SME Development Bank ออกสินเชื่อใหม่หนุน SME ท่องเที่ยวชุมชน-แฟรนไชส์ 7,500 ล้าน




     นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน วงเงินโครงการ 7,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและ/หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจแฟรนไชส์ ตลอดจนผู้ประกอบการในชุมชนและภูมิภาคที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินกิจการ รวมทั้งเสริมสภาพคล่องในการต่อยอดกิจการ 


     สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ กรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา กำหนดวงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท หากเป็นบุคคลธรรมดาที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท สำหรับนิติบุคคล วงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายไม่เกิน 15 ล้านบาท โดยวงเงิน 5 ล้านบาทแรกไม่ต้องใช้หลักประกัน สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันโดยจะได้รับการชดเชยค่าธรรมเนียม บสย. ใน 4 ปีแรก ระยะเวลาการกู้ยืมรวม 7 ปี กรณีใช้หลักประกันตามเกณฑ์ธนาคาร คิดอัตราดอกเบี้ย ดังนี้ ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR -1.5 ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR -1.0 ต่อปี กรณีใช้หลักประกัน บสย. คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ลูกค้าจะได้รับการช่วยเหลือฟรีค่าธรรมเนียม บสย. เป็นเวลา 4 ปี ปีละ 1.75% รวม 7% (รัฐบาลช่วยเหลือ 4% และอีก 3% เป็นการช่วยเหลือจาก ธพว.) ทั้งนี้ ต้องเป็นผู้ประกอบการที่ชำระหนี้ปกติตามเกณฑ์ของ ธพว.หรือเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสงค์จะยื่นกู้เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เป็นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเดิมหรือผู้ประกอบการรายใหม่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ลูกหนี้โอนหนี้ (Re-Finance) มาจากสถาบันการเงินอื่น 


     นายมงคล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวฯ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ธพว.เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ให้ผู้ประกอบการต่อยอดธุรกิจเข้ากับแหล่งท่องเที่ยว ทั้งโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ครอบคลุมธุรกิจท่องเที่ยวชุมชน ตลาดต้องชม ธุรกิจที่พัก-โรงแรม สถานบริการ สถานตากอากาศ ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึกหรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทั้งระบบ เป็นการสนับสนุนนโยบาย Local Economy ของรัฐบาลในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร อาทิ ร้านหนูณิชย์ติดดาว รถจำหน่ายอาหารเคลื่อนที่ (food truck) รวมถึงช่วยเหลือผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์แปรรูปผลไม้ ที่สามารถใช้วงเงินเพื่อรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร เก็บสต็อกสินค้าได้นานถึง 9 เดือน ตลอดจนธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถกู้ได้สูงสุดถึง 100% ของมูลค่าแฟรนไชส์ เนื่องจากข้อมูลพบว่า ธุรกิจในกลุ่มดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อดังกล่าวจะเข้าไปดูแลเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ 


     นายมงคล กล่าวอีกว่า โครงการสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชนฯ ครั้งนี้มีผลต่อเศรษฐกิจทางตรง คือ ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 7,500 ล้านบาท ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน 2,500 ราย (วงเงินสินเชื่อเฉลี่ยต่อราย 3 ล้านบาท) สามารถรักษาการจ้างงานได้ไม่น้อยกว่า 10,000 คน สร้างเงินทุนหมุนเวียนให้ระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 34,350 ล้านบาท ดังนั้นการสนับสนุนเงินทุนให้กับธุรกิจ SMEs จะทำให้การท่องเที่ยวกระจายไปสู่หัวเมืองรอง สอดคล้องกับประมาณการยอดนักท่องเที่ยวปี 2560 ที่คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 35 ล้านคน การพัฒนาชุมชน การบริการ ตลอดจนการผลิตสินค้าโดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อนี้จะช่วยให้ท้องถิ่นเกิดการพัฒนา สอดคล้องกับนโยบาย Local Economy ของรัฐบาลในจังหวัดต่างๆ ให้เตรียมพร้อมเข้าสู่เศรษฐกิจ 4.0 ต่อไป 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: FINANCE

EXIM BANK เปิดตัว “EXIM 2X” ปั้น GEN Y สู่เวทีการค้าโลก

EXIM BANK เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ GEN Y เจ้าของธุรกิจและทายาทรุ่นใหม่ สู่การเป็นนักรบเศรษฐกิจบนเวทีโลก ผ่านหลักสูตร “EXIM 2X” ที่มุ่งสร้างผู้ส่งออกไทยรายใหม่ปีละกว่า 100 บริษัท

ปิดตายจุดเสี่ยง 6 Trick ป้องกันทุจริตการเงินง่ายๆ ในธุรกิจ

เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร…การรอบคอบ ป้องกันเอาไว้ก่อน คือ สิ่งดีที่สุด นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ยังเป็นการช่วยปิดความเสี่ยง ยิ่งปิดได้มากเท่าไหร่ ธุรกิจก็ปลอดภัย ดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นเท่านั้น

รู้จัก Latte Factor หัวขโมยเงินออม ที่ซ่อนอยู่ในรายจ่ายเล็กๆ  

ชวนมาทำความรู้จัก “Latte Factor” แนวคิดทางการเงินที่ชี้ว่า “ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจ่ายไปทุกวันโดยไม่รู้ตัวนั้นสามารถสะสมกลายเป็นจำนวนเงินที่มากได้ในระยะยาว” ซึ่งถือเป็นตัวการที่ฆ่าความมั่งคั่งของเราได้แบบช้าๆ โดยที่ไม่ทันได้ระวังตัว