Smokin’ Fish ร้านอาหารต่อยอดร้านข้าวแกงของแม่ ภายใต้นิยามใหม่ Borderless ปรุงอาหารได้ทุกสไตล์

TEXT / PHOTO : ชาญชัย หาสสุด

Main Idea

  •  Smokin’ Fish ร้านอาหารที่เชฟรักทั้งจานอาหารและรอยเท้าบนภูเขา ขายเมนูง่ายๆ แต่ไม่สั่ว

 

  • ร้านอาหารที่มีแม่เป็นต้นแบบ อยากเปิดร้านให้คนได้กินอาหารดีๆ เน้นความสุขของคนกิน ทำอาหารทุกจานด้วยความขอบคุณลูกค้า

     หากต้องนิยามการเดินทางให้เกินขอบกรอบของการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง การเรียนรู้และเติบโตคงเป็นความหมายนอกเส้นที่หลายคนไม่ได้ดำดิ่ง ทำนองเดียวกับสองคนหน้าเตาแห่ง Smokin’ Fish ที่ใช้วันปิดร้านเดินทางบ่อย จนค้นพบความงามของการเติบโตจากการเดินเขา

     บีเบอร์-สกุลยศ พงษ์เพ็ง เปิดเรื่องด้วยที่มาของร้าน Smokin’ Fish แบบคร่าวๆ

     “ร้านของเราเริ่มต้นบนพื้นที่เดียวกับร้านข้าวแกงของแม่  เมื่อแม่ไม่ได้ทำต่อ Smokin’ Fish จึงเปิดต่อ แม่เป็นต้นแบบทุกอย่างสำหรับผม มีทั้งความเนี๊ยบ ความละเอียดที่ติดตัวผมมา แม่จะสอนให้เห็นอกเห็นใจคนอื่น ถ้าซื้อวัตถุดิบ อาจจะต่อได้แต่แค่ครั้งเดียวพอ หลังจากนั้นถ้าเราอยากได้อะไร เขาก็ช่วยหาให้ได้ตลอด”

     บีเบอร์กำลังบอกผมว่า แม่คือทั้งหมดของการเดินทางที่เกิดขึ้นของร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้จนอายุจวบ 12 ปีแล้ว

     ส่วน บื๋ม-ชลทกานต์ กุลสถาพร สถาปนิกสาวคู่ชีวิตบีเบอร์ ที่ตัดสินใจมาเป็นผู้ช่วยในครัว เพราะรู้สึกว่าในนี้มีความสุขมากกว่าบนโต๊ะออกแบบ

     “เราทำงานเข้าขากันได้ดี รู้ใจกันมากกว่าคนอื่น ทำงานด้วยกันในครัว แทบไม่ได้พูดกันเลย แต่ทุก อย่างก็ออกมาดี อีกอย่างอาจเป็นไปได้ว่าคนอื่นอาจจะทนบีเบอร์ไม่ได้”

     บิ๋มตบเท้ายเกมติดตลก ในขณะที่บีเบอร์เล่าต่อ เมื่อผมถามถึงสไตล์ของอาหารในร้าน

     “ผมให้นิยามว่าเป็น Borderless ผมทำหมดทุกสไตล์ แรกๆ ทำ Wafu Pasta บางช่วงอินกับอินเดียก็เพิ่ม Masala อาจจะมีจีนมาบ้าง ไทยบ้าง ผมผสมหมดครับ”

     นอกจากนั้นทางร้านยังมีเมนูพิเศษแต่ละช่วงด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่หาได้ เช่น บางช่วงมีเมนูลิ้นวัว น่องเป็ด เป็นต้น

     “ที่นี่เราเน้นจานใหญ่เพื่อแบ่ง น่าจะเป็นร้านแรกในภูเก็ตที่มีเมนูพิคานย่าขาย ไม่ใช้อาหารแช่แข็ง ไม่ใส่ผงชูรส เรามีระบบหลังร้านที่ชัดเจนในการจัดการวัตถุดิบ รู้ว่าจะขายอะไรช่วงเวลาไหน เราใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลักที่มาจากตลาดทำให้ได้ราคาที่เหมาะสม เรากินของคุณภาพดีแบบไหน เราขายแบบนั้น เมนูอาหารไม่ยาก แต่ไม่สั่ว อีกอย่าง เมนูร้านเราไม่มีรูปภาพ เพราะอยากให้ลูกค้ามีปฎิสัมพันธ์กับเรา”

     บีเบอร์อธิบายให้ผมฟังถึงจุดเด่นของร้าน และหลายคนมองเห็นจุดนี้ชัดเจน จึงทำให้มีลูกค้าประจำที่คอยสนับสนุนให้ร้านอยู่ได้ถึงวันนี้

     ผมฟังเรื่องราวของ Smokin’ Fish จากบีเบอร์และบิ๋ม เห็นการเดินทางของร้านที่เชื่อมขยายมายังการเดินทางของพวกเขา สองสามปีมานี้ผมเห็นประกาศปิดร้านเพื่อไปเดินเขาอยู่บ่อยครั้ง

     บิ๋มและบีเวอร์กำลังเชื่อมโยงให้ผมฟังถึงการเดินทางที่ท้าทายชีวิตกับการทำร้านอาหารที่รักว่า

     “เมื่อวันหนึ่งเรารู้สึกว่า การใช้ชีวิตแบบ auto-pilot มันไม่ได้น่าสนใจอีกต่อไป ชีวิตมีแค่นี้ ต้องรีบใช้ การเดินเขาทำให้เขารู้สึกว่า สุดท้ายแล้วเป็นคนธรรมดา เหมือนภูเขาสอนให้เราโตขึ้น กลายเป็นคนไม่ก้าวร้าว ละอีโก้ได้ ทำให้เข้าใจอะไรง่ายขึ้น ส่งผลถึงการทำอาหาร การบริการลูกค้า”

     บีเวอร์สรุปให้ผมฟังสั้นๆ ว่า

     “เราได้ลูกค้าดี เข้าใจ ร้านที่เราทำกันเอง ได้เปรียบตรงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อาศัยความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา สุดท้ายความสุขทุกอย่างที่ทำก็เพื่อให้ลูกค้ามีความสุข”

     “พยายามทำอาหารทุกจานด้วยความขอบคุณลูกค้า”

     บิ๋มตบท้ายด้วยบทสนทนาค่ำคืนนั้น ผมเข้าใจความรู้สึกของคนทำอาหารที่ส่งตรงมาจากข้างใน ยิ่งทำให้เชื่อว่าทั้งบีเวอร์และบิ๋มคงคิดไม่ต่างกัน ถ้าให้ผมลองเปรียบเทียบปริมาณของการเดินทางกับความเยาว์ของวัยมนุษย์ ตอนนี้ Smokin’ Fish คงกลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวสุขุมใจกว้างและมากด้วยเหตุผล

รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/smokinfish.phuket?locale=th_TH

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ไอเดียสุดแสบ! ร้านออนไลน์จีนทำป้ายใหญ่  แก้ปัญหาลูกค้าใส่แล้วคืน

ถ้าเปิดกล่องเสื้อผ้าออนไลน์แล้วเจอแท็กใหญ่เท่ากระดาษ A4 พร้อมข้อความว่า “ห้ามคืนหรือเปลี่ยน หากป้ายถูกถอดออก” หรือซิปที่ถูกล็อกด้วยรหัสลับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวสุดแปลกใหม่ที่วงการอีคอมเมิร์ซจีนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

Stay with Tree Café จากร้านลึกสุดซอย สู่แบรนด์ที่เติบโตด้วยพลัง Storytelling

ซี-อภิรดี อัษรานนท์ เริ่มต้นทำคาเฟ่ด้วยใจรักกาแฟและบรรยากาศอบอุ่น แม้ร้านใหม่จะอยู่ลึก ซอยตัน ไม่มีแอร์ แต่เรื่องเล่าของร้านก็พาคนเข้ามาคาเฟ่แห่งนี้ และเค้กที่เริ่มจากศูนย์ ก็กลายเป็นธุรกิจเต็มตัว

กว่าจะได้เป็นมือขวาแม่ ทายาทร้าน 'ลาบก้อยซอยนานา' ใช้ Data และบัญชี ต่ออายุร้าน 10 ปีให้ยอดขายเพิ่ม 6 เท่า

เมล–ธนัท สุริยะภูมิ ทายาทรุ่นสองและวิศวกรเกียรตินิยมอันดับสอง ต่อยอดระบบเดิมโดยไม่ล้มของเก่า ใช้ Data และการทำบัญชี พลิกฟื้นร้าน “ลาบก้อย ซอยนานา” จาก 15 โต๊ะเกือบปิดกิจการ…สู่ยอดขายโต 6 เท่าใน 5 เดือน