คนแบบนี้สิที่ SME ต้องมี! 7 ทักษะสร้างความอยู่รอด องค์กรยุค Next Normal

TEXT : รุจรดา วัฒนาโกศัย





Main Idea
 
 
  • โควิด-19 ทำให้เราก้าวเข้าสู่วิถีใหม่ มีวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไป มองหาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานและลดต้นทุน
 
  • การที่ SME จะอยู่รอดในยุค Next Normal ไม่ใช่แค่หาเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้เท่านั้น แต่ทุกองค์กรกำลังต้องการพนักงานที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วย และนี่คือ 7 ทักษะสำคัญที่ผู้ประกอบการยุคนี้ต้องมองหาจากคนทำงาน 


      การระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนทั่วโลกให้กลายเป็น New Normal การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ส่งผลกระทบต่อโลกของการทำงาน อะไรที่เราเคยคิดว่าเป็นเทรนด์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้หุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบคลาวด์ กลายเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องนำมาปรับใช้ในองค์กรเร็วกว่าที่คิดเพื่อเอื้อต่อการทำงานนอกสถานที่และลดต้นทุน ซึ่งนั่นหมายถึงพนักงานก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมทำงานในวิถีใหม่นี้ด้วย
              

       และนี่คือ 7 ทักษะสำคัญของพนักงานที่องค์กรยุค Next Normal ต้องมองหา
 


 
  1. พึ่งพาตัวเอง


      การพึ่งพาตัวเองเป็นทักษะสำคัญที่จะเติมเต็มการใช้ชีวิตในยุคนี้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องทำทุกสิ่งด้วยตัวเอง ไม่ใช่การแยกตัวจากสังคม หรือแบกรับความยากลำบากแล้วเผชิญกับมันเพียงลำพัง แต่การทำงานในปัจจุบันต้องการคนที่มีความคิดอย่างเป็นอิสระตามความรู้ความสนใจของแต่ละคน จะทำให้องค์กรได้ไอเดียหรือวิธีการทำงานที่หลากหลายและสร้างสรรค์ได้มากกว่าที่เคยเป็นมา
 



 
  1. ยืดหยุ่นในการทำงาน

      ความยืดหยุ่นเป็นทักษะที่ทำให้สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้นก็ตาม รวมไปถึงรับผิดชอบงานที่หลากหลาย คนที่มีทักษะความยืดหยุ่นจะได้รับความสนใจจากนายจ้างมากกว่า และมีโอกาสเติบโตในสายงานได้ดีกว่าด้วย
 



 
  1. จัดการเวลาได้ดี

       ความสามารถในการใช้เวลาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลผลิตสูงสุดภายในระยะเวลาที่กำหนดเป็นทักษะที่สำคัญ ซึ่งการจัดการเวลาเป็นเรื่องของการวางแผนการทำงานอย่างชาญฉลาดมากกว่าการทำงานให้หนักเข้าไว้


      ประโยชน์ของการจัดการเวลานอกจากจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทำงานให้ดีขึ้น รวมถึงได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นด้วย





 
  1. ปรับตัวเก่ง


       คนที่สามารถปรับตัวได้ดีหมายถึง สามารถทนแรงกดดันและรับมือกับความคาดหวังของเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานได้ ซึ่งการจะปรับตัวได้ดีนั้นต้องลองฝึกมองโลกในแง่ดี และสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานว่าควรต้องทำอะไรก่อนและหลัง
 
  1. ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี

       ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นจะช่วยให้ทำงานในระดับที่ยากขึ้นได้ เพราะมีคนช่วยระดมสมอง แบ่งปันความคิด ช่วยให้ดำเนินงานได้ย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับการคิดหรือลงมือเพียงคนเดียว ดังนั้น หากเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
 



 
  1. มีความชำนาญด้านเทคโนโลยี

       ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นทุกวัน องค์กรต่างๆ ไขว่คว้าหาเครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ไปจนถึงเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงาน บุคลากรในองค์กรจึงต้องตามเทคโนโลยีเหล่านั้นให้ทัน จึงจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขึ้นมาได้
 



 
  1. มีความคิดสร้างสรรค์

       ทุกธุรกิจกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน กระตุ้นให้ต้องคิดใหม่ ทำใหม่อยู่เสมอเพื่อหาทางรอด องค์กรส่วนใหญ่ตระหนักว่าต้องมองข้ามวุฒิทางการศึกษา แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทัศนคติที่มีต่องาน เพราะความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้สามารถค้นหาโอกาสใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีคิดแบบเดิมๆ
 
              
       SME ที่อยากสตรอง และอยู่รอดในยุค Next Normal ก็ต้องมองหาคนแบบนี้มาอยู่ในองค์กรของตัวเองให้ได้นะ
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

นายจ๋ารู้ยัง? ทำไมพนักงานถึงเปลี่ยนงานกันบ่อย!

สังเกตกันไหม ทำไมช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา เราถึงได้ยินข่าวการลาออก หรือการเปลี่ยนงานของพนักงานกันบ่อยมากขึ้น ยกตัวอย่างในปี 2021 มีสถิติรายงานว่าประชากรในสหรัฐอเมริการาว 47.4 ล้านคน (จากประชากรทั้งหมด 159 ล้านคน) ตัดสินใจลาออกจากงาน

DNA หรือ สภาพแวดล้อม อะไรมีผลต่อความสำเร็จทางธุรกิจมากกว่ากัน

ประเด็นถกเถียงเรื่องปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสำเร็จในชีวิตของบุคคลนั้นเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมาช้านาน ในขณะที่บางคนเชื่อว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือลักษณะทางพันธุกรรม (DNA) ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด อีกกลุ่มกลับมีความเห็นว่าสภาพแวดล้อมต่างหาก