั้นเราต้องหากลุ่มลูกค้าของเราให้เจอ ว่าเป็นใคร และปั้นธุรกิจขึ้นมา เพื่อเสิร์ฟลูกค้ากลุ่มนั้น
“ด้วยรูปแบบห้องพักแพเมืองกาญฯ สมัยก่อนจะเป็นไม้ๆ ออกแนวธรรมชาติ เหยียบไปน้ำโดนขา ซึ่งไม่ใช่ไม่ดี แต่แค่เราอยากลองเปลี่ยนรูปแบบให้เพิ่มความสะดวกสบาย ดูทันสมัยมากขึ้น ในระดับห้องพักที่เป็นมาตรฐานแบบโรงแรม เพราะมองว่าในละแวกน้ำตกไทรโยคน้อย ยังไม่มีที่พักรูปแบบนี้ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังจ่าย หรือกลุ่มที่อยากได้ประสบการณ์ที่ดี และสามารถจ่ายได้ ดีกว่า ทำแบบทั่วไป รูปแบบเดิม แล้วก็ขายในราคาถูก ไม่แตกต่าง เมื่อทำออกมาเสร็จ เราจึงกลายเป็นที่พักที่มีห้องพักเรือนแพริมน้ำ สไตล์บูติกรายแรกๆ ในย่านนี้”
2.บอกออกไปให้รู้ว่ามีดียังไง
“เมื่อเชื่อมั่นว่าสินค้าดีแล้ว ก็ต้องโปรโมตออกไปให้คนรู้ ด้วยความที่เราอยู่ค่อนข้างไกล เรียกว่าแทบจะอยู่กลางป่า ถ้าไม่บอกออกไป ก็ไม่มีใครรู้ ดังนั้นออนไลน์จึงสำคัญกับเรามากๆ ยิ่งธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น ทุนน้อย ออนไลน์ คือ ตัวเลือกที่ดีเลย อย่างของเราในช่วงแรก ตอนเปิดใหม่ๆ เราให้อินฟลูเอนเซอร์, บล็อกเกอร์มาช่วยรีวิวให้เลย โดยไม่ได้ใช้งบเยอะ เอาแค่ที่เราจ่ายได้ บางคนก็ไม่ได้จ่ายเป็นเงิน แค่ให้มาพักฟรี เขาก็รีวิวให้ ถือว่าช่วยได้เยอะมาก พอไปผนวกกับดีไซน์ หรือประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากที่เราได้วางเอาไว้ ก็เกิดความประทับใจ ถ่ายรูปเช็คอิน และบอกต่อ ทำให้ช่วงแรกได้รับการตอบรับค่อนข้างดีเลย เป็นไวรัลเลยก็ว่าได้ เปิดมา 1-2 เดือนเต็ม เราเต็มตลอด ทุกวันนี้ยังจำได้ ต้องขอบคุณ เพจ FreeLance บ้าเที่ยว พอเขามารีวิวปุ๊บ คนก็ตามมาเยอะเลย อีกส่วนที่ช่วยได้ คือ การลงโปรโมตกับเว็บจองโรงแรม (Online Travel Agent หรือ OTA) ต่างๆ เช่น Agoda, Booking ก็ช่วยได้บ้าง”
3.มีให้ครบวงจร
“อีกข้อหนึ่ง ที่ผมมองว่าไม่แค่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้า แต่ทำรายได้เพิ่มให้กับธุรกิจด้วย ก็คือ การมีบริการที่ครบวงจร อย่างรายได้ของธุรกิจโรงแรม ผมว่ามาจาก 2 ส่วนหลัก คือ ค่าห้องพัก กับ อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งค่อนข้างเยอะประมาณ 15-20% เลยทีเดียว หากเราสามารถทำให้ลูกค้าอยู่กับเราได้ทั้งวัน กิน ใช้ เที่ยวเล่น อยู่ในที่พักได้ เราก็จะมีรายได้ตรงนี้เพิ่มขึ้นมา อย่างของเราลูกค้าอาจจะโดนบังคับโดยอัตโนมัติด้วยว่าเข้ามาแล้ว จะออกไปอีกก็ไกล เราเลยพยายามเซ็ตทุกอย่างให้มีครบ อย่างอาหาร ก็มีทั้งแบบร้านอาหารให้สั่งได้ หรือจัดเป็นเซ็ตหมูกระทะนั่งกินในสนามหญ้า สำหรับครอบครัวก็มีสนามเด็กเล่น, มีสวนสัตว์เล็กๆ ฯลฯ แต่สิ่งสำคัญ คือ เมื่อเราพยายามดึงเขาให้อยู่กับเราได้มากที่สุดแล้ว ทุกอย่างต้องดี ต้องเป๊ะ การรักษาคุณภาพ และบุคลากรต้องเอาอยู่ด้วย ห้ามพลาด เพราะเขาอุตส่าห์ มาไกลหาเราแล้ว ก็ต้องทำให้ได้”
จาก 3 ข้อที่ได้กล่าวมา ผู้บริหารหนุ่ม The Tryst River Kwai เล่าว่า ทำให้เขาสามารถเพิ่มมูลค่าราคาห้องพักประเภทแพริมน้ำ จากรูปแบบเดิมที่ขายกันห้องละประมาณ 600-800 บาท เป็น 1,500-3,000 กว่าบาท หรือบางประเภทที่เอ็กคลูซีฟสุดๆ มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ก็สามารถขายได้ถึง 5,000-6,000 บาท ทีเดียว
ฝากให้คิด ทำธุรกิจทุกวันนี้ควรระวังอะไรบ้าง?
จาก 3 กลยุทธ์ที่ The Tryst River Kwai นำมาใช้ทำสินค้าให้โดดเด่น แตกต่างจากเดิม ผู้บริหารหนุ่ม The Tryst River Kwai ยังฝากแง่คิดทิ้งท้ายถึงผู้ที่คิดอยากริเริ่มลงทุนทำธุรกิจเอาไว้ด้วยว่า
“ไม่ว่าจะคิดลงทุนอะไร อันดับแรกผมว่าควรจะวางแผนให้ดีก่อน ต้องมีแผนค่อนข้างชัดเจนอยู่ในมือ และต้องมีหลายๆ แผนด้วย ว่าถ้าแผนนี้ไม่ได้ เราจะไปทางไหนต่อ ยกตัวอย่างของผมในช่วงแรกๆ ด้วยความที่เป็นที่ดินของคุณพ่ออยู่แล้ว ก็ตัดเรื่องค่าเช่าตรงนี้ไป แต่ในการก่อสร้างด้วยความที่ตอนนั้นเป็นมือใหม่ และเรามีภาพในหัวอยู่แล้วว่าอยากจะทำออกมาประมาณไหน เราก็ลงมือทำเองเลย โดยไม่ได้จ้างผู้รับเหมา หรือผู้เชี่ยวชาญให้มาช่วยดูแล จึงทำให้ไม่มีการวางแผนงบประมาณตั้งแต่แรกว่าต้องใช้เท่าไหร่ เลยทำให้คุ้มรายจ่ายได้ยาก สุดท้ายก็บานปลาย
"ตอนนั้นจำได้ ลงทุนเพิ่มไปเรื่อยๆ ค่อนข้างเยอะมาก จนคุณพ่อเองก็เริ่มบ่นว่าไม่ไหวแล้ว โชคดีตอนนั้นเราไปยื่นกู้กับ SME D Bank เขามีโครงการช่วยผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยว เลยทำให้เรามีก้อนสุดท้ายมาปิดจบโครงการได้พอดี ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 2 ปี ซึ่งก็นานไปหน่อย ถ้าเรามีการวางแผนตั้งแต่ต้น อาจจะเร็วกว่านี้” ผู้บริหาร The Tryst River Kwai ฝากทิ้งท้ายเอาไว้
|
ข้อมูลติดต่อ โทร.083-9879-656 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
