ตามหา "ผู้นำโดยธรรมชาติ" (ในบริษัท) เพชรล้ำค่าขององค์กร

 




 เรื่อง : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
           กรรมการบริหาร สลิงชอท กรุ๊ป



    ผมทำงานให้กับเจ้าของกิจการและธุรกิจห้างร้านหลายแห่ง ต้องยอมรับว่าปัญหาใหญ่ที่องค์กรต่างๆ ประสบคือ การสรรหาหัวหน้างานที่มีคุณภาพมาบริหารจัดการทีม หลายแห่งเลือกใช้วิธีรับคนจากภายนอก แต่พบว่าสัดส่วนความสำเร็จไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยมากเป็นปัญหาเรื่องการเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กร และการยอมรับของคนใน นอกจากนั้น การใช้คนนอกบ่อยๆ อาจทำให้ขวัญและกำลังใจของพนักงานเสียไป เพราะรู้สึกว่าโอกาสในความก้าวหน้ามีน้อย ดังนั้น ระยะหลังๆ องค์กรต่างๆ จึงหันมาให้น้ำหนักกับการคัดเลือกคนจากข้างในมากกว่า


    บ่อยครั้งที่การเลื่อนตำแหน่งมักอิงกับผลงานและประสบการณ์เป็นหลัก ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรหากงานนั้นไม่ต้องบริหารจัดการใคร แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อมีประเด็นเรื่อง “คน” เข้ามาเกี่ยวข้อง! พนักงานฝีมือดีหลายรายกลายมาเป็นหัวหน้าที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เป็นภาระและสร้างปัญหาให้กับองค์กร เพราะคน “เก่งงาน” อาจไม่ได้ “เก่งคน” เสมอไป


    แนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้คือ การมองหาพนักงานที่มีภาวะผู้นำโดยธรรมชาติภายในองค์กร ผู้ซึ่งสามารถขับเคลื่อนคนอื่นได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ฟังดูแม้ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เพราะโดยปกติในทุกๆ กลุ่ม มักมีผู้นำที่ไม่เป็นทางการอยู่ด้วยเสมอ


    Dr.Paul Hersey กูรูด้านการบริหารจัดการ ผู้คิดค้นโมเดลผู้นำตามสถานการณ์ (Situational Leadership) อันลือเลื่อง ให้คำจำกัดความภาวะผู้นำไว้ว่าหมายถึง “ความสามารถในการโน้มน้าวผู้อื่น” (Ability to Influence Others) หรือ John Quincy Adams ประธานาธิบดีคนที่ 6 ของสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าการกระทำของคุณสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น ทำให้เขาได้เรียนรู้มากขึ้น ฝันได้ไกลขึ้น และรู้สึกอยากลงมือทำอะไรมากขึ้น นั่นหมายความว่า คุณคือผู้นำแล้ว” 


    ผู้นำเกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่งในทุกองค์กรโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยตำแหน่ง เรามักเรียกคนเหล่านี้ว่า “ผู้นำหลังฉาก” (Hidden Leaders) ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ


    ผู้นำหลังฉากที่เน้นการสร้างสัมพันธ์ ได้แก่ พวกที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการออกปากชักชวนเพื่อนๆ ไปสรวลเสเฮฮา ปาร์ตี้ ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว ท่องเที่ยว เล่นกีฬา ฯลฯ คนพวกนี้มีความสามารถในการโน้มน้าว หว่านล้อม จูงใจ รวมทั้งกดดันให้คนเข้าร่วมกิจกรรม


    ผู้นำหลังฉากที่เน้นความสำเร็จเรื่องงาน ได้แก่ พวกที่ซีเรียสจริงจังในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น เป็นตัวตั้งตัวตีชวนเพื่อนๆ เข้าไปพูดคุยกับหัวหน้าหรือเจ้าของกิจการในเรื่องละเอียดอ่อนที่พนักงานทั่วไปมักไม่กล้าคุยเอง ช่วยผลักดันงานบางอย่างที่ไม่มีเจ้าภาพชัดเจน ให้ประสบความสำเร็จ เป็นต้น คนพวกนี้มีบารมีส่วนตัวที่ทำให้คนอื่นยอมรับ เชื่อถือและทำตาม


    หากสังเกตให้ดี เราจะพบคนเหล่านี้ในทุกหน่วยงานของทุกองค์กร ดังนั้น การค้นหาผู้นำโดยธรรมชาติ จึงควรเริ่มต้นจาก “ผู้นำที่เน้นงาน” เป็นอันดับแรก จากนั้นคอยเฝ้าดูคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ประกอบด้วย ก่อนตัดสินใจปรับเลื่อนตำแหน่งให้เห็นหัวหน้าตัวจริง


    ที่มาของการยอมรับ - เมื่อไม่มีตำแหน่งนำหน้า สิ่งที่ผู้นำหลังฉากจำเป็นต้องทำคือ การใช้บารมีส่วนตัวในการโน้มน้าวผู้อื่น ลองสังเกตดูว่าเขาสร้างบารมีด้วยวิธีใด ใช้ความสัมพันธ์ ใช้การข่มขู่ ใช้ความรู้ความเก่ง ใช้เงินซื้อมา ฯลฯ “บารมี” เป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารจัดการ หากหัวหน้าใหม่มีบารมีเก่าติดตัวมา ย่อมช่วยให้การทำงานกับทีมประสบความสำเร็จได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่บารมีมีที่มาหลากหลาย จงเลือกคนที่สร้างบารมีจากความสามารถมากกว่าการใช้วิธีการอื่นๆ


    ทัศนคติต่องานและองค์กร - เนื่องจากทัศนคติเป็นโรคติดต่อ อยู่ใกล้คนเช่นไรมักมีทัศนคติเช่นนั้น ดังนั้น การเฝ้าดูทัศนคติของผู้นำหลังฉากอย่างใกล้ชิด จึงเป็นเรื่องจำเป็นเพราะคนเหล่านี้มีอิทธิพลต่อคนรอบด้าน ทัศนคติที่ถูกต้องสะท้อนให้เห็นได้จากพฤติกรรมที่แสดงออก ดังนั้น การที่องค์กรกำหนดค่านิยมต้นแบบ (Core Values) ที่อยากเห็นให้ชัดเจน จะช่วยให้การประเมินว่า คนๆ นี้มีพฤติกรรมอย่างที่คาดหวังหรือไม่ ทำได้ง่ายขึ้น



    ความซื่อสัตย์และการรักษาคำพูด - ความซื่อสัตย์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ความสุจริต ไม่คดโกงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการกล้ายอมรับความจริงและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยไม่โทษสถานการณ์ภายนอกหรือโยนความผิดให้ผู้อื่น นอกจากนั้น ยังรวมถึงการพูดความจริงให้ครบถ้วนทั้งหมด ไม่ใช่แถไปว่า “ทุกอย่างที่พูดเป็นความจริง แต่ไม่ได้พูดความจริงทุกอย่าง” แบบที่หลายๆ คนใช้อธิบายเถือกๆ ไถ่ๆ ตอนถูกจับได้ว่าไม่ได้เล่าเรื่องให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ อันเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น


    ความสม่ำเสมอของผลสำเร็จ - การทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามที่ตั้งใจไว้ คือคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ดี ที่สำคัญความสำเร็จนั้นต้องเห็นผล อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายๆ องค์กรมักเริ่มต้นจากโครงการดีๆ ที่มาจากความคิดริเริ่มเจ๋งๆ แต่ขาดพลังผลักดันให้ดำเนินไปจนประสบผลสำเร็จ จึงทำให้มีงานหลายอย่างที่เริ่มต้นไว้แต่ปิดไม่ลง! ผู้นำหลังฉากที่ดี ต้องเป็นคนมุ่งมั่นในการผลักดันสิ่ิงที่ทำให้เสร็จ และประสบผลสำเร็จโดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างทาง ส่วนคนที่เป็นนักเริ่มต้นที่ดีแต่ทำไม่เสร็จสักอย่าง ไม่ควรเข้าข่ายได้รับการพิจารณา


    ให้ความสำคัญกับลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง - บุคคลที่เหมาะสมจะเติบโตมาเป็นหัวหน้าตัวจริง ควรแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญและสนใจคนอื่นๆ รอบตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าภายใน ซึ่งได้แก่ เพื่อนร่วมงานและหน่วยงานอื่นๆ ที่ติดต่อประสานงานด้วย หรือลูกค้าภายนอก ซึ่งหมายรวมถึงคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ เช่น สังคมและชุมชนรอบข้าง เป็นต้น เพราะความสำเร็จที่ยั่งยืนต้องอาศัยการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง ประกอบด้วย คนเก่งหลายคนทำตัวกร่างจนคนรอบข้างไม่ให้การยอมรับ คนเก่งบางคนเอาแต่ได้ โดยไม่สนใจคนอื่นหรือทีมอื่น คนเหล่านี้แม้สร้างความสำเร็จได้แต่ก็เป็น “ความสำเร็จชั่วคราว” ผู้นำหลังฉากที่น่าจับตามองคือคนที่คิดถึงคนอื่นด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว!


    คุณสมบัติทั้ง 5 ประการนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยคัดสรรหัวหน้างานที่เก่งคนโดยธรรมชาติ หากค่อยๆ มองหาและจับตาดูผู้นำหลังฉากที่มีศักยภาพพวกนี้ให้ใกล้ชิด หาโอกาสให้ทักษะและเสริมความรู้ในด้านการบริหารจัดการบ้างตามสมควร เมื่อถึงเวลาต้องสรรหา “หัวหน้าตัวจริง” พวกเขาคือเพชรล้ำค่า ที่พร้อมจะเจิดจรัสในเวลาที่เหมาะสม

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร