Cool office Culture…สร้างวัฒนธรรมองค์กรสุดเจ๋ง! ลดปัญหาคนรุ่นใหม่เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น





 
     ผู้ประกอบการหลายคนเริ่มบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงย้ายงานกันเป็นว่าเล่น เดี๋ยวออก เดี๋ยวเข้า วนไปเวียนมาจนน่าปวดหัว บางคนอาจนึกโทษแต่พนักงานจนลืมมองดูว่าออฟฟิศของคุณอาจจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่อยู่ด้วยยากก็เป็นได้ หลายออฟฟิศมีพนักงานที่ชอบเม้าจนทำให้พนักงานใหม่อยู่ไม่ได้ หรือหลายองค์กรอยู่ไปก็ไม่ก้าวหน้า เพราะฉะนั้นหากคุณอยากยกระดับองค์กรของตัวเองให้ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ รวมทั้งด้านการบริหารคน จงเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้น่าอยู่ตั้งแต่วันนี้

 
1. สร้างความไว้วางใจ โดยเริ่มต้นที่ตัวคุณ 

     ความไว้วางใจในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามาทำงานในฐานะคนทำงานไม่ใช่ลูกแหง่ ยิ่งการทำงานกับพวกเด็กยุค Millennial ที่มักจะมีความคิดเห็นเป็นของตัวเองสูง ถ้าคุณมัวแต่คอยสั่งว่าพวกเขาต้องทำอะไร คอยควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างและไม่ปล่อยให้พวกเขาใช้ความคิดหรือออกไอเดียอะไรเลย อาจจะทำให้พวกเขาบินหนีคุณไปเหมือนนกที่ถูกขังอยู่ในกรง สิ่งสำคัญคือความไว้ใจ คุณต้องปล่อยให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ ถ้าพวกเขารู้สึกว่าคุณไว้ใจให้พวกเขาทำงาน เมื่อนั้นคุณก็จะได้ใจจากพวกเขา
 

2. อย่าปล่อยให้ออฟฟิศเป็นสนามรบ

     หลายองค์กรมักจะปล่อยปละละเลยความบาดหมางของพนักงานด้วยกันเองเพราะเจ้านายอย่างคุณไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งรวมถึงการต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง แต่ถ้าคุณปล่อยให้พนักงานทะเลาะกัน นินทากัน ยิ่งมีแต่จะทำให้บรรยากาศของออฟฟิศมีแต่มลพิษ แถมยังกระทบพนักงานที่ไม่ได้มีปัญหากับใครอีกด้วย ดังนั้นเมื่อคุณรู้ว่าพนักงานคนไหนมีปัญหา คุณควรที่จะเรียกพวกเขามารับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น ดูสิว่าปัญหาที่มีอยู่มันเป็นเพราะอะไร หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งหรือแยกพวกเขาออกจากกัน เปลี่ยนคนดีลงาน ลดสภาวะที่ออฟฟิศจะกลายเป็นสนามรบให้ได้มากที่สุด


 

3. องค์กรคือโอกาสของการเติบโต 

     พนักงานหลายคนที่ทำงานที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน พวกเขามักจะพบเจอกับปัญหาอย่างหนึ่งคือเพดานตันในหน้าที่ ตำแหน่งของพวกเขาไม่มีการเติบโตหรือขยับขยายไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เมื่อถึงจุดนั้นพวกเขาจะเริ่มมองหาการเติบโตใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่ในองค์กรเดิมแน่นอน พอมาถึงจุดนี้คุณจะค่อยๆ เสียลูกน้องมือดีไปทีละคนเพราะลืมสนใจการเติบโตของพวกเขา ดังนั้นคุณควรที่จะเริ่มต้นจากการวางรากฐานตำแหน่งของบริษัทให้พนักงานสามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ ที่สำคัญคุณต้องหมั่นฝึกฝนพวกเขา เพิ่มความท้าทายในหน้าที่การงานให้พนักงานทุกคนมีโอกาสได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ บ้าง 
 

4. ใส่ใจในสวัสดิการ 

     คุณอาจจะคิดว่าพนักงานทุกคนทำงานแลกเงินเดือน แค่มีเงินเดือนให้ มีประกันสังคมให้ก็จบแล้ว แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าพนักงานทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตอยู่ที่ออฟฟิศมากกว่าอยู่ที่บ้าน เพราะฉะนั้นการที่บริษัทให้ความสำคัญกับชีวิตพนักงานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ใจพวกเขามากเท่าไหร่ ที่สำคัญยังเปลี่ยนองค์กรของคุณให้กลายเป็นองค์กรที่น่าทำงานเพิ่มขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงข้าวกลางวันฟรีทุกวันศุกร์ มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีประกันกลุ่ม ตรวจสุขภาพฟรีในแต่ละปี หรือจะจัดปาร์ตี้เพื่อเลี้ยงขอบคุณพนักงานทุก 3 เดือน ลองหันมาลงทุนกับสวัสดิการให้พนักงานมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรับพนักงานใหม่และเสียพนักงานเก่าไป 




5. สร้างออฟฟิศให้น่าทำงาน 

     หลังจากเรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดูจะเป็นนามธรรมแล้ว ลองมาสร้างความเป็นรูปธรรมมากขึ้น เริ่มต้นด้วยการรีโนเวท ปรับโฉมออฟฟิศของคุณให้มีความทันสมัยเพื่อก้าวทันแล้วยุคเทคโนโลยี เลิกใช้คอมพ์เครื่องใหญ่เทอทะ เปลี่ยนมาเป็นแล็ปท็อปที่ให้พนักงานสามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ สร้างออฟฟิศให้เหมือนห้องนั่งเล่น มีห้องประชุมแบบ Outdoor มีโซนพักผ่อน ลองนึกดูว่าทำไมออฟฟิศของ Google ถึงได้ติดอันดับออฟฟิศที่น่าทำงานด้วยทุกปี ก็เพราะเขามีสนามเด็กเล่นอยู่ในออฟฟิศน่ะสิ!  
 
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

สมองไม่ได้ล้าเพราะงาน แต่เพราะจอที่ไม่เคยพัก 9 วิธีง่ายๆ ในการฟื้นตัวจาก Digital Burnout

เหนื่อยทั้งวัน ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรมาก? บางทีเราอาจไม่ได้ล้าเพราะงาน…แต่ล้าเพราะ “จอ” ลองคืนพื้นที่ให้สมองอีกนิด ปิดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ไถฟีดให้น้อยลง และทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้ไกลก่อนนอนสักชั่วโมง ก็จะรู้สึกได้เลยว่า…หัวใจเบาขึ้นเยอะ

เปิด กฎ 8-8-8 สูตรลับจัดสรรเวลา หนุนธุรกิจ SME ให้ปัง ชีวิตส่วนตัวให้รุ่ง   

ทำธุรกิจไม่ง่าย แต่การดูแล “ตัวเอง” ให้ไหวตลอดทางก็สำคัญไม่แพ้กัน พบกับ กฎ 8-8-8 สูตร(ไม่)ลับแห่งการจัดสรรเวลา ที่คนทำ SME ควรจำไว้เสมอว่า 8 ชั่วโมง “ทำงานเต็มที่”, 8 ชั่วโมง “เติมพลังให้ชีวิต” และอีก 8 ชั่วโมง “นอนพักให้เต็มอิ่ม”

รู้จัก Meeting Hangovers อาการ “เมาค้างหลังประชุม” ที่สูบพลังคุณจนหมดแรง 

ประชุมเสร็จแต่เหมือนผ่านศึกหนัก สมองเบลอ หัวใจหมดไฟ ร่างกายหมดแรง งานตรงหน้าก็ยังไม่ขยับ นี่แหละที่เขาเรียกว่า Meeting Hangovers หรืออาการเมาค้างหลังประชุม ใครที่เป็นผู้ประสบภัยในเรื่องนี้ เรามีวิธีแก้แฮงค์ดีๆ มาฝาก