จัดบ้านอย่างไรให้เหมาะกับยุค Work from Home เทคนิคจาก มาริเอะ คนโดะ

TEXT: อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

 

        ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อมาริเอะ คนโดะกันมาบ้าง เธอเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดบ้านชื่อดังอันดับต้นๆ ของโลก เคยเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลทรงอิทธิพลของนิตยสารไทม์สปี 2015 และเขียนหนังสือ “The Life-Changing Magic of Tidying Up” ซึ่งมียอดขายมากกว่า 6 ล้านเล่มทั่วโลก

        วันนี้ขอมาเเบ่งปันเทคนิคการจัดบ้านสำหรับคนที่ต้อง Work from Home ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดความเครียดจากการทำงานลงได้อีกด้วย

        หลายคนอาจมองข้ามการจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไป แต่จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง โดยคุณมาริเอะ ชักชวนให้คนยอมตัดใจทิ้งสิ่งของในบ้านที่ไม่ “สปาร์ก จอย” (Spark Joy) นั่นคือสิ่งใดก็ตามที่ไม่ได้นำความสุขมาให้อีกต่อไป 

       บางคนอาจซื้อเสื้อผ้ามาเก็บไว้โดยไม่เคยใส่เลยสักครั้ง หรือมีของสะสมที่ทิ้งไม่ลงแต่กลับไม่เคยดูแลสนใจดูแลเลย บางทีลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีของชิ้นนี้อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนยังคงทยอยซื้อของใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ของที่ไม่ถูกหยิบมาใช้ในชีวิตประจำวันมีมากขึ้นจนไม่มีที่เก็บ เมื่อที่เก็บไม่พอก็ต้องซื้อตู้เพิ่ม เมื่อช่องว่างในตู้ใหม่ยังเหลืออยู่ ก็ซื้อของมาเพิ่มอีก จนล้นตู้ แล้วก็ซื้อตู้ใหม่ หมุนวนอยู่ในวัฏจักรเช่นนี้ไม่รู้จักจบสิ้น

        มาริเอะแนะนำให้จัดการความเรียบร้อยตั้งแต่หน้าประตูบ้าน โดยจัดการหน้าบ้านให้สะอาดตาและเป็นระเบียบ เริ่มตั้งแต่รองเท้าที่ถอดวางไว้หน้าประตูบ้าน จากนั้นก็ขยับเช้าไปจัดระเบียบที่ห้องนั่งเล่นยันไปถึงห้องครัว โดยเฉพาะในตู้เย็นซึ่งตอนนี้หลายบ้านคงคล้ายกับกองภูเขาขนาดย่อม เนื่องจากกักตุนอาหารไว้มากมาย บางอย่างเน่าเสียไปแล้วโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ หนักไปกว่านั้นบางคนยังซื้ออุปกรณ์ทำครัวมาเพิ่มเติมอีกต่างหาก

          มาริเอะแนะนำเพิ่มเติมให้จัดหมวดหมู่ของวัตถุดิบต่างๆในตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ของสด หรือของจิปาถะ โดยให้คิดล่วงหน้าเกี่ยวกับเมนูที่จะทำ แล้วเก็บของให้เป็นลำดับ สิ่งที่ต้องใช้ก่อนอยู่ด้านนอก ของที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ด้านใน เป็นต้น

          สรุปใจความสำคัญง่ายๆ ของการจัดบ้านตามแบบมาริเอะคือ ไม่ละเลยความสะอาด ใส่ใจห้องครัวให้มากขึ้น และจัดหมวดหมู่ข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่เข้าทาง

         อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ทำงานจากบ้าน คุณมาริเอะยังแนะนำวิธีการแยกพื้นที่ทำงานและการพักผ่อนออกจากกันด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เธอมีคติที่ว่าพื้นที่ทำงานกับพื้นที่ส่วนตัวต้องแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดว่าไม่ใช่ทุกบ้านจะมีห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว หรือห้องทำงานแยกออกมาต่างหาก เพราะคนจำนวนไม่น้อยมีพื้นที่สี่เหลี่ยมเพียงห้องเดียว แต่ถูกใช้เป็นทั้งห้องทำงาน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนไปในตัว

         เธอจึงแนะนำว่า  หากอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อจบงานแล้วให้เก็บอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำงานทั้งหมดลงกล่อง เก็บใส่ตู้ หรือวางให้พ้นจากสายตา และต้องทำแบบนี้ทุกวันแม้ขี้เกียจมากแค่ไหนก็ตาม เพื่อทำให้บรรยากาศในบ้านกลับมาเป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกครั้ง

       ลองดูนะครับ เรื่องง่ายๆ ที่อาจถูกมองข้ามไป

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย